บทที่ 72 สองแม่ลูกโจวเสี่ยว
ตู้เทียนหมิงพูดออกมาด้วยความโมโหว่า “นี่นายกำลังพูดแดกดันเหรอ”
ตู้เทียนหัวแค่นยิ้มออกมา “พี่ใหญ่ อย่าบอกนะว่าพวกพี่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร รู้ไหมว่าทำไมตระกูลตู้ถึงมาอยู่ในจุดนี้ เพราะพวกพี่คิดว่าเมืองจินโจวเป็นของพวกพี่ยังไงล่ะ ทำอะไรไร้ความปรานี นี่แหละคือจุดจบของตระกูลเรา ถ้าวันนี้เขาจะฆ่าตระกูลเราทั้งตระกูล พี่คิดว่ามันเป็นเรื่องยากเหรอ”
พูดจบ ตู้เทียนหัวจึงเดินออกไปด้วยความเคียดแค้น ไม่แม้กระทั่งจะมองศพพ่อและน้องชายของตัวเอง!
หลังจากที่ออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลตู้ เขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างหดหู่ “ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ยังไงเมืองจินโจวก็ต้องเป็นของตระกูลเย่”
ก่อนหน้านี้ตู้เทียนหัวเคยพูดแบบนี้ แต่กลับโดนพ่อสั่งสอนมายกใหญ่ หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์หลายอย่างเกี่ยวข้องกับเย่เทียน ดังนั้นความบาดหมางระหว่างเขากับตระกูลเย่ยังคงคลุมเครือ
ตู้เทียนหมิงมองตู้เทียนหัวอย่างไม่ได้ดั่งใจ จากนั้นจึงมองศพสองศพที่อยู่บนพื้น เขากวาดตามองคนในตระกูลที่กำลังตัวสั่นงันงก เขาอยากแก้แค้น แต่เขาจะเอาอะไรไปแก้แค้นล่ะ
หลังจากที่ออกมาจากตระกูลตู้
เทียนขุยถามขึ้นว่า “จอมพลโผ้จวิน ไม่ต้องทำลายตระกูลตู้ทั้งตระกูลเหรอครับ”
จากนิสัยของฟางเหยียน การที่ไม่จัดการคนทั้งตระกูลตู้ ทำให้เทียนขุยแปลกใจเล็กน้อย นี่คือสงครามที่ไม่มีการอ่อนข้อให้ใคร ถึงศัตรูจะยอมแพ้ แต่เขาก็ไม่ปล่อยไปแน่นอน ต้องฆ่าให้เกลี้ยง!
นอกจากนี้เขายังบวงสรวงเหล้า เป็นสัญญาณแห่งการฆ่า ทำแบบนี้ไม่เหมือนสไตล์ของจอมพลโผ้จวินเลยแต่ เทียนขุยรู้สึกสงสัย เมื่อจอมพลโผ้จวินมาที่เมืองนี้และพบกับคุณผู้หญิง เขาก็เปลี่ยนไป!
ฟางเหยียนมองเทียนขุย และพูดอย่างจริงจังว่า “ถ้าอยู่ในสนามรบ พวกเขาคงไม่รอดแม้แต่คนเดียว แต่ที่นี่ไม่ใช่สนามรบ”
ประโยคสุดท้ายเต็มไปด้วยความรู้สึก เทียนขุยไม่เข้าใจ แต่ก็แสร้งพยักหน้าเหมือนเข้าใจ
“เทียนขุย ส่งคนไปจับตาดูแก๊งเก้ามังกร ไปดูว่าพวกนั้นมีความเคลื่อนไหวอื่นหรือเปล่า” ความเยือกเย็นฉายออกมาจากแววตาของฟางเหยียน
เทียนขุยอึ้งไป จากนั้นจึงถามขึ้นว่า “จอมพลโผ้จวิน คุณกังวลว่าเบื้องหลังของตระกูลเซียวคืแก๊งเก้ามังกรใช่ไหมครับ”
“ลองไปสืบดู ไม่ว่ายังไงเราก็ไม่ควรประมาท ฉันไม่อยากให้ความประมาทเพียงเล็กน้อยส่งผลกระทบกับแผน และความปลอดภัยของภรรยาฉัน” ฟางเหยียนพูดอย่างสบายๆ แต่แสดงออกถึงความเป็นห่วงที่มีต่อเย่ชิงหยู่
“ครับ!” เทียนขุยรับคำสั่ง และเดินออกไป
ขณะนั้น ฟางเหยียนรับโทรศัพท์สายหนึ่ง
“ฮัลโหล สวัสดีครับคุณชาย ฉันคือหวังชิงชิง ฉันเป็นผู้รับผิดชอบหลักของฟางซื่อกรุ๊ปที่เมืองจินโจว ฉันอยากเชิญคุณชายมาเปิดงานประชุมครั้งใหญ่ ไม่ทราบว่าคุณชายสะดวกหรือเปล่า”
เสียงปลายสายเป็นเสียงหวานของผู้หญิง
ฟางเหยียนลังเลครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าฟางจินหยวนจะเล่นเร็วขนาดนี้ เขาก่อตั้งฟางซื่อกรุ๊ปที่เมืองจินโจวจริงๆ
“ขอโทษ ผมไม่สนใจ” พูดจบ ฟางเหยียนจึงตัดสายทันที
เขาไม่สนใจด้านธุรกิจจริงๆ ถ้าจะให้พูดจริงๆ เขาไม่สนใจเรื่องเงินเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้สำหรับเขาการที่ได้เห็นเย่ชิงหยู่ยิ้ม เขาก็พอใจที่สุดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ