บทที่ 73 ถนัดเรื่องฆ่าคน – ตอนที่ต้องอ่านของ จอมนักรบทรงเกียรติยศ
ตอนนี้ของ จอมนักรบทรงเกียรติยศ โดย โซ่วปี่หนานซาน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 73 ถนัดเรื่องฆ่าคน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 73 ถนัดเรื่องฆ่าคน
จู่ๆ เย่ชิงหยู่ถามขึ้นอย่างประหลาดใจ “จริงเหรอ คุณอาโจวทำงานที่ฟางซื่อกรุ๊ปของตระกูลฟางในเจียงตูจริงเหรอคะ” ตอนที่ถาม สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเลื่อมใสและชื่นชม
ตระกูลฟางถือเป็นตำนานสำหรับเธอ เป็นตระกูลที่สูงส่งและไกลเกินกว่าที่จะเอื้อมถึง
คุณนายโจวเห็นเย่ชิงหยู่ถามเช่นนั้น ก็มีสีหน้าได้ใจ “ใช่ ฟางซื่อกรุ๊ปของตระกูลฟางในเจียงตู เหล่าโจวทำงานเป็นผู้จัดการแผนกทรัพยากรบุคคลน่ะ”
ผู้จัดการแผนกทรัพยากรบุคคล เมื่อเย่ชิงหยู่ได้ยินว่าแผนกทรัพยากรบุคคลก็รู้ทันทีว่าเป็นแผนกที่สามารถตัดสินว่าจะให้พนักงานอยู่หรือไป ตำแหน่งนี้ถือว่าเป็นตำแหน่งสูงในบริษัท ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นธุรกิจของตระกูลฟางอีกด้วย
“อ้อ น้าเติ้ง หนูมีเรื่องที่ไม่เข้าใจอยู่เรื่องหนึ่ง ทำไมตระกูลฟางถึงไม่ทำงานในเมืองใหญ่ แต่กลับมาทำธุรกิจในเมืองเล็กๆ อย่างเมืองจินโจวล่ะคะ” เย่ชิงหยู่ประหลาดใจกับการมาถึงอย่างกะทันหันของตระกูลฟาง
คุณนายโจวหัวเราะแล้วพูดว่า “ได้ยินเหล่าโจวบอกว่าเพราะคุณชายในตระกูลฟาง คุณชายท่านนี้ออกจากตระกูลฟางไปตั้งแต่เด็ก ตอนนี้หาเขาเจอและอยากให้เขากลับไปสืบทอดธุรกิจของตระกูลฟาง แต่กลับโดนเขาปฏิเสธ เพื่อแสดงความจริงใจ ตระกูลฟางจึงใช้ชื่อของเขาสร้างฟางซื่อกรุ๊ปที่เมืองจินโจว และคนที่มีอำนาจจริงๆ คือคุณชายท่านนั้น”
ฟางเหยียนแสยะยิ้ม คิดไม่ถึงว่าข่าวนี้จะแพร่สะพัดออกไปแล้ว ดูท่าว่าตระกูลฟางจะเก็บความลับไม่อยู่
จู่ๆ เย่ชิงหยู่เบิกตาโพลง จากนั้นจึงพูดว่า “คิดไม่ถึงว่าเขาจะปฏิเสธการสืบทอดธุรกิจของตระกูล เขาเป็นคนยังไงกันแน่”
ปฏิเสธตระกูลฟาง สำหรับคนที่ทำธุรกิจเป็นเรื่องที่ไม่อยากจะเชื่อ การที่ตระกูลฟางเลือกให้เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ยิ่งกว่าได้รางวัลใหญ่เสียอีก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นผู้สืบทอดตระกูลอีกต่างหาก
เหมือนเย่ชิงหยู่คิดอะไรขึ้นมาได้อีก “งั้นคุณชายตระกูลฟางท่านนั้นอยู่ที่เมืองจินโจวหรือเปล่าคะ”
คุณนายโจวพยักหน้า “ใช่ เหล่าโจวบอกว่าอยู่ที่เมืองจินโจว”
เย่ชิงหยู่เอามือกอดอก สีหน้าของเธอเหมือนกำลังครุ่นคิด “ไม่รู้ว่าฉันจะรู้จักคุณชายตระกูลฟางคนนั้นหรือเปล่า ถ้ารู้จัก ไม่แน่ว่าอาจจะ…”
คิดไปคิดมา เย่ชิงหยู่จึงเผยยิ้มออกมา
จู่ๆ โจวเสี่ยวที่เงียบมาโดยตลอดก็เงยหน้าขึ้นมาพูด “ฉันได้ยินมาว่าคุณชายคนนั้นหล่อและยังหนุ่ม เขามีความสามารถโดดเด่น อีกทั้งยังเป็นหนุ่มโสดอีกด้วย”
โจวเสี่ยวแทบจะไม่เข้าร่วมวงสนทนาในหัวข้ออื่น แต่เมื่อได้ยินเกี่ยวกับคุณชายของตระกูลฟาง เธอจึงอดพูดออกมาไม่ได้ ตอนที่พูดสีหน้าของเธอเหมือนกำลังฝันหวาน ราวกับคาดหวังว่าตัวเองจะได้เจอกับคุณชายท่านนั้น
คุณนายโจวรีบพูดขึ้นมาทันที “แกอย่าไปฟังคนพูดเรื่อยเปื่อย ขนาดพ่อของแกยังไม่รู้ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง แต่ฉันเชื่อว่าเขาเป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถ ไม่งั้นตระกูลฟางคงไม่อ้อนวอนเขาแทบเป็นแทบตายหรอก”
“งั้นก็ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาเป็นคนยังไง ถึงทำให้ตระกูลฟางก่อตั้งธุรกิจในเมืองเล็กๆ เพื่อเขาได้” เย่ชิงหยู่พูดอย่างทอดถอนใจ
แซ่ฟาง! จู่ๆ เหมือนเธอคิดอะไรได้ หญิงสาวหันขวับไปหาฟางเหยียน
ฟางเหยียนก็แซ่ฟางไม่ใช่เหรอ แถมยังมาอยู่ที่บ้านของเธอตั้งแต่เด็ก หรือว่าจะเป็นฟางเหยียน
เธอรีบสลัดความคิดนี้ออกไป ฟางเหยียนไม่มีมาดของคุณชายเลยสักนิด
ถ้าเป็นฟางเหยียนจริงๆ ก็ดีน่ะสิ ตัวเธอจะได้เป็นคุณนายตระกูลฟาง แค่คิดก็มีความสุขแล้ว
แต่เย่ชิงหยู่ไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบสิ่งของนอกกายขนาดนั้น การเพ้อฝันชีวิตของตัวเองเป็นเรื่องปกติของมนุษย์
จางเจียวเจียวถอนหายใจ แล้วพูดว่า “มันคือโชคชะตาน่ะสิ บางคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง บางคนเกิดมาต้องปากกัดตีนถีบ โชคชะตาของคนเราทำได้เพียงอิจฉาและชื่นชมเท่านั้น”
ฟางเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร จางเจียวเจียวรีบพูดขึ้นมาว่า “จะเต็มใจไม่เต็มใจอะไรอีกล่ะ ฉันเห็นฟางเหยียนวันๆ ว่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นธุรกิจของตระกูลฟางเชียวนะ คนทั่วไปเข้าไปไม่ได้หรอก ขอแค่เข้าไปในฟางซื่อกรุ๊ป ต่อไปพวกเราจะได้ลืมตาอ้าปากในเมืองจินโจว ฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ฟางเหยียนน่าจะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธ”
โจวเสี่ยวส่งเสียงเหอะออกมา จากนั้นจึงพูดเยาะเย้ยว่า “เขาจะทำอะไรได้ อย่าบอกนะว่าจะไปเฝ้าประตู”
คุณนายโจวเอ่ยขึ้นว่า “อย่าพูดแบบนั้นสิโจวเสี่ยว น้าจางเป็นเพื่อนรักของแม่นะ”
แต่ว่าโจวเสี่ยวดูถูกฟางเหยียนทางแววตา และยังทำท่าทีหยิ่งยโสอีกด้วย
“ใช่สิฟางเหยียน นายถนัดด้านไหนล่ะ ฉันจะให้คุณอาโจวหางานที่เหมาะให้นาย” คุณนายโจวหันไปหาฟางเหยียนแล้วถามขึ้น
ฟางเหยียนมองคุณนายโจวอย่างประเมิน จากนั้นจึงพูดเนิบๆ ออกมาสองคำ “ฆ่าคน!”
เขาไม่ถนัดด้านไหนจริงๆ นอกจากการฆ่าคน ฆ่าคนในสนามรบนับไม่ถ้วน จึงได้ฉายาจอมพลโผ้จวินมา ดังนั้นนอกจากการฆ่าคนเขาก็ไม่ถนัดเรื่องอื่นอีกเลย
คำพูดของฟางเหยียนทำให้สองแม่ลูกอึ้งไป สีหน้าของจางเจียวเจียวเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอรู้เรื่องที่ฟางเหยียนเคยฆ่าคน ลู่หย่องถิงอะไรนั่นก็โดนเขาฆ่าไม่ใช่หรือไง
เธอเลยรีบพูดขึ้นว่า “เธออย่าเข้าใจผิด เด็กคนนี้ก็เป็นแบบนี้แหละ เขาชอบพูดเล่นน่ะ”
เย่ชิงหยู่รีบพูดขึ้นว่า “อย่าพูดไร้สาระสิฟางเหยียน น้าเติ้งอยากให้นายมีชีวิตดี อีกอย่างธุรกิจของตระกูลฟางก็ดีมาก คนทั่วไปเข้าไปทำงานในนั้นไม่ได้หรอก”
ฟางเหยียนมองเย่ชิงหยู่ด้วยสีหน้าราบเรียบ เขาคิดในใจว่า แค่เย่ชิงหยู่อยากได้ เธอสามารถได้ตระกูลฟางทั้งตระกูล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ