“ฝีมือดีไร้คู่แข่ง? ”อู๋จี๋หัวเราะเยาะ“ฉันนึกว่าแกจะหลบซ่อนไปได้นานถึงเท่าไหร่กัน! ”
พูดจบอู๋จี๋ก็พร้อมลงมือ!
ชายคนนั้นอ้อนวอนขอความเมตตาในทันที “ท่านผู้อาวุโส โปรดเมตตาข้าด้วยเถอะ ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อร้องขอความตาย แต่ข้ามาที่นี่เพื่อบอกเรื่องบางเรื่องกับท่านผู้อาวุโส เป็นเรื่องสำคัญที่ว่าผู้อาวุโสจะแก้แค้นได้หรือไม่ได้นั้นเอง”
“อะไรนะ?” อู๋จี๋ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยความสงสัย “พูดมา!”
ใช่แล้ว คนที่ปรากฏตัวที่นี่ก็คือหยินฮว่า!
ตั้งแต่สาขาขององค์กรนินจาถูกทำลายพวกเขาก็รีบจัดการวางแผนและตรวจสอบในทันที และหลังจากยืนยันว่าบุคคลนี้ยังอยู่ที่สำนักไร้หน้าเขาก็รีบเดินทางมาในทันที เดิมทีเขาต้องการปรากฏตัวโดยตรง แต่พบว่ามีผู้มีฝีมือสูงสองคนปรากฏขึ้นทีละคน เขาจึงทำได้เพียงรอจนถึงตอนนี้
แต่เมื่อเขาเห็นอู๋จี๋ก่อเหตุสังหารปรมาจารย์ด้วยสองตาของตัวเขาเอง เขาก็รู้สึกเพียงว่าหัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมา!
แข็งแกร่ง!
ช่างแข็งแกร่งอะไรเยี่ยงนี้!
อย่างที่ทราบกันดีว่าในประเทศหวามีนินจาระดับปรมาจารย์เพียงสี่คนเท่านั้น แต่เขาสามารถฆ่านินจาระดับปรมาจารย์ได้อย่างง่ายดาย บุคคลอันตรายนี้จะปล่อยให้มันลอยหน้าลอยตาไม่ได้!
พลังอำนาจที่น่าเกรงขามหายไปในทันที หยินฮว่าจัดแต่งทรงผมและเสื้อผ้าของเขาให้เรียบร้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่ว่า “ท่านผู้อาวุโสได้สังหารบางส่วนขององค์กรนินจา ข้าเพียงแค่ต้องการรู้สิ่งหนึ่งนั่นก็คือสาเหตุที่สำนักไร้หน้าก่อเหตุสังหาร เผอิญข้าได้ไปรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพอดี”
ปัง!
หยินฮว่าโดนเตะกระเด็นออกไปสามเมตร
เขาลุกขึ้นแล้วถามอย่างงุนงง “ท่านผู้อาวุโส ท่านทำอะไร?”
“ข้าไม่ได้ต้องการมาฟังเองพูดเรื่องไร้สาระ!”อู๋จี๋กล่าวอย่างเลือดเย็น“ถ้ามีครั้งหน้าอีกแกตายแน่!”
หยินฮว่าเช็ดเลือดจากมุมปาก “ท่านผู้อาวุโส คนที่ทำลายสำนักไร้หน้าของท่านคือคนที่ชื่อว่า
ฟางเหยียน! ”
“ฟางเหยียน?” อู๋จี๋พยายามนึกชื่อนี้ในใจ แต่หลังจากนึกคิดอยู่นาน เขาก็ทำได้เพียงส่ายหัว เขาจำไม่ได้ว่ามีผู้นำสูงสุดชื่อนี้เมื่อร้อยปีที่แล้ว
หยินฮว่าสังเกตเห็นความอยากรู้ของอู๋จี๋ จึงไม่กล้าพูดอ้อม ย้อนยอก รีบชี้บอกตัวตนของเขาคนนั้นโดยตรง "เขาเป็นจอมพลทหารสูงสุดที่ปกป้องดินแดนของประเทศหวา จอมพลแห่งการทำลาย!"
แม้ว่าเขาจะอยู่อย่างสันโดษมาร้อยปีและละเว้นเรื่องทางโลกแล้ว แต่อู๋จี๋ก็พอจะรู้ว่าบุคคลที่สามารถเป็นจอมพลสูงสุดได้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เมื่อครุ่นคิดสักพักอู๋จี๋ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมในเมื่อเขาเป็นถึงจอมพลสูงสุดที่ปกป้องแผ่นดิน ถึงยังต้องทำลายสำนักไร้หน้าได้พังพินาศย่อยยับขนาดนี้? สำนักไร้หน้าก็สืบทอดกันมากว่าพันปีแล้ว และยังอยู่ภายใต้การคุ้มครองของประเทศหวาอีกด้วย
เขารู้สึกสงสัยอยู่ในใจ!
ใช่แล้ว!
สำนักไร้หน้าไม่ใช่องค์กรชั่วร้ายซะหน่อย ต่อให้มีการต่อสู้กันภายใน แต่สำหรับเรื่องของประเทศชาติแล้วพวกเขาไม่เกี่ยงงอนในเรื่องที่ควรกระทำ คนที่มีทรัพย์สินก็ลงทุนในด้านทรัพย์สินไป ส่วนคนที่มีพละกำลังก็ลงทุนในส่วนนี้ไป
หยินฮว่าดูออกว่าอู๋จี๋ไม่เชื่อในคำพูดของตน จึงต้องพูดเสี้ยมต่อไปว่า “ท่านผู้อาวุโส เหตุผลหลักที่สำนักไร้หน้าถูกทำลายก็เพราะว่าภริยาของจอมพลท่านนี้ถูกกลั่นแกล้ง คนที่กลั่นแกล้งเธอก็คือแก๊งซินหงครับ จอมพลโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแทนภริยาของเขา เขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะกำจัดแก๊งซินหงในเมืองจินโจว และด้วยเหตุนี้สำนักไร้หน้าจึงถูกกำจัดไปด้วยครับ!”
“ดังนั้นสำนักไร้หน้าจึงถูกทำลายพังพินาศย่อยยับ!”
ทันใดนั้นไฟแห่งความโกรธลุกโชนขึ้นในใจของอู๋จี๋ รังสีแห่งความสังหารแผ่ซ่านไปทั้งตัวของเขา!
ฆ่าทำลายเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว!
จอมพลคนนี้ช่างโอหังคลั่งอำนาจยิ่งนัก!
หยินฮว่ารู้ดีว่าไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมกับคนที่แกร่งกล้าประเภทนี้ ความตรงประเด็น
เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
“ท่านผู้อาวุโส ข้ามาจากองค์กรสัตว์เพลิงครับ!”
เมื่อกล่าวถึงองค์กรสัตว์เพลิง อู๋จี๋ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย!
เขารู้จักองค์กรสัตว์เพลิงดีอยู่แล้ว!
ร้อยปีที่แล้วเขาได้ไปที่องค์กรสัตว์เพลิงเพื่อกำจัดผู้นำองค์กรของเขา และสามารถเข้าควบคุมสำนักไร้หน้าได้สำเร็จ แต่เขากลับถูกคนอื่นตัดหน้ามาแย่งชิงไป ทำให้เขาอับอายขายหน้าไปทั่วสารทิศ ในเวลานั้นเขารู้ดีว่าความแข็งแกร่งเท่านั้นที่เป็นตัวแทนของทุกสิ่ง!
มันคือลมเปลี่ยนทิศ!
ไม่น่าเชื่อว่าความอัปยศเมื่อร้อยปีที่แล้วจะเป็นผลดีในอีกร้อยปีต่อมา!
นี่คือประโยชน์ของความแข็งแกร่ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ