ซ่งอู่ฮุยเพิกเฉยต่อความโมโหของซ่งหยิง แล้วพูดเข้าประเด็นทันที : “ตอนนี้ยังฝังพี่ใหญ่ไม่ได้ การตายของเขาแปลกประหลาดเกินไป!”
หลินชื่อนัยน์ตาแข็งกร้าวขึ้นมา หันไปมองหลินเทียนอย่างอดไม่ได้ หลินเทียนส่ายหน้าเล็กน้อย
“อารอง พ่อฉันถูกจอมพลโผ้จวินฆ่าตายไม่ใช่เหรอ? เรื่องนี้มีบทสรุปไปแล้ว ทำไมถึงได้มาพูดว่าแปลกประหลาดเกินไปอีกล่ะ? หากเสียฤกษ์ดีไป อาจจะรับผิดชอบไหวเหรอ? ห๊ะ!”
คำพูดสุดท้ายของซ่งหยิงแทบจะตะคอกออกมา มองออกว่าเธอโกรธจริง ๆ แล้ว
“ฤกษ์ดีค่อยเลือกใหม่ได้ แต่จะฝังพี่ใหญ่ไปโดยที่อะไรยังไม่ชัดเจนไม่ได้ หากฝังไปแล้ว เรื่องเข้าใจผิดทั้งหมดก็จะกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดต่อไป!”
“รองเจ้าสำนัก คุณหมายความยังไงครับ?” หลินชื่อเอ่ยถามเสียงเข้ม : “หรือคุณคิดว่าพวกเราสามารถขัดขวางวรยุทธ์ของเจ้าสำนักได้งั้นเหรอ?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ?” ซ่งหัวหลินพูดอย่างเย็นชา
หลินเทียนที่เดิมทีเป็นคนมากความสามารถและมีคนคอยเอาใจ เมื่อพ่อของตัวเองถูกต่อว่า เขาจึงทนไม่ได้ เลยหาเรื่องกลับไป เอ่ยพูดด้วยเสียงเย็นชา : “ทำไม? เจ้าหัวหลิน ครั่นเนื้อครั่นตัวอยากมีเรื่องใช่ไหม? ถ้ายังวุ่นวายอีก กูจะฉีกปากมึงซะ!”
ทั้งสองคนฟาดฟันกัน สถานการณ์จึงตึงเครียดขึ้นมา ไม่ยอมถอยให้กันแม้แต่ก้าวเดียว
“มึงแม่งลองดูสิวะ!”
“คนไม่เต็มบาทอย่างมึง กูไม่เปลืองมือหรอก ขยะ เหมือนขยะชิ้นหนึ่งจริง ๆ!”
“แม่งเอ้ย มึงแม่งพูดอะไรห๊ะ!”
“เจ้าหัวหลิน ถ้ามึงมีสมองสักนิดตอนนี้คงไม่ถึงขั้นที่ไม่มีแม้แต่ระดับต้าชี่หรอกนะ มึงแม่งจะเอาอะไรมาสู้กับกู? กูฆ่ามึงตายได้ง่าย ๆ เหมือนบี้มด มึงจะขวางกูเหรอ? เชี้ย!”
ซ่งหัวหลินสีหน้าเริ่มไม่ค่อยปกติแล้ว คำพูดของหลินเทียนได้ทำลายศักดิ์ศรีของเขาจนหมดสิ้น ก็จริง ที่เขามีพละกำลังสู้หลินเทียนไม่ได้
“พูดอะไรไม่ออกแล้วหรือไง? คิดจะขวางกูเหรอ? มึงแม่งคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ?”
“หลินเทียน มึงแม่งทำตัวน่าขยะแขยงให้น้อย ๆ หน่อย กล้าทำแต่ไม่กล้ารับใช่ไหม?”
“กูยืนตรงไม่กลัวเงาเอียงหรอกโว้ย ถ้ากูทำ ทำไมจะไม่กล้ายอมรับ แต่ถ้ากูไม่ได้ทำ อย่ามาโยนใส่หัวกู!”
“งั้นก็ได้ มึงกล้าสาบานต่อฟ้าไหมล่ะ โดยเฉพาะเรื่องลุงใหญ่ของกู!”
“กู......”
“พอได้แล้ว!” ซ่งหยิงตะคอกออกมาด้วยความโกรธ
ทั้งสองคนหยุดทะเลาะกันทันที แต่กลับจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ดุร้ายโหดเหี้ยม หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ ทั้งสองคนอาจจะมีบาดแผลสะบักสะบอมกันทั้งตัวแล้วก็ได้!
ซ่งหยิงเข้าไปอยู่กลางวงล้อมที่วุ่นวาย แล้วเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า : “มีเรื่องอะไร รอให้ฝังพ่อฉันให้เรียบร้อยแล้วค่อยว่ากัน!”
“ลุกขึ้น!” ผู้อาวุโสใหญ่หลินชื่อพูดเสียงดังสนั่นราวกับเสียงฟ้าร้อง
ขบวนแห่ศพได้ยกเจ้าสำนักขึ้นอีกครั้ง แล้วเดินหน้าต่อไป แต่ซ่งอู่ฮุยกลับไม่ยอมหลีกทางให้ ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังได้ให้ลูกน้องของตัวเองขัดขวางทุกคนไว้อีกด้วย
“ซ่งหยิง แกเชื่ออารองสักครั้งนะ พ่อแกตายอย่างน่าประหลาดมากจริง ๆ จากที่ฉันรู้มา ถึงแม้จอมพลโผ้จวินจะเผด็จการ แต่คนที่เขาฆ่ากลับไม่ถูกทรมานเลย นี่ยังน่าสงสัยไม่พออีกเหรอ? อีกอย่าง จอมพลโผ้จวินกับเจ้าสำนักมีความแค้นบาดหมางอะไรกันขนาดนั้น? ถึงได้ทรมานพี่ใหญ่ได้โหดร้ายอย่างนี้?”
ถึงแม้ซ่งหยิงกำลังโมโหมาก แต่เธอก็ไม่ใช่คนโง่ ที่ซ่งอู่ฮุยพูดมานั้นไม่ผิดเลย
กลับมาอยู่ที่สำนักฉิวหลงนานขนาดนี้ ก็เคยได้ยินกิตติศัพท์ของจอมพลโผ้จวินมาบ้าง แต่ทุกครั้งคือฆ่าให้ตายในทันที มีทรมานกันซะที่ไหนล่ะ? เมื่อนึกถึงสภาพที่น่าอนาถของพ่อ ในใจเธอก็สับสนขึ้นมา
จริงด้วย!
เธอไม่รู้ว่าควรเชื่อใครแล้ว
แต่สุดท้ายเธอก็มองไปยังผู้อาวุโสหลินชื่อ หลินชื่อเข้าใจทันที จึงได้เดินหน้าขึ้นมา มองไปยังซ่งอู่ฮุย แล้วพูดด้วยเสียงดุดัน : “นายน้อยบอกแล้ว ว่ามีเรื่องอะไรก็รอให้ฝังศพเจ้าสำนักก่อนแล้วค่อยว่ากัน หรือว่ารองเจ้าสำนักคิดจะขัดคำสั่งของนายน้อย?”
ซ่งอู่ฮุยสายตาแข็งกร้าว สีหน้าดูดุดันขึ้นมา
หลินชื่อเป็นเฒ่าสารพัดพิษจริง ๆ!
แค่ประโยคเดียว อ้างถึงเรื่องคำสั่ง ไม่ว่าสำนักฉิวหลงหรือสำนักอื่น ๆ คำสั่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถต่อต้านได้ หากคิอจะขัดคำสั่งมีเพียงข้อสันนิษฐานเดียว นั่นคือไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว
คำสั่งเปรียบเหมือนศักดิ์ศรีและความน่าเชื่อถือของสำนัก!
ใครกล้าขัดคำสั่ง!
“รองเจ้าสำนัก คิดดูให้ดี ๆ แล้วกัน!” หลินชื่อมองหน้าซ่งอู่ฮุย “พวกเราไปได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ