พอทุกคนหันไปมอง ทุกคนในสำนักฉิวหลงก็อึ้งนิ่งไปเลย
เจ้าสำนักซ่งหยิง!
เธอ เธอไม่ได้ถูกหลินชื่อวางยาจนตายไปแล้วไม่ใช่หรือ?
ทำตอนนี้ยังไม่เป็นอะไรเลย?
คนที่ตกใจมากที่สุดก็คือหลินชื่อ!
หลินชื่อก็พูดออกมาราวกับเห็นผี “นี่แก ซ่งหยิง ทำไมแก ไม่เป็นอะไรเลย?”
ซ่งหยิงไม่สนใจคำถามของหลินชื่อ แต่ตะโกนสั่งไปว่า “ใครก็ได้ มาจับตัวคนทรยศหลินชื่อไป รอคำสั่งตัดสิน!”
เธอโมโหจริงๆ !
เธอที่รู้ความจริงหมดแล้วนั้น ก็เหนื่อยทั้งกายใจ เสี่ยวหยู่พูดคำนั้นได้ดีมาก คนที่ใกล้ชิดมากที่สุด ถึงจะเป็นคนที่ทำร้ายเธอมากที่สุด ตอนนั้นเธอก็รู้สึกว่าประโยคนี้เหมือนบอกอะไรเป็นความนัย แต่ก็ไม่ได้คิดไปอย่างลึกซึ้ง แต่เสี่ยวหยู่ก็ตักเตือนไปตั้งสองสามครั้ง ทำให้เธอรู้สึกว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ
พอเสี่ยวหยู่หายตัวไป เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องมันชักจะแปลกๆแล้ว ก็ใช้แผนซ้อนแผนไปเลยแล้วกัน แต่สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ จะระวังตัวดีแค่ไหน ก็มีช่องโหว่ให้กับน้ำแก้วนั้น หลังจากที่ดื่มน้ำแก้วนั้นไป ซ่งหยิงก็สลบไป
ซ่งหยิงไม่สนใจหลินชื่อที่กำลังบ้าคลั่ง โดยรีบเดินมายังฝั่งฟางเหยียน แล้วโค้งคำนับอย่างมีมารยาทเบาๆ “ขอบคุณจอมพลโผ้จวินเป็นอย่างสูงที่ยื่นมือช่วยเหลือ และช่วยสำนักฉิวหลงออกมาจากภัยพิบัติครั้งนี้”
คนของทั้งสำนักฉิวหลงก็อ้าปากค้างอีกครั้ง ตกใจกันมาก!
เป็นถึงเจ้าสำนักของสำนักฉิวหลง แต่กลับไปก้มหัวคำนับให้กับคนนอกอย่างนั้นหรือนี่!
หรือว่าไอ้คนท่าทางป่วยๆ นี้ จะเป็นจอมพลโผ้จวินจริงๆ?
ฟางเหยียนก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าสำนักกล่าวเกินไปแล้วครับ”
ซ่งหยิงก็ไม่รอรี รีบเงยตัวขึ้น แล้วหันไปตวาดว่า “หลินทำผิดต่อเบื้องบน ก่อความวุ่นวายในสำนักฉิวหลง สังหารเจ้าสำนักคนเก่า ผู้นี้มีใจคิดไม่ซื่อ จะต้องประหารสถานเดียว ใครก็ได้ จับตัวมันไว้!”
คำสั่งเจ้าสำนัก ไม่มีใครกล้าขัด
เดิมทีคนที่ยืนจ้องอยู่นั้น ก็เดินรี่ไปยังทางหลินชื่อ แต่พวกเขาเป็นคู่ต่อสู้ของหลินชื่อเสียที่ไหน ตอนที่ซ่งหยิงสั่งการมานั้น เขาก็ได้ใช้วิชาที่มีทั้งหมด พุ่งตรงไปยังตัวของซ่งหยิง!
ฝูงชนกระเจิงทั้งสี่ทิศ คนทั้งเหตุการณ์ทำอะไรไม่ถูก!
พอพวกเขาตอบสนองขึ้นมาได้ ก็เห็นว่าหลินชื่อเข้าใกล้ตัวของซ่งหยิงแล้ว สองคนใกล้กันเพียงเอื้อมมือ!
เห็นได้ชัดว่า หลินชื่อนั้นได้ร้อนตัวขึ้นมาแล้ว และคิดจะกำจัดซ่งหยิงทิ้งเสีย และควบคุมสถานการณ์ของสำนักฉิวหลงที่กำลังจะเสียการควบคุมไป!
แสงเย็นยะเยือกเล็กๆ ราวกับแสงดาว ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ !
ซ่งหยิงก็มองนิ่งไป โดยไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไรดี ได้แต่มองตัวของหลินชื่อเข้ามาใกล้ม่านตาของตนเองและขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มันเหมือนกันเมฆดำก้อนใหญ่ มาปกคลุมตัวเธอไว้ ทำให้ในใจของเธอหวั่นเกรงไม่เป็นสุข
หลินชื่อนั้นเร็วมาก แต่เทียนขุยก็ได้เห็นสิ่งผิดปกติแต่แรกแล้ว เรื่องที่คนร้อนตัวแล้วจะฆ่าปิดปากแบบนี้ เขาเห็นมาเยอะแล้ว!
ตอนที่หลินชื่อกำลังจะฟาดมาที่ตัวซ่งหยิงนั้น เทียนขุยก็ออกหมัดมารับมือไว้
หมดสองหมัด กระทบใส่กัน!
ตูม!
ฟ้าดินสั่นสะเทือน กำลังภายในกระจายออกเป็นระลอกคลื่นวงกว้างขนาดใหญ่ ทำให้หลายคนกระเด็นร่วงลงพื้นลุกไม่ขึ้น
ยอดฝีมือประมือกัน แต่ละท่าสามารถเอาถึงตายได้เลย!
พอสองหมัดแยกกัน สองคนก็ต่างถอยหลังออกไป!
หลินชื่อยิ้มเย็นพูดว่า “ไอ้หนู มึงทำให้กูแปลกใจได้อยู่เหมือนกัน เป็นนินจาระดับระดับต้าชี่ขั้นกลาง แต่สามารถรับหมัดของกูที่เป็นระดับระดับต้าชี่ขั้นท้ายได้ ถือว่าไม่เบา แต่ว่าตอนนี้ มึงไม่มีโอกาสอีกแล้วล่ะ!”
ทันใดนั้น หลินชื่อก็ระเบิดพลังออกมา ก็เหมือนกับหลินเทียนก่อนหน้านี้!
พอเห็นดังนั้น เทียนขุยก็นิ่งไปมาก เขาสู้ศัตรูไม่ได้ แล้วก็มาหลังตัวฟางเหยียนอย่างไม่คิดอะไรทั้งนั้น “จอมพลโผ้จวิน ผมไม่ไหว คุณไปรับมือหน่อย!”
ความกล้าหาญและเฉิดฉายของเทียนขุย ตอนนี้ได้แหลกสลายไปหมดแล้ว!
ซ่งหยิง “……”
เหมินถงและเสี่ยวหยู่ “……”
หลินชื่อก็กระตุกใบหน้าแก่ๆ ของตนเอง ไอ้หมอนี่มันหนีไม่กล้าสู้งั้นหรือนี่? แบบนี้ก็ทำให้เขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม แล้วก็ไม่สนใจเทียนขุยที่วิ่งหนีไป แล้วชี้ด่าไปทางฟางเหยียนว่า “ได้ยินว่าจอมพลโผ้จวินไม่เคยมีข่าวแพ้ศึกเลย คุยโวจนเหมือนกับเป็นเทพ กูก็อยากจะลองดูเสียหน่อยเหมือนกัน!”
ฟางเหยียนก็พูดนิ่งๆ “มึง ไม่คู่ควรหรอก”
คนทั้งเหตุการณ์ก็ผงะ แล้วก็เงียบลง!
หมอนี่ไม่พูดจาก็นิ่ง แต่พอพูดขึ้นมาก็เล่นเอาทุกคนตกใจกันหมด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ