“กระจอกงั้นหรือ?” เทียนขุยยิ้มเย็นพูดว่า “มึงยังสู้จอมพลโผ้จวินไม่ได้เลย ยังจะกล้าเรียกเขาว่ากระจอกอีกงั้นหรือ? ใครมาดูถูกจอมพลโผ้จวิน ฆ่าไม่เว้น!”
“ฆ่ากูงั้นหรือ?” หลินชื่อหัวเราะตัวโยก “ไอ้นายว่าขี้ข้าพลอย เมื่อครู่ใครไปมุดหัวหลบอยู่ข้างหลังวะ? มึงจะให้กูขำตายเลยหรือไง? ฮ่าๆๆ .......”
“มึงคงจะมีชีวิตอยู่นานเกินไปแล้วล่ะ” ฟางเหยียนพูดนิ่งๆ “ตอนนี้กูขอถามมึงหน่อย เพลิงเสวนให้มึงมาควบคุมสำนักฉิวหลง มีจุดประสงค์อะไรกันแน่? พูดออกมา บางทีกูอาจจะไว้ชีวิตมึง!”
“มึงขอร้องกูสิ คุกเข่าขอร้องกูสิ ฮ่าๆๆ ........”
เทียนขุยก็หัวร้อนบุกเข้าไป ใช้มือข้างเดียวดึงคอเสื้อหลินชื่อมาข้างหน้า สองเท้าออกแรง แล้วหลินชื่อก็ลงไปคุกเข่าต่อหน้าฟางเหยียน
“ขอร้องกูสิ ขอร้องกู รีบขอร้องกูสิ ฮ่าๆๆ .....”
“จอมพลโผ้จวิน ผมว่าไอ้จิ้งจอกแก่นี่มันแกล้งทำ มันไม่ได้บ้าจริงหรอก”
ฟางเหยียนก็พยักหน้าเบาๆ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นกูก็ไม่เกรงใจแล้วล่ะ”
พอฟางเหยียนใช้นิ้วกดไป หลินชื่อที่บ้าคลั่งก็เงียบไป สายตาก็จ้องมองฟางเหยียนไปอย่างเหม่อลอย
“เพลิงเสวนนอกจากจะให้กูมาควบคุมสำนักฉิวหลงแล้ว ที่สำคัญกว่านั้นก็คือไปที่บูชามังกร เพื่อเรียก...........”
หลินชื่อพูดถึงตรงนี้ ร่างกายของเขาก็อ่อนแรงล้มลงพื้นไป แล้วก็ตาย!
เทียนขุยตกใจ มีคนกล้าฆ่าปิดปากต่อหน้าจอมพลโผ้จวินเชียวหรือ!
ฟางเหยียนก็มองด้านหลัง แล้วก็เผยรอยยิ้มเย็นๆ ออกมา
“จอมพลโผ้จวิน จะต้องเป็นพวกเพลิงเสวนแอบมาฆ่าปิดปากแน่นอน เดี๋ยวผมไปตามพวกมัน” พูดจบเทียนขุยก็รีบตามออกไป แต่กลับถูกฟางเหยียนห้ามไว้
“เทียนขุย ในเมื่อพวกมันกล้าทำแบบนี้ ก็บอกได้จุดหนึ่งว่า พลังของพวกมันอยู่เหนือพวกเรา ไม่ต้องไปเสียสละอย่างไร้ประโยชน์แบบนี้”
เทียนขุยก็สะบัดมืออย่างไม่พอใจ แล้วพูดโมโหว่า “ไอ้พวกชั่วช้าสามานย์ ได้แต่ใช้อาวุธลับมาฆ่าคน!”
“วางใจเถอะ เรากับมันต้องได้เจอกันสักวัน ผมเชื่อว่าห่างจากวันนั้นไม่ไกลแล้ว”
หลินชื่อตายแล้ว!
คนทั้งสำนักฉิวหลงยังตั้งสติกลับมาไม่ได้ ทุกอย่างมันเหมือนกับฝันไป
“ยินดีต้อนรับ จอมพลโผ้จวิน。”
เสียงของซ่งหยิงทำให้ทุกคนเลิกคิดอะไรกันต่างๆ นานา แล้วก็ยืนตัวตรงเรียงแถวเป็นสองแถว ลำตัวโน้มโค้งลงเล็กน้อย สีหน้าจริงจัง
ฟางเหยียนก็ไม่วางมาด แล้วเดินตามซ่งหยิงเข้าไปในห้องหลงเหมิน
พอนั่งลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซ่งหยิงก็ให้ทุกคนออกไป ทั้งห้องหลงเหมินเหลือเพียงพวกเขา3คน
คนที่ตรงไปตรงมาอย่างซ่งหยิง ตอนนี้ก็ได้เคอะเขินทำตัวไม่ถูกขึ้นมา ในที่สุดเธอก็ได้พบกับผู้ชายที่อยากจะพบมานาน เวลานี้ เธอไม่ใช่เจ้าสำนักของสำนักฉิวหลงที่ยืนวางมาดมั่นคงอยู่ด้านนอกอีกแล้ว ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เขินอาย เพราะได้พบเจอกับผู้ชายที่แอบชอบ
“จอมพลโผ้จวิน ให้ผมออกไปก่อนไหมครับ? ผมรู้สึกว่าในห้องโถงนี้ มีกลิ่นความรักเหม็นคลุ้งไปหมดเลย!”
ฟางเหยียนก็มองตาขวางใส่เทียนขุย “ผมรู้สึกว่าคุณชักจะเอาใหญ่แล้วนะ!”
“จอมพลโผ้จวินอย่าโมโหไปครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมแค่รู้สึกทำตัวไม่ถูกก็เท่านั้นเอง”
ฟางเหยียนกไม่พูดกับเขาอีก แล้วหันหน้าไปมองซ่งหยิง คิดไม่ถึงว่าซ่งหยิงก็เงยหน้ามามองเขาพอดี จ้องมองตากันไม่พูดอะไร เวลานี้มันเหมือนมีคำพูดที่หมื่นคำ ที่ส่งออกมาโดยไม่ต้องพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ