“ที่บังเอิญคือ ถ้าหากว่าไม่ได้จอมพลมาเปิดเผยจอมพลปลอมคนนั้น ฉันอาจจะกลายเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรสัตว์เพลิงแล้วก็ได้ หลังจากที่เคยผ่านเรื่องนี้มา ฉันถึงได้เข้าใจว่า ตัวเองจะทำอะไร”
สถานการณ์พลิกผัน แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้น เหมือนกับฝันร้ายครอบคลุมหัวใจของผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะจอมพลมาปรากฏตัว ไม่เพียงแต่เขา แต่ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็ล้วนจะกลายเป็นคนขององค์กรสัตว์เพลิงจนหมด พวกเขาก็จะกลายเป็นคนบาปของดินแดนตะวันตก
บรรยากาศในห้องโถงยิ่งเงียบกริบมากขึ้น
“แค่กๆๆ…” ผู้ว่าราชการมณฑลทำลายความเงียบ เอ่ยปากพูดว่า “สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป ส่วนเรื่องของตระกูลโจว พวกคุณคิดว่ายังไง?”
หยางจิ่งเซียนคิดสักพัก พูดออกมาอย่างจนใจว่า “ถ้าหากว่าหลักฐานชัดเจน พวกเขาก็ถือเป็นการหาเรื่องใส่ตัว!”
ตระกูลโจวมีชื่อเสียงมากในดินแดนตะวันตก เรียกได้ว่าเป็นตระกูลอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะทั้งเงินทองและอำนาจต่างก็ไม่สามารถดูถูกได้ ถ้าหากว่าตระกูลโจวทำเรื่องที่เกิดอันตรายต่อดินแดนตะวันตกจริงๆ ใครก็ไม่สามารถไปขัดขวางได้
ผู้ว่าราชการมณฑลมองไปที่หยางจิ่งเซียน ถามว่า “หยางกง สำหรับตระกูลโจว คุณรู้มากน้อยแค่ไหน?”
“ตั้งแต่ครั้งก่อนที่จอมพลเคยมา ผมก็ไม่รู้อะไรอีกเลย ตระกูลโจวดูเหมือนว่าจะเก็บตัวถ่อมตนลงเยอะมาก โดยเฉพาะรุ่นเล็กของตระกูลโจว โจวเจิ้ง อยู่ดีๆก็เหมือนกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่เหมือนกับเขาในเมื่อก่อนเลยสักนิด แต่ว่ามีจุดหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจ….”
“หยางกง พูดได้เลยไม่เป็นไร”
“ทุกท่านรู้ดี โจวปินคางนั้นแสดงออกถึงความซื่อสัตย์ของตระกูลตัวเองต่อหน้าจอมพล แต่ตอนนี้เขาทำแบบนี้ ทำเอาผู้คนไม่เข้าใจจริงๆ ตำแหน่งตระกูลโจวของพวกเขาในดินแดนตะวันตกนั้นมีความสำคัญ เรียกได้ว่ามีอำนาจทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ทำไมพวกเขาถึงต้องทำแบบนี้?”
ผู้ว่าราชการมณฑลพยักหน้า แสดงออกว่าเห็นด้วย
“ในตอนที่ยังไม่เข้าใจถึงการกระทำของตระกูลโจว ผมคิดว่าพวกเราก็อย่าได้ตัดสินใจโดยไร้เหตุเลย ทุกอย่างค่อยว่ากันตอนที่จอมพลมาถึงแล้ว เป็นยังไงครับ?”
“ก็ทำได้แค่อย่างนี้แล้วละ” ผู้ว่าราชการมณฑลพูดอย่างหมดหนทาง
ดูแล้วการปรึกษาในครั้งนี้ไม่มีข้อดีอะไรเลย ปรึกษาไม่ได้ผลอะไรมาสักอย่าง แต่ผู้ว่าราชการมณฑลเข้าใจดี ว่าเขาเองก็ได้รับผลประโยชน์มาบ้าง เขารู้แล้วว่านอกจากตระกูลโจว ผู้มีอำนาจแต่ละฝ่ายต่างก็อยู่ในจุดที่อันตราย และต่างก็เป็นบุคคลที่องค์กรสัตว์เพลิงเรียกสรรหา
นี่เขาทำหน้าที่ไม่ดีงั้นหรอ?
ไม่ใช่
องค์กรสัตว์เพลิงแทรกแซงทุกมุม จะทำให้ผู้คนพบเจอง่ายดายขนาดนั้นได้ยังไงกัน และครั้งนี้ถ้าไม่ใช่เพราะจอมพลปล่อยข่าวออกมา พวกเขาคงจะถูกปิดบังอยู่ตลอดแน่นอน
ทุกคนในห้องโถงจากไปด้วยเรื่องกังวลใจ เหลืออยู่เพียงแค่หยางจิ่งเซียนและผู้ว่าราชการมณฑลเพียงสองคน
“หยางกง เรื่องนี้ คุณมีแผนยังไงบ้าง?”
“ไม่มีแผนครับ แต่พวกเราต้องกระทำตัวให้ถูก ครั้งนี้นอกจากจอมพลจะทำให้องค์กรสัตว์เพลิงหวาดกลัวแล้ว ยิ่งมากกว่านั้นก็คืออยากจะเตือนทุกตระกูลที่คิดจะเป็นองค์กรสัตว์เพลิง ให้พวกเขารู้ว่า บางเรื่องเพียงเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะทำให้เกิดเรื่องใส่ตัว
“แน่นอน คุณเองก็ไม่ต้องกังวล จากที่ทำความรู้จักกับจอมพลมา เขาไม่ใช่คนที่โหดเหี้ยม และก็ไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผล”
ผู้ว่าราชการมณฑลสบายใจขึ้นเหมือนยกภูเขาออกจากอก แม้ว่าตัวเขาจะรับตำแหน่งนี้ แต่ความน่าเกรงขามของจอมพลกลับกดดันเขาจนหายใจไม่ออก ตอนนี้ได้ยินที่หยางจิ่งเซียนพูด เขาก็แอบสบายใจลงมาก ก่อนหน้านี้ที่อยู่บ้านตระกูลโจว เขามีปัญหากับจอมพลเล็กน้อย เขากลัวจริงๆว่าจอมพลจะใช้โอกาสนี้มาหาเรื่อง เส้นทางชีวิตของเขาเองก็จะถึงจุดจบ
“งั้น หยางกง ฉันไม่รบกวนแล้วละ”
หยางจิ่งเซียนพยักหน้าเล็กน้อย ลุกขึ้นยืน มองตามเพื่อส่งผู้ว่าราชการมณฑลจากไป ส่วนหยางซงเดินไปส่งผู้ว่าราชการมณฑลขึ้นรถด้วยตัวเอง แล้วค่อยกลับไปยังห้องโถง
“พ่อครับ นี่เป็นโอกาสที่ตระกูลหยางของเราจะสูงขึ้นนะครับ!”
“เจ้าสอง เรื่องนี้หยุดคิดซะ อย่าได้คิดเชียว” หยางจิ่งเซียนจะไม่เข้าใจความคิดของหยางซงได้ยังไงกัน ถ้าหากว่าตระกูลโจวล่มสลาย ตระกูลหยางของพวกเขาก็จะกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งโดยปริยาย และกลายเป็นตระกูลโจวที่สอง แต่เขากลับไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ความสำเร็จและล่มสลายของตระกูลโจวล้วนผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ได้รับความอิจฉาต่อว่าด่าทอ!
หยางจิ่งเซียนอย่างเขาไม่ยินดีที่จะกลายเป็นผู้นำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ