จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 762

น้ำเสียงนี้!

ท่านปรมาจารย์แห่งตระกูลโจว!

ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว?

ตั้งแต่ที่เข้ามายังเรือนตระกูลโจว ฟางเหยียนก็รับรู้ได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งนั่น และที่เขายินยอมพร้อมใจให้เทียนขุยกระทำทุกประการ ก็เพราะต้องการจะบีบเฒ่าประหลาดแห่งตระกูลโจวให้ปรากฏตัวออกมานั่นเอง ผลลัพธ์ออกมาดีอย่างยิ่งตามที่คาดไว้ พูดได้ว่า นับตั้งแต่ที่เข้ามาในเรือนตระกูลโจว เฒ่าประหลาดแห่งตระกูลโจวก็รับรู้ถึงพวกเขาสองสามคนนั้นแล้ว ทว่าเขาไม่มีทีท่าอันใดเลย ยินยอมพร้อมใจให้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้น

การต่อสู้สิ้นสุดลง ผู้ที่ตกตะลึงที่สุดก็คือโจวปินคาง เขามองไปยังส่วนลึกของเรือนด้วยความอึ้ง

“ที่รัก ไปกันเถอะ” ชิงตี้มองโจวปินคาง พร้อมเอ่ยขึ้น

ฟางเหยียนลุกขึ้น โจวปินคางเดินนำทางด้วยความเหม่อลอยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

ไร้ซึ่งคำพูดใดๆ ตลอดทาง จากนั้นทั้งสี่คนก็เข้ามาถึงศาลบรรพบุรุษ

โจวปินคางเอ่ยอย่างเคารพ ด้วยจิตใจอันสับสนวุ่นวาย: “จอมพล นี่คือศาลบรรพบุรุษของตระกูลโจว และก็คือที่ที่ท่านปรมาจารย์พักบ่อยๆ ”

เห็นได้ชัดว่า คำพูดนี้ของเขาเข้าข้างท่านปรมาจารย์อยู่เช่นเคย โดยเฉพาะคำว่าบ่อยๆ สองคำนี้ เป็นการเตือนว่า ท่านปรมาจารย์จะไม่ไปที่ใดมั่วซั่ว

ฟางเหยียนจะไม่เข้าใจคำเตือนในคำพูดของโจวปินคางได้อย่างไร เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: “จะถูกหรือจะผิด เข้าไปข้างในก็รู้แล้ว นายไม่ต้องเตือนหรอก”

โจวปินคางผลักเปิดประตูใหญ่ของศาลบรรพบุรุษ จากนั้นก็ทำท่าทางเชื้อเชิญเข้าไป พร้อมเอ่ยอย่างสุภาพนอบน้อม: “ท่านจอมพล เชิญ”

ฟางเหยียนก้าวเท้าเข้าไป ชิงตี้และเทียนขุยหมายจะตามเข้าไป ครั้นประตูใหญ่กลับปิดอัตโนมัติ จากนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา: “คนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย รออยู่ข้างนอกศาลบรรพบุรุษ”

เทียนขุยและชิงตี้เลือกเฝ้าระวังอยู่หน้าศาลบรรพบุรุษ ปฏิเสธการเชื้อเชิญของโจวปินคางที่ว่าให้ไปนั่งรอที่ห้องรับรอง

และโจวปินคางก็ได้ไปจากศาลบรรพบุรุษ โจวชื่อเจี๋ยเดินเข้ามา มองดูพ่อตัวเองที่ใบหน้าเหม่อลอยไร้จิตวิญญาณ จึงขมวดคิ้ว เอ่ยถาม: “พ่อ หรือว่าจอมพลโผ้จวินเชื่อข่าวลือจริงๆ ต้องการจะจัดการตระกูลโจวของผม?”

โจวปินคางส่ายหน้าเบาๆ

โจวซื่อเจี๋ยจึงเอ่ยถามด้วยความระมัดระวัง: “หรือว่าจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวกว่าการจัดการ?”

“จอมพลไปศาลบรรพบุรุษแล้ว แถมท่านปรมาจารย์อนุญาตเองด้วย!”

“อะไรนะ!” โจวซื่อเจี๋ยตากระตุกขึ้น เอ่ยด้วยความกระวนกระวายใจ: “หรือว่าจอมพลคิดจริงๆ ว่าพวกเราเป็นศัตรู ร่วมมือกับเพลงเสวน?”

“รู้จักผู้หญิงข้างๆ จอมพลคนนั้นไหม?”

“รู้จักสิ” โจวซื่อเจี๋ยพยักหน้า: “สวยมากจริงๆ ”

เพียะ!

โจวปินคางตบบ้องหูโจวซื่อเจี๋ย จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยความโมโห: “ในหัวแกนี่คิดแต่เรื่องอะไรอยู่กันแน่?”

โจวซื่อเจี๋ยกุมใบหน้า เอ่ยถาม: “พ่อ พ่อจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นมีพื้นเพไม่ธรรมดางั้นเหรอ?”

“เพลงเสวน!”

โจวซื่อเจี๋ยสะดุ้งโหยง!

เพลงเสวน!

บัดนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจสักทีว่าทำไมจอมพลโผ้จวิน จึงได้มั่นใจนักว่าตระกูลโจวมีส่วนเกี่ยวพันกับเพลงเสวน ที่แท้ผู้หญิงคนนั้นก็คือคนจากเพลงเสวน?

คำถามที่คล้ายคลึงกันผุดขึ้นมาภายในหัวของโจวซื่อเจี๋ย ผู้หญิงคนนั้นก็คือสายสืบที่จอมพลส่งไปอยู่ในเพลิงเสวน!

“เลิกคิดได้แล้ว ผู้หญิงคนนั้นคือภรรยาของจอมพล”

โจวซื่อเจี๋ย: “……”

ตกตะลึงจนไร้คำพูด!

“พ่อ ไม่งั้นเราถือโอกาสหนีไปกันเถอะ เรื่องนี้ไม่ว่าจะแก้ตัวยังไงก็แก้ตัวไม่ขึ้นแล้ว พวกเราตระกูลโจวจะไปรับมือกับการกระทำที่เหี้ยมโหดของโผ้จวินได้ยังไง เรารีบหนีกันเถอะ”

โจวปินคางลืมกระทั่งโกรธ เขาโกรธเคืองไม่เบาเลย!

แม้จะซ่อนตัวได้ชั่วขณะ แต่เพราะปัญหาที่พัวพัน จะหนีพ้นหรือ?

ท่านปรมาจารย์ยังอยู่ในกำมือของโผ้จวินอยู่ ตระกูลโจวที่ไร้ท่านปรมาจารย์ ยังจะเรียกว่าตระกูลโจวได้อีกหรือ?

โจวปินคางหลับตาลงอย่างเอือมระอา “แทนที่จะวิ่งหนีไปทั่วด้วยความตื่นตระหนก ที่ฉันกังวลกว่าคือจอมพลปะทะท่านปรมาจารย์ ภัยพิบัติในนั้นบางทีอาจทำให้ตระกูลโจวอับจนหนทางยิ่งกว่า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ