ปัง!
ผู้ชายคนนั้นยกแขนขึ้นมาด้านหน้าเพื่อบังตัวเอาไว้ พลังภายในที่แข็งแกร่ง ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว สะเทือนไปถึงใจผู้คนกว่าร้อยชีวิต!
โจมตี!
เอะอะก็ลงไม้ลงมือ!
ไม่มัวพูดพล่ามอยู่หรอก!
ชายคนนั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย แขนทั้งสองข้างเจ็บปวดรวดร้าว เขาไม่อยากถูกพวกนั้นจับได้ว่าตัวเองมีสภาพย่ำแย่ จึงได้ใช้ประโยชน์จากชุดฉางซานที่มีขนาดใหญ่มาบังไว้ แล้วสะบัดมือที่สั่นเทาออกไป!
เขารู้ดีว่าเมื่อครู่นี้ ถ้าหากเขาไม่ทุ่มเทจนสุดแรง อาจถูกเทียนขุยโจมตีจนตายหรือพิการได้เลย
เขาขมวดคิ้ว จ้องมองเทียนขุย ดูยังไงก็ดูไม่ออกว่าเขาเป็นใครกันแน่ อย่างน้อยดูจากการแต่งตัวแล้ว พวกนั้นไม่ใช่พวกเดียวกัน ทำไมถึงมีคนเก่งกาจแบบนี้โผล่มาได้ล่ะ?
“ได้แค่นี้เองเหรอ!” เทียนขุยเคลื่อนตัวเพียงเสี้ยววินาที ความเร็วก็เพิ่มขึ้นมาก จนในตาของชายคนนั้นเห็นเพียงเงาวาบหนึ่งเท่านั้น อยากจะวิ่งหนีก็ไม่ทันการแล้ว เทียนขุยกระโดดสูงขึ้น เสียงดังสนั่นขึ้นในหัวของชายหนุ่มทันที : “พงพินาศแปดทิศ!”
ชายคนนั้นสั่นสะเทือนไปทั้งตัว เขายกมือขึ้นแล้วดันออกไป
อ๊าก!
มีเสียงดังสนั่นขึ้นมา!
“อ๊า......” ชายคนนั้นส่งเสียงร้องอย่างบ้าคลั่งออกมา มือทั้งสองข้างปล่อยลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
พิการแล้ว!
กลายเป็นคนพิการไปแล้ว!
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตะลึงกันไปหมด!
สู้กับคนที่มีระดับต้าชี่ชั้นปลายเหมือนกัน ทำให้เขาถูกจัดการจนเสียมือทั้งสองข้างไป!
เป็นไปได้ยังไง? ต่อให้สู้ไม่ได้ก็ไม่น่าจะถึงขั้นบาดเจ็บรุนแรงอย่างนี้ ฝีมือของทั้งสองฝ่ายสูสีกัน แต่ว่าทำไมกันล่ะ?
ทุกคนค่อย ๆ เงียบลง ความสงสัยมากมายที่อยู่ในหัวไม่ได้รับการอธิบาย
“มาอีกสิ!” เทียนขุยฉีกยิ้มกว้าง แล้วรอยยิ้มค่อย ๆ ดูเย็นชาขึ้น ตอนที่มองไปยังคนร้อยกว่าคนนั้น ราวกับกำลังมองดูซากศพ ใช่แล้ว ตอนนี้เลือดร้อนที่อยู่ในกระดูกได้พุ่งพรวดมาที่หน้าผากแล้ว เขาอยากออกแรงมานานแล้ว เหมือนกับว่าเลือดทั่วตัวกำลังเดือดพล่าน!
เขารอเวลานี้มานานมากแล้ว!
ความแค้นของสหายเทียนหม่า และเลือดของผู้กล้าสำนักเจ็ดพิฆาตอีกพันกว่าชีวิต ได้ปลุกเร้าเขาจนถึงที่สุดแล้ว!
เทียนขุยเลียริมฝีปาก ไม่รอให้ร้อยกว่าคนนั้นตั้งสติได้ ก็พุ่งเข้าไปเหมือนเสือร้ายที่พุ่งเข้าหาฝูงแพะ เริ่มต้นเส้นทางที่โหดร้ายและนองเลือดของเขา!
เพียงชั่วครู่ เสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดดังระงมไปทั่ว!
ชิงตี้ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ไม่ได้กลับมานานมาก ไอ้เจ้าพวกนี้สมองเลอะเลือนกันแล้วหรือไง? คนฉลาดจะมองออก ว่าเทียนขุยมุ่งมั่นที่จะฆ่า ตอนนี้ยังเต๊ะท่ากันอยู่ได้? ไอ้พวกหัวสูงแต่ฝีมือไม่ถึงพวกนี้อยู่ดีกินดีจนเคยตัว จนไม่รับรู้ถึงความอันตราย และไม่มีประสบการณ์การต่อสู้ที่เผชิญกับความเป็นความตายกันเลย แล้วจะเป็นคู่ต่อสู้ของเทียนขุยได้ยังไงล่ะ?
สรุปได้ว่า พวกเขาสุขสบายกันเกินไป!
อย่าว่าแต่ร้อยกว่าคนนี้เลย ต่อให้เป็นชิงตี้แต่ถ้าอยากได้ผลประโยชน์จากเทียนขุย ก็ต้องยอมแลกกับอะไรมากมาย ถึงแม้ชนะก็เป็นเพียงชัยชนะอันน่าอนาถ หรืออาจพ่ายแพ้บาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย
แต่ตอนนี้ไอสังหารอันแรงกล้าที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเทียนขุย มากพอที่จะล้มคนทั้งหนึ่งร้อยกว่าคนนี้ได้ นี่ต้องฆ่าคนไปมากมายเท่าไหร่ถึงจะมีจิตสังหารแบบนี้ได้? เทียนขุยที่ยิ่งรบก็ยิ่งกล้าหาญได้แสดงความมั่นใจอย่างแรงกล้าออกมา ทำให้เขาเหมือนมีเทพเจ้าคอยช่วยอยู่ แทบไม่ต้องมองลงไป รอดูจุดจบของร้อยกว่าคนนั่น!
เพราะพวกเขาอ่อนแอกันเกินไป!
เพียงครู่เดียว ในหัวของชิงตี้ยังคงนึกถึงคำพูดนั้นของฟางเหยียน จบการต่อสู้ภายในสามนาที!
ความไว้วางใจระดับนี้ เกรงว่าไม่ใช่สิ่งที่ลูกน้องจะมีได้หรอกมั้ง!
โดยเฉพาะสองนาทีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจของเทียนขุย ต้องเป็นความไว้วางใจที่มาจากการร่วมเป็นร่วมตายกันมา มีกลยุทธ์และมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ตกลงเขาเป็นผู้ชายแบบไหนกันแน่ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่านายน้อยวู่วามไปหน่อย ไม่ควรรีบเปิดเผยความคิดที่จะหาพักพวกเร็วขนาดนี้ เพราะเขาเป็นคนระมัดระวังและคิดรอบคอบมาก เป็นผู้ชายที่เก่งกล้าสามารถ!
ใช่แล้ว!
ชิงตี้รู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วล่ะ!
เมื่อนึกได้ว่าเวลาสองนาทีเหลืออีกไม่เท่าไหร่แล้ว ชิงตี้ก็ร้อนรนใจขึ้นมา แล้วมองไปทางฟางเหยียน : “ท่านจอมพล ได้โปรดออมมือด้วยเถิด”
ฟางเหยียนทำเหมือนกับไม่ได้ยินสิ่งที่พูด “ยังเหลืออีกสี่สิบวินาที!”
เสียงไม่ดังนัก แต่กลับน่าตกใจราวกับเสียงฟ้าร้อง ดังก้องไปทั่วนอกตำหนัก!
เทียนขุยเร่งความเร็วมากขึ้น ราวกับเป็นภูตผีปีศาจก็ไม่ปาน วาบไปแวบมาในกลุ่มคน ทุกครั้งที่หยุดนิ่งลงก็จะมีคนล้มลงเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ