คนหนึ่งคนสู้กับคนนับสิบคน ไม่อ่อนแอเลยแม้แต่น้อย!
สถานการณ์ตึงเครียด เหมือนพร้อมจะลงไม้ลงมือกันได้ตลอดเวลา!
ทุกคนเริ่มทะเลาะกันเองขึ้นมา โดยไม่สนใจฟางเหยียนกับเทียนขุยเลย ตอบโต้กันไปมา ไม่มีใครยอมใคร จากสงครามน้ำลายได้กลายเป็นการผลักดันกันไปมา ผสมโรงกัน เหมือนกับผู้หญิงปากร้ายที่ด่าทอกันตามท้องถนน
อารมณ์โกรธแค้นที่เก็บกดเอาไว้ของสิบแปดผู้อาวุโสเสวียนกู่ ตอนนี้ได้ระเบิดออกมาหมดแล้ว!
เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าเลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย จู่ ๆ ก็หันไปมองนายน้อยที่กำลังปิดตาสนิททั้งสองข้าง
“นายน้อย เรื่องนี้หารือกันไม่ได้แล้วจริง ๆ เหรอครับ? คุณปล่อยให้พวกมันลงมือกับพวกเราอย่างนี้เหรอ? แบบนี้มันทำร้ายจิตใจของพวกกระผมเกินไปหรือเปล่า? พวกเราจงรักภักดีต่อคุณ พวกเขาเป็นลูกน้องที่พึ่งพาได้ของคุณ ฝีมือก็เก่งกาจกว่าพวกเรา คุณคิดจะให้พวกเราท้อแท้สิ้นหวังตามคุณงั้นเหรอ? ห๊ะ!”
เสียงตะคอกด้วยความโกรธนี้ เหมือนตะคอกความเจ็บใจและความไม่ยอมทั้งหมดออกมา
นายน้อยขยับตัว แม้แต่หนังตาก็กระตุกเลยสักนิด แต่ดวงตาที่ปิดสนิทคู่นั้นของเขากลับสั่นไหวเล็กน้อย เขาโมโหขึ้นมาแล้วจริง ๆ! ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ท้าทายความอดทนของเขา ครั้งแล้วครั้งเล่าที่หักหน้าเขา แม้แต่รูปปั้นยังมีอารมณ์โกรธได้ แล้วนับประสาอะไรกับเขาที่เป็นถึงนายน้อย!
“นายน้อยครับ!” ชายวัยกลางคนตะโกนจนเสียงแหบเสียงแห้ง : “หรือว่าคุณคิดจะให้ลูกน้องที่พึ่งพาได้ของคุณเจ็บปวดใจจริง ๆ? ตอนนั้นที่พวกเราเลือกข้าง คุณรับปากพวกเราไว้ว่ายังไง? หรือว่าตอนนี้คุณมีที่พึ่งอื่นแล้ว เลยคิดจะถีบหัวส่งพวกเรา? คุณปฏิบัติต่อพวกเราอย่างนี้น่ะเหรอ?”
“นายน้อย พวกเราสนับสนุนให้คุณได้ขึ้นเป็นนายน้อย หรือว่าคุณลืมเรื่องพวกนั้นไปแล้ว? ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นทำไมพวกเรายังต้องติดตามคุณอีกล่ะ? สู้ไปติดตามพวกมันเสียดีกว่า จะได้ไม่ทุกข์ใจอย่างนี้ ค่าตอบแทนที่พวกมันให้ผมยังมากกว่าที่คุณให้เสียอีก อย่างน้อยก็ไม่ทำให้คนของตัวเองผิดหวังและทุกข์ใจ!”
ชายที่เป็นผู้นำจู่ ๆ พูดประโยคนี้ออกมา ทำให้ทั้งห้องโถงเงียบสงัดลงทันที แล้วเกิดเสียงฮือฮาขึ้นมา!
นี่เรียกว่าอะไร นี่มันทรยศหักหลังชัด ๆ!
นี่เป็นข้อห้ามทางการทหาร หากอยู่ในสนามรบแบบนี้ต้องถูกแล่เนื้อเถือหนังจนตาย!
หารือกันมาถึงขั้นนี้ สิ่งที่ได้พูดและทำลงไปยากที่จะกลับไปแก้ไขได้แล้ว!
ชายที่เป็นผู้นำดูเหมือนยิ่งพูดก็ยิ่งฮึกเหิม ไม่ได้สังเกตเลยสักนิดว่านายน้อยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาแล้ว ดวงตาคู่นั้นเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ถ้าคุณดูอย่างละเอียด จะเห็นความลึกล้ำในนัยน์ตาของเขา ดวงตาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายคู่นั้น ดูไม่เข้ากับอายุของเขาเลยแม้แต่น้อย
ดูเผด็จการและลึกล้ำ อีกทั้งมีความทรงพลังของผู้ที่เหนือกว่า!
เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา อากาศภายในห้องโถงก็ลดฮวบลงหลายองศา!
คนเราก็เป็นเช่นนี้ เมื่อบาดแผลหายก็ลืมไปว่าเคยเจ็บปวดมาแค่ไหน!
หลินซิงต้องจบชีวิตลง ดูเหมือนไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวใด ๆ เลย ในช่วงเวลาสั้น ๆ กลับลืมเรื่องการตายของหลินซิงไปหมดสิ้น! คิดดูแล้วก็สามารถให้อภัยได้ แต่นี่ยังไม่ทันได้เริ่มสู้ ก็ยอมแพ้แล้ว ใครจะรับได้กันล่ะ?
นี่เรียกว่าชนะโดยไม่ต้องสู้รบ!
นี่เป็นการกระทำที่ทำให้สิบแปดผู้อาวุโสเสวียนกู่โมโหมากจนไม่อาจห้ามใจได้เลยทีเดียว!
ชายคนที่เป็นผู้นำโกรธจนคลั่งไปแล้ว จึงได้พูดจาไม่ถูกไม่ควรอย่างนี้ออกมา แต่ทุกคนต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง โกรธแค้นสามารถให้อภัยได้ แต่พูดจาแตกหักไร้ซึ่งความสามัคคีอย่างนี้ เขาได้แต่ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด!
ในที่สุดเขาก็เหมือนสังเกตได้ถึงสิ่งผิดปกติ โดยเฉพาะทั่วทั้งห้องโถงจงรักภักดีที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแปลก ๆ ทำให้เขารู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว แต่ขณะที่เขากำลังจะหันไปมองนายน้อย ตัวก็สั่นไปทั้งตัว คำพูดตะกุกตะกักเปล่งออกมาไม่ได้!
“นายน้อย ผม ผมพูดมากไปแล้ว......”
เสียงตบหน้าดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่นาน ทั้งใบหน้าของเขาก็แดงและปูดบวม!
นายน้อยได้ยินแต่ไม่สนใจเขา แล้วเอ่ยพูดอย่างเย็นชาว่า : “ที่นายพูดเมื่อครู่นี้ ต้องการทรยศฉันใช่ไหม?”
คนคนนั้นตัวแข็งทื่อทันที นิ่งเงียบไม่กล้าปริปาก!
ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็รู้สึกถึงกลิ่นอายความตายวนเวียนอยู่บนหัวเขา!
หลินซิง พี่ใหญ่แห่งสิบแปดผู้อาวุโสเสวียนกู่ได้ถูกฆ่าตายไปแล้ว และตอนนี้ คือตอนที่เขาจะถูกฆ่า!
เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด!
เพิ่งมีความคิดนี้ขึ้นมา เขาก็รู้สึกได้ว่าพลังชีวิตในตัวเขากำลังหายไปอย่างรวดเร็ว ในดวงตาที่เหม่อลอยมีเงาหนึ่งวาบผ่านเข้ามา นั่นคือมือที่ยาวใหญ่ข้างหนึ่ง นิ้วมือเรียวยาว ขาวผ่องใส ดุจดั่งมือของหญิงสาว ไม่สิ ขาวผ่องยิ่งกว่ามือของหญิงสาวเสียอีก เหมือนเป็นมือที่ไร้ซึ่งสิ่งใด ๆ เจือปน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ