จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 796

พอคำนี้ถูกพูดออกมา ก็เงียบกริบจนได้ยินเสียงเข็มร่วงลงพื้น!

ฟางจินหยวนก็โมโหโกรธาขึ้นมาทันที!

ฆ่าฟางไห่เฟิงตาย ก็ไม่ต่างอะไรกับการไปควบคุมการเจริญเติบโตของธุรกิจในตระกูลฟาง ฟางไห่เฟิงอยู่ที่ตระกูลฟาง ตระกูลฟางถึงจะมีความหวังที่จะเติบโตได้ต่อไป อสูรเพลิงก็ยังกล้าคิดได้นะ!

“ฟางจินหยวน ดูท่าทางคุณ เหมือนว่าคุณจะโกรธมากเลยนะ?” ผู้หญิงคนนั้นก็หัวเราะๆ “จริงสินะ แค่ฆ่าอัจฉริยะสักคน คุณก็ยังตัดใจฆ่าไม่ลง แล้วอสูรเพลิงจะตัดใจฆ่าได้อย่างไรกัน? ฉันลืมบอกคุณไป วันพรุ่งนี้ก็คือวันที่อสูรเพลิงบุกโจมตีสุดกำลัง พวกคุณอยากถูกฝังไปพร้อมกับตระกูลฟาง หรือว่าจะยอมฆ่าฟางไห่เฟิง คิดเอาเองก็แล้วกัน”

บีบบังคับ นี่มันก็คือการบีบบังคับกันชัดๆ !

จะไม่ให้ตระกูลฟางมีทางรอดเลย!

แต่สำหรับการถูกบีบบังคับแบบนี้ กลับทำให้ฟางจินหยวนรู้สึกหมดแรง คำพูดของผู้หญิงคนนี้มันหนักเหมือนกับเอาภูเขามาทับตัว ทับจนเขาหายใจไม่ออก!

ต่อให้ลูกหลานเก่งๆ ในตระกูลฟางต้องถูกฆ่าไป ก็ไม่อาจจะทำให้ฟางจินหยวนสิ้นหวังได้ขนาดนี้

เคราะห์กรรมของตระกูลฟางครั้งนี้ คงจะผ่านไปไม่ได้เสียแล้ว!

อยู่ดีๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ลุกขึ้น แล้วก็มองไปยังฟางจินหยวนที่โมโหมาก พร้อมกับยิ้มเบาๆ “ไม่ต้องไปส่งหรอกนะ เจอกันพรุ่งนี้แล้วกัน”

พอทั้ง4คนเดินออกห้องโถงไป ด้านในห้องโถงก็ยังคงเงียบสนิท ได้ยินแต่เสียงหายใจแรงๆ ของฟางจินหยวน และเสียงเต้นของหัวใจที่แรงมาก แต่ฟางไห่เฟิงกลับยิ่งนิ่งไป นิ่งมาก ราวกับพระเกจินั่งสมาธิเข้าเข้าฌาน

ฟางจินหยวนก็สับสนในใจมาก แล้วก็พูดทำลายความเงียบขึ้นมาว่า “ไห่เฟิง คิดอย่างไรกับเรื่องนี้?”

“อยู่ในการคาดเดาไว้” ฟางไห่เฟิงยิ้มๆ เบาๆ “พ่อครับ พ่อคิดว่า เรื่องนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี?”

“ก็สู้กับมันไป ตระกูลฟางเราไม่ขี้ขลาดอยู่แล้ว!ไม่ว่าตระกูลฟางจะเป็นตระกูลต่ำต้อย หรือยิ่งใหญ่เหมือนตอนนี้ ลูกหลานของตระกูลฟางก็ล้วนใจกล้าและซื่อสัตย์ ไม่ยอมย่อท้อ จะยอมไปก้มหัวใต้แทบเท้าคนอื่น เพราะถูกบังคับได้อย่างไร? ดังนั้น ไห่เฟิง เอ็งไปรวบรวมกำลังพลของตระกูลฟางทั้งหมดที่มีในตอนนี้ แล้วพรุ่งนี้ก็เปิดศึกเป็นตายกันไปข้าง!”

ฟางไห่เฟิงก็ส่ายหัวออกมาตอนที่กำลังซาบซึ้ง “พ่อครับ พวกเรากำลังทำเรื่องที่มันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยนะครับ ก็เหมือนกับที่ผู้หญิงคนนั้นพูดไว้ พวกเราก็เหมือนกับเอาแขนตั๊กแตนไปขวางรถ รนหาที่ตายนะครับ”

“ไม่สู้ แล้วจะรู้ได้อย่างไร?” ฟางจินหยวนโมโหเดือดขึ้นมา แล้วพูดหน้านิ่งๆ ว่า “ไห่เฟิง นี่มันไม่ใช่นิสัยเอ็งเลยนะ เอ็งยังไม่สู้เลย ทำไมถึงได้กลัวไปแล้วล่ะ? นี่มันไม่เหมือนเอ็งเลย”

ฟางไห่เฟิงก็ไม่ได้หัวเสีย แล้วยิ้มพูดไปเบาๆ ว่า “พ่อครับ บางทีพ่ออาจจะยังไม่เข้าใจ ผู้ชาย3คนที่ผู้หญิงคนนั้นพามาด้วย ล้วนเป็นนินจาระดับปรมาจารย์ ถึงแม้ผมจะอยู่ในจุดที่สู้แล้วไม่แพ้ใคร แต่ก็ไม่อาจจะแยกร่างตัวเองได้ พอสู้กันจริงๆ ขึ้นมา พวกเราไม่มีวี่แววจะชนะเลย ใช่ ผมเดาว่าพ่อต้องคิดว่ามีตัวช่วยแล้วจะกลัวอะไร เพราะถึงอย่างไรนอกจากตระกูลฟางจะมีผมแล้ว ก็ยังมีขวังซือ แต่พ่อก็ดูถูกอสูรเพลิงมันเกินไป พวกมันอยู่มายาวนานนับพันปีไม่ล่มสลาย คิดดูก็รู้แล้วว่าพวกมันไม่ธรรมดา พลังที่แท้จริงของพวกมัน ยังคงเป็นปริศนาอยู่เลย!”

“ที่สิ่งที่ทำให้ผมไม่เข้าใจก็คือ อสูรเพลิงเก็บตัวเงียบมาตลอด ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ แล้วทำไมพวกมันถึงได้สนใจอยากจะมาควบคุมโลกภายนอก เพราะถึงอย่างไรพวกมันก็บอกเองว่า เป็นสำนักปกป้องประเทศชาติ”

“ไห่เฟิง เอ็งคิดว่าควรทำอย่างไรดี?”

“ผู้หญิงคนนั้นพูดถูกต้อง มีเพียงฆ่าผมแล้วเท่านั้น ตระกูลฟางถึงจะสงบสุข”

“ไม่ได้!” จินฟางหยวนตวาดว่า “ลูกหลานตระกูลฟาง จะยอมฆ่าพวกกันเองเพื่ออยู่รอดต่อไปได้อย่างไร? ไม่ได้เด็ดขาด เออไห่เฟิง เอ็งรู้จักพวกนินจาอยู่ไม่ใช่หรือไง? ลองเรียกพวกเขาให้มาช่วยเหลือดีไหม? ช่วยตระกูลฟางให้รอดพ้นภัยครั้งนี้”

“ไม่ได้ผลหรอกครับพ่อ พออสูรเพลิงบุกโจมตี พวกนินจาทั้งหลายต่างก็พากันหลบไปหมด เพราะกลัวจะไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย ตระกูลฟางมีเคราะห์ครั้งนี้ก็เพราะผมคนเดียว ก็ควรจะให้ผมจัดการเอง เพียงแต่.........”

พูดถึงจุดนี้ สีหน้าไม่กลัวอะไรของฟางไห่เฟิง ก็เริ่มร้อนรนขึ้นมา

“เพียงแต่อะไรเล่า?”

“ผมรู้สึกว่า อสูรเพลิงทำแบบนี้ จะต้องมีจุดมุ่งหมาย น่าจะลงมือทำอะไรอย่างอื่นด้วย รวบรวมพรรคพวกนินจา ไม่รู้ว่ากำลังวางแผนอะไรอยู่? ผมเชื่อว่าที่ตระกูลฟางเรา ไม่ใช่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของพวกมันหรอก แต่น่าเสียดายที่ผมเก่งสู้มันไม่ไหว วิชาการต่อสู้ไม่อาจจะพัฒนาเพิ่มขึ้นได้อีก ไม่อย่างนั้นคงจะช่วยเหลือให้ตระกูลฟางผ่านเคราะห์ครั้งนี้ไปได้แน่!”

ใจแน่วแน่ ในใจของฟางไห่เฟิงได้ตัดสินใจแล้ว ตายคนเดียวเพื่อคืนความสงบให้กับตระกูลฟาง เขายอมที่จะทำมันเอง!

ฟางจินหยวนก็รู้ถึงใจของฟางไห่เฟิงว่าคิดจะทำอะไร ก็เลยรีบพูดขึ้นว่า “ไห่เฟิง พ่อไม่ยอมให้เอ็งมีความคิดแบบนี้เด็ดขาด แต่ไหนแต่ไรมา ตระกูลฟางไม่เคยทอดทิ้งใคร ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม พวกเราร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน สู้มาด้วยกัน เอ็งเป็นคนเก่งของตระกูลฟางเรา ต่อให้ต้องเสียทั้งตระกูลฟาง ก็ไม่มีทางยอมให้เอ็งเอาชีวิตไปทิ้ง เข้าใจแล้วใช่ไหม?”

ฟางไห่เฟิงส่ายหัว “พ่อครับ พ่อก็ยังมองไม่ออกอยู่ดี อสูรเพลิงมันใช้ทุกวิถีทางให้เรายอม บอกกับวันนี้ที่มาบีบบังคับเรา พ่ออยู่ยังมองไม่ออกอีกหรือครับ? คล้อยตามมันอยู่ ใครขวางมันตาย นี่คือหลักการของพวกมันมาโดยตลอด!”

คล้อยตามกูอยู่ ใครขวางกูตาย!

คำนี้ก็ดูเหมาะสมกับหลักการทำงานของอสูรเพลิง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ