ใบหน้านั้นของฟางเหยียนอึมครึมขึ้น มองจนเซียวไห่ปิงหนังศีรษะระเบิดกระจาย
เขากัดฟันไว้ พูดจาแบบสั่นเทาอย่างยิ่ง “ไม่! คุณพ่อของแก่แล้ว แกมีอะไรก็มาลงที่ฉันนี่แหละ ไม่ผิด เป็นพวกฉันที่ทำลายตระกูลเย่ แต่นี่คือสิ่งที่เป็นไปตามกระแสของยุคสมัย เดิมทีตระกูลเย่ต้องถูกเบียดลงมา พวกเขาไม่เหมาะสมที่จะอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารอันนี้ เย่เทียนอวดดีเกินไปเอง เขาคิดว่าความคิดของตัวเองที่เป็นสิ่งยอดเยี่ยมสุด ความคิดและวิธีการนี้ไม่เหมาะสม!”
เขารู้ว่าตนเองต้องตาย ถึงกล้าพูดเรื่องพรรค์นี้ออกมา
สีหน้าของฟางเหยียนเปลี่ยนไปหนาวเย็นถึงที่สุด ดวงหน้าของเขาที่จ้องเซียวไห่ปิงอยู่ใบนั้นยิ่งดูสยองขวัญขึ้น
“ได้ กระแสของยุคสมัยหนึ่ง!”
หลังจากพูดคำนี้จบ ด้านหลังของฟางเหยียนก็ระเบิดไฟโกรธกองหนึ่งออกมาแล้ว เป็นเปลวไฟที่ระเบิดออกมาจากกำลังภายใน
เทพแห่งสงครามโกรธเคือง เลือดนองทั้งเมือง!
เซียวไห่ปิงตกใจกับไฟแค้นกองนี้จนมึนงงไปถึงที่สุด ชีวิตนี้ของเขาแต่ไหนแต่ไรไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน เดิมทีเรื่องปล่อยไฟโกรธออกมาที่พูดถึงกันนั้นหาใช่แต่งขึ้น นี่เป็นเรื่องจริง
อย่างนั้นบรรลุไปถึงขั้นไหนกันแน่ จึงสามารถเกิดสิ่งนี้ขึ้นได้?
เซียวไห่ปิงไม่รู้ นี่เป็นระดับที่เขาไม่สามารถจินตนาการได้
“เซียวไห่ปิง แกจะเป็นของขวัญชิ้นที่สามที่ฉันจะส่งให้พ่อแก” ฟางเหยียนพูดออกมาทีละคำ
“ไม่!” เซียวไห่ปิงส่ายหน้าแบบบ้าคลั่ง ตะโกนเสียงแหบเต็มแรง
แต่เนื่องจากพวกเขาอยู่บนพื้นที่สูง ไม่ว่าเสียงของเขาจะดังแค่ไหน ก็ทำได้เพียงวนกลับไปกลับมาในอากาศสูง
หมดหวัง ในที่สุดเขารู้สึกถึงความหมดหวังแบบนี้แล้ว
เมื่อตอนที่คนเหล่านั้นตายอยู่ในน้ำมือเขา คงเคยหมดหวังเช่นกัน แต่เขากลับเห็นความรู้สึกแบบนี้เป็นการเสพสุข เขาคิดว่าในชีวิตนี้ตนเองคงไม่มีโอกาสได้รู้ว่าอะไรคือความผิดหวัง นึกไม่ถึงเวลานี้เขากลับรู้สึกถึงรสชาติที่หมดหวังซึ่งสมจริงขนาดนี้
อ้อนวอนจะมีประโยชน์ไหม?
ไม่ ไม่มีประโยชน์ เป้าหมายของเขาคืออยากให้ตนเองตายไปท่ามกลางความหมดหวัง
ในปากเขาบ่นพึมพำออกมาว่า “ของขวัญชิ้นที่สาม!”
เขานึกถึงของขวัญชิ้นแรกขึ้นมาทันใด ขาทั้งสองของเซียวฮั่ว
ของขวัญชิ้นที่สอง อารองของเขาโดนจับ
เขา จะเป็นของขวัญชิ้นที่สาม
เซียวฮั่วเป็นคนที่ปู่เขารักมากที่สุด หลังจากตัดขาทั้งสองของเขาขาดไป ทำให้เขาเสียใจเจ็บปวดถึงขั้นสุด ส่วนอารองเป็นที่พึ่งของตระกูลเซียว พาตัวอารองไป ถือว่าเป็นการตัดกำลังช่วยเหลือของตระกูลเซียวทิ้ง เขา ผู้รับผิดชอบของตระกูลเซียว นี่คือสิ่งที่ทำให้เซียวเจิ้นเที่ยนมองไปทางไหนก็ไม่มีญาติพี่น้อง
เดิมคิดว่าคงต้องตายแล้ว แต่คำพูดที่เย็นยะเยือกของฟางเหยียนนั้นลอยมาอีกครั้ง “แกรู้มั้ยว่าที่นี่ที่ไหน?”
เซียวไห่ปิงจะรู้ว่าที่นี่คือสถานที่อะไรได้ที่ไหนกัน ตอนนี้เขายังมีกะจิตกะใจไปรับรู้อะไร
“นี่คือสถานที่ที่พวกแกบีบคุณอาเย่ของฉันให้ตายไป!” ฟางเหยียนชี้ไปที่ดาดฟ้ากว้างโล่งพลันตะคอกใส่
พูดจบ ในมือของเขามีมีดโค้งเพิ่มมาเล่มหนึ่ง มีดโค้งเล่มนั้นเหมือนกับเคียวของยมทูต เห็นเพียงมีดโค้งกรีดลงมา ศีรษะของเซียวไห่ปิงหลุดลงมาจากบนคอ วินาทีนี้ ทั่วทั้งโลกเปลี่ยนไปเงียบเชียบแล้ว
ฟางเหยียนยืนอยู่ดาดฟ้าของเทียนสงกรุ๊ป เวลานี้ลมกำลังอ่อนพัดมา จากนั้นพัดพากลิ่นที่คุ้นเคยขึ้นมา
ฟางเหยียนหลับตาลง อ้าแขนทั้งสองออกพลางสูดกลิ่นที่คุ้นเคยอันนี้อย่างโหยหา
“คุณอาเย่ คุณอาเห็นหรือยังครับ? ลูกของท่านเติบโตแล้ว ท่านวางใจได้ ชิงหยู่กับคุณน้าจาง จะไม่มีใครโดนทำร้ายทั้งนั้น ผมจะให้คนที่ทำร้ายคุณอาพวกนั้นชดใช้อย่างสาสม!” พอพูดจบ ฟางเหยียนคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง
เทียนขุยซึ่งอยู่ไม่ไกลนักมองเหตุการณ์อยู่ในสายตา จอมพลโผ้จวินคุกเข่า เขาย่อมจะไม่ยืนอยู่เช่นกัน รีบคุกเข่าลงไปด้วย
เพียงแต่เขาไม่เคยเห็นจอมพลโผ้จวินคุกเข่ามาก่อน นี่คือครั้งแรกตั้งแต่เขารู้จักจอมพลโผ้จวินมาสี่ปี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ