“คุณอย่ามองฉันด้วยสายตาเช่นนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด ถ้าคุณเก่งจริงก็ลงมือเลย!”
การพูดจายั่วยุของชิงตี้ ทำให้เทียนขุยโกรธทันที เมื่อก่อนเขาสู้ชิงตี้ไม่ได้ แต่ตอนนี้เทียนขุยซึ่งฝีมืออยู่ในระดับที่มั่นคง ไม่เกรงกลัวเธออีกแล้ว!
เขาพุ่งออกไปทันที ถึงแม้ว่าเทียนฝู่และคนอื่น ๆ จะรีบขัดขวาง แต่มันก็สายเกินไปแล้ว!
หมัดขนาดใหญ่พุ่งมาตามที่คาดไว้ ชิงตี้ขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวพึมพำว่า “ไม่ได้เห็นไอ้หมอนี้มาสักพัก ดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย?”
ชิงตี้ก็พุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล!
จู่โจมและป้องกันสลับกัน!
ปัง!
ชิงตี้ถอยหลังไปสามก้าว มองเทียนขุยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ!
ผู้ชายคนนี้ไปเผชิญอะไรมา?
ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาก!
นอกจากชิงตี้แล้ว ขณะเดียวกัน รองผู้นำอีกห้าคนก็รู้สึกตกตะลึงเช่นกัน แต่ฉินเสียงหลินกลับมีสีหน้าราบเรียบ เขาเป็นคนที่รู้ความสามารถของเทียนขุยดีที่สุด
“บุกเข้ามาอีก!” เทียนขุยยิ้มเยาะเย้ย “เมื่อสักครู่เป็นเพียงการอุ่นเครื่องเท่านั้น ตอนนี้ถึงจะเป็นเวลาเอาจริง!”
ชิงตี้ไม่กล้าประมาท เพราะความแข็งแกร่งของเทียนขุยเพิ่มขึ้นมาก เธอมือยื่นมือออกมาและลอยลงมาอย่างช้า ๆ
ทั้งสองคนใช้พลังของตนเองอย่างเต็ม และเต๋ายอดเซียนก็สร้างเกราะป้องกันทันที!
ถ้านินจาระดับสูงใช้พลังของตนเองอย่างเต็มแล้ว พลังการทำลายล้างนั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก!
เขาไม่ต้องการให้สถานที่ดีเช่นนี้ถูกทำลายลง!
เมื่อทั้งสองคนปะทะกัน เสียงสั่นสะเทือนท้องฟ้า กำลังภายในนั้นรุนแรง พริบตาเดียวก็ต่อสู้ไปหลายกระบวนท่า ยิ่งเร็วขึ้นมากเท่าไหร่ ยิ่งลานตามากขึ้นเท่านั้น
เทียนกางตกตะลึงและถามด้วยความมึนงงว่า “เทียนขุยแข็งแกร่งมากขนาดนี้เลยหรือ? ดูเหมือนว่าผมจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไปแล้ว”
เทียนหลังยิ้มอย่างขมขื่น “เทียนกาง อย่าว่าแต่คุณเลย เกรงว่าพวกเราห้าคนร่วมมือกันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ไอ้หมอนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ!”
รองผู้นำทั้งห้าคนแสดงความยินดีด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นและความตื่นเต้น พี่น้องของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น พวกเขาย่อมดีใจเป็นธรรมดา แต่ผิดหวังหดหู่เพราะตนเองอ่อนแอเกินไป!
เทียนกางมองไปที่เทียนฝู่ เหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และกล่าวด้วยความลังเลว่า “เทียนฝู่ พี่เทียนขุยกลายเป็นคนเก่งขนาดนี้ เป็นเพราะเขาติดตามพี่ใหญ่หรือเปล่า?”
“อย่างน้อยก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง” เทียนฝู่มองการต่อสู้ที่ดุเดือดของสองคนนั้น และกล่าวว่า “ครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นเทียนขุย เขาไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ แต่ตอนนี้เขาเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน และความก้าวหน้านั้นรวดเร็วมากจนไม่มีใครหยุดมันได้”
“ถ้ารู้แต่แรกผมจะตื๊อเพื่อจะได้ติดตามพี่ใหญ่ แม้ว่าพี่ใหญ่จะทุบตีผมก็ยอม และถึงแม้จะถูกฟ้าผ่าก็ตาม!”
สีหน้าของเทียนฝู่เคร่งขรึม ที่แท้เทียนกางมีแผนเช่นนี้เอง นึกไม่ถึงว่าเขาจะริษยาที่เทียนขุยแข็งแกร่งขึ้น!
วงจรสมองของไอ้หมอนี้แข็งแกร่งเกินไปแล้วมั้ง?
ลืมไปหรือเปล่าว่าก่อนหน้านั้นไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ภูเขาทิพย์ได้?
ดังนั้นถึงได้สูญเสียพี่น้องไปมาก?
ที่เทียนขุยและคนอื่น ๆ โชคดีไม่ตายนั้นเป็นเพราะวาสนาของฟางเหยียนอย่างสิ้นเชิง มิเช่นนั้นพวกเขาคงกลายเป็นเถ้าถ่านไปนานแล้ว!
เพื่อความแข็งแกร่งขึ้น ไอ้หมอนี้ช่างกล้าคิด!
สมองมีปัญหา!
คิดแล้วมันก็ใช่ เทียนกางเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง ความสามารถก็ไม่ด้อย และตอนนี้กลับถูกเทียนขุยแย่งความโดดเด่นไป แล้วเขาจะทนได้อย่างไร?
“เทียนกาง เมื่อไหร่สติปัญญาของคุณจะอยู่ในระดับปกติสักครั้ง”
เทียนกางกล่าวด้วยความไม่พอใจว่า “เหนื่อยยากลำบากมาหลายปี แต่ฝีมือยังหยุดอยู่กับที่ ผมใจร้อน อย่าว่ากันนะ การที่เทียนขุยติดตามพี่ใหญ่แล้วมีชีวิตที่ดี มันทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ!”
ยังคงทนเห็นเทียนขุยดีกว่าไม่ได้!
เทียนฝู่พูดอะไรไม่ออก!
ขณะนี้เทียนฝู่เผชิญหน้ากับเทียนกางที่ดวงตาเปล่งประกาย ซึ่งเป็นเหมือนการสีซอให้ควายฟัง!
“เทียนฝู่ คุณอิจฉาเทียนขุยหรือ?”
“หุบปากซะ!”
เทียนกางยิ้มเจื่อน ๆ แล้วหันไปมองเทียนซิงที่เงียบมาโดยตลอด จากนั้นก็กล่าวพึงพำไม่หยุดด้วยความอิจฉา ทำให้เทียนซิงเอามือตนเองปิดหู และแสดงสีหน้าที่หมดอาลัยตายอยาก!
ตอนนี้ทุกคนถึงได้รู้ว่าเทียนกางเป็นคนที่น่ารำคาญจริง ๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ