จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 879

“คุณอย่ามองฉันด้วยสายตาเช่นนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด ถ้าคุณเก่งจริงก็ลงมือเลย!”

การพูดจายั่วยุของชิงตี้ ทำให้เทียนขุยโกรธทันที เมื่อก่อนเขาสู้ชิงตี้ไม่ได้ แต่ตอนนี้เทียนขุยซึ่งฝีมืออยู่ในระดับที่มั่นคง ไม่เกรงกลัวเธออีกแล้ว!

เขาพุ่งออกไปทันที ถึงแม้ว่าเทียนฝู่และคนอื่น ๆ จะรีบขัดขวาง แต่มันก็สายเกินไปแล้ว!

หมัดขนาดใหญ่พุ่งมาตามที่คาดไว้ ชิงตี้ขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวพึมพำว่า “ไม่ได้เห็นไอ้หมอนี้มาสักพัก ดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย?”

ชิงตี้ก็พุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล!

จู่โจมและป้องกันสลับกัน!

ปัง!

ชิงตี้ถอยหลังไปสามก้าว มองเทียนขุยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ!

ผู้ชายคนนี้ไปเผชิญอะไรมา?

ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาก!

นอกจากชิงตี้แล้ว ขณะเดียวกัน รองผู้นำอีกห้าคนก็รู้สึกตกตะลึงเช่นกัน แต่ฉินเสียงหลินกลับมีสีหน้าราบเรียบ เขาเป็นคนที่รู้ความสามารถของเทียนขุยดีที่สุด

“บุกเข้ามาอีก!” เทียนขุยยิ้มเยาะเย้ย “เมื่อสักครู่เป็นเพียงการอุ่นเครื่องเท่านั้น ตอนนี้ถึงจะเป็นเวลาเอาจริง!”

ชิงตี้ไม่กล้าประมาท เพราะความแข็งแกร่งของเทียนขุยเพิ่มขึ้นมาก เธอมือยื่นมือออกมาและลอยลงมาอย่างช้า ๆ

ทั้งสองคนใช้พลังของตนเองอย่างเต็ม และเต๋ายอดเซียนก็สร้างเกราะป้องกันทันที!

ถ้านินจาระดับสูงใช้พลังของตนเองอย่างเต็มแล้ว พลังการทำลายล้างนั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก!

เขาไม่ต้องการให้สถานที่ดีเช่นนี้ถูกทำลายลง!

เมื่อทั้งสองคนปะทะกัน เสียงสั่นสะเทือนท้องฟ้า กำลังภายในนั้นรุนแรง พริบตาเดียวก็ต่อสู้ไปหลายกระบวนท่า ยิ่งเร็วขึ้นมากเท่าไหร่ ยิ่งลานตามากขึ้นเท่านั้น

เทียนกางตกตะลึงและถามด้วยความมึนงงว่า “เทียนขุยแข็งแกร่งมากขนาดนี้เลยหรือ? ดูเหมือนว่าผมจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไปแล้ว”

เทียนหลังยิ้มอย่างขมขื่น “เทียนกาง อย่าว่าแต่คุณเลย เกรงว่าพวกเราห้าคนร่วมมือกันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ไอ้หมอนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ!”

รองผู้นำทั้งห้าคนแสดงความยินดีด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นและความตื่นเต้น พี่น้องของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น พวกเขาย่อมดีใจเป็นธรรมดา แต่ผิดหวังหดหู่เพราะตนเองอ่อนแอเกินไป!

เทียนกางมองไปที่เทียนฝู่ เหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และกล่าวด้วยความลังเลว่า “เทียนฝู่ พี่เทียนขุยกลายเป็นคนเก่งขนาดนี้ เป็นเพราะเขาติดตามพี่ใหญ่หรือเปล่า?”

“อย่างน้อยก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง” เทียนฝู่มองการต่อสู้ที่ดุเดือดของสองคนนั้น และกล่าวว่า “ครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นเทียนขุย เขาไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ แต่ตอนนี้เขาเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน และความก้าวหน้านั้นรวดเร็วมากจนไม่มีใครหยุดมันได้”

“ถ้ารู้แต่แรกผมจะตื๊อเพื่อจะได้ติดตามพี่ใหญ่ แม้ว่าพี่ใหญ่จะทุบตีผมก็ยอม และถึงแม้จะถูกฟ้าผ่าก็ตาม!”

สีหน้าของเทียนฝู่เคร่งขรึม ที่แท้เทียนกางมีแผนเช่นนี้เอง นึกไม่ถึงว่าเขาจะริษยาที่เทียนขุยแข็งแกร่งขึ้น!

วงจรสมองของไอ้หมอนี้แข็งแกร่งเกินไปแล้วมั้ง?

ลืมไปหรือเปล่าว่าก่อนหน้านั้นไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ภูเขาทิพย์ได้?

ดังนั้นถึงได้สูญเสียพี่น้องไปมาก?

ที่เทียนขุยและคนอื่น ๆ โชคดีไม่ตายนั้นเป็นเพราะวาสนาของฟางเหยียนอย่างสิ้นเชิง มิเช่นนั้นพวกเขาคงกลายเป็นเถ้าถ่านไปนานแล้ว!

เพื่อความแข็งแกร่งขึ้น ไอ้หมอนี้ช่างกล้าคิด!

สมองมีปัญหา!

คิดแล้วมันก็ใช่ เทียนกางเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง ความสามารถก็ไม่ด้อย และตอนนี้กลับถูกเทียนขุยแย่งความโดดเด่นไป แล้วเขาจะทนได้อย่างไร?

“เทียนกาง เมื่อไหร่สติปัญญาของคุณจะอยู่ในระดับปกติสักครั้ง”

เทียนกางกล่าวด้วยความไม่พอใจว่า “เหนื่อยยากลำบากมาหลายปี แต่ฝีมือยังหยุดอยู่กับที่ ผมใจร้อน อย่าว่ากันนะ การที่เทียนขุยติดตามพี่ใหญ่แล้วมีชีวิตที่ดี มันทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ!”

ยังคงทนเห็นเทียนขุยดีกว่าไม่ได้!

เทียนฝู่พูดอะไรไม่ออก!

ขณะนี้เทียนฝู่เผชิญหน้ากับเทียนกางที่ดวงตาเปล่งประกาย ซึ่งเป็นเหมือนการสีซอให้ควายฟัง!

“เทียนฝู่ คุณอิจฉาเทียนขุยหรือ?”

“หุบปากซะ!”

เทียนกางยิ้มเจื่อน ๆ แล้วหันไปมองเทียนซิงที่เงียบมาโดยตลอด จากนั้นก็กล่าวพึงพำไม่หยุดด้วยความอิจฉา ทำให้เทียนซิงเอามือตนเองปิดหู และแสดงสีหน้าที่หมดอาลัยตายอยาก!

ตอนนี้ทุกคนถึงได้รู้ว่าเทียนกางเป็นคนที่น่ารำคาญจริง ๆ!

การต่อสู้ใกล้ถึงจุดเดือดแล้ว!

ทั้งสองคนต่อสู้โดยที่ไม่มีใครยอมแพ้ และพลานุภาพนั้นก็ไม่มีใครด้อยไปกว่าใคร!

บูม!

เสียงดังสนั่น จากนั้นทั้งสองก็แยกออกจากกัน และร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ก็ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

ชิงตี้ขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก ไม่ได้เห็นเขาแค่สักพัก นึกไม่ถึงว่าฝีมือของเทียนขุยจะสูสีกับเธอ และยังไม่แพ้เธอแม้แต่กระบวนท่าครั้งเดียว!

ความคืบหน้าเช่นนี้มันเกินกฎธรรมชาติไปแล้วมั้ง!

เก่งขึ้นอย่างเหลือเชื่อ!

สีหน้าของเทียนขุยเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ไม่ได้สะใจเช่นนี้มานานแล้ว แต่เขาก็รู้ว่าถึงแม้ตนเองจะสู้ตาย เกรงว่าก็ยังไม่สามารถฆ่าชิงตี้ได้

“ไม่นึกเลยว่าคุณจะก้าวหน้าเร็วขนาดนี้!”

เทียนขุยเช็ดเลือดที่มุมปากและยิ้มเยาะเย้ยว่า “ถ้าคุณเผชิญความตาย คุณก็จะก้าวหน้าได้เร็วเช่นนี้แหละ!”

“จะสู้ต่อไหม?” ชิงตี้กะพริบตา หลังจากนิ่งไปสักครู่แล้วกล่าวว่า “สู้ต่อ คุณทำอะไรฉันไม่ได้หรอก!”

“คุณกำลังขอความเมตตาจากผมหรือ?” เทียนขุยหัวเราะขณะที่กล่าว “โชคหมุนเวียนสับเปลี่ยนแล้ว? คุณก็มีวันที่ต้องขอร้องผมด้วย? คิดแล้วมันก็ถูก กาลครั้งหนึ่ง ชิงตี้นั้นหยิ่งยโสอย่างไร หยิ่งยโสมากถึงขนาดไม่เห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาอย่างไร และคิดว่าตนเองสูงกว่าคนอื่นอย่างไร ......อย่างไร ลืมไปแล้ว แต่มันไม่สำคัญแล้ว นึกไม่ถึงว่าชิงตี้ก็มีวันที่ต้องขอร้องคนอื่นด้วย คุณมาเล่นตลกหรือ?”

ดวงตาของชิงตี้เคร่งขรึมทันที!

ได้ไม่พูดจาอะไร พุ่งตรงเข้าไป!

เริ่มต่อสู้ทันที

เทียนขุยยิ้ม รู้ไหมว่าเขารอวันนี้มานานแค่ไหน?!

หลังจากที่เก็บกดมานาน เทียนขุยก็ต้องการระบายออกมาเช่นกัน!

ตั้งมั่น!

ไม่มีทางให้ถอยอีกต่อไป!

ทั้งสองคนต่อสู้กันอีกครั้ง สวรรค์และโลกเปลี่ยนสีไปทันที!

จางตุนเทียนส่ายศีรษะอย่างจำใจและกล่าวว่า “ไอ้หมอนี้เก็บกดมาเป็นเวลานาน จิตวิญญาณการต่อสู้ที่ระเบิดออกมานั้นน่ากลัวทีเดียว แน่นอนว่าไม่มีทหารที่อ่อนแอภายใต้นายพลที่เข้มแข็ง คนเหล่านี้น่ากลัวมาก ถ้าสามารถรวมเข้าด้วยกันได้ สำนักเทียนซือของผม.......”

เต๋ายอดเซียนจ้องมองเขาอย่างดุดัน “คุณช่างกล้าคิดน่ะ นี่เป็นนักรบที่ได้รับการฝึกฝนโดยจอมพล นึกไม่ถึงว่าคุณกล้าคิดที่จะแย่งไปเป็นคนของสำนักตนเอง คุณมีเก้าชีวิตหรือสิบชีวิตให้พอฆ่าหรือ? ช่างกล้าคิดได้!”

จางตุนเทียนยิ้มเจื่อน ๆ และกล่าวว่า “มันเป็นแค่การคิดเล่นเท่านั้น? ถึงแม้ว่าจอมพลจะให้ผม แล้วผมจะกล้ารับหรือ? ลืมมันเถอะ ต้องบอกว่าองค์กรสัตว์เพลิงนั้นทรงพลังมาก เพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งก็แข็งแกร่งขนาดนี้แล้ว มันเพียงพอที่จะเห็นว่าเบื้องหลังของพวกเขานั้นแข็งแกร่งเพียงใด ผมอยากรู้จริง ๆ ว่าในองค์กรสัตว์เพลิงนั้นยังมีคนที่เหมือนผู้หญิงคนนี้มากเท่าไหร่? ถ้าเป็นเช่นนั้น เกรงว่าพวกเราจะต้องลำบากล่ะ”

เต๋ายอดเซียนมีท่าทางที่เคร่งขรึม “ตาเฒ่า ไม่ได้รู้สึกกังวลหวาดกลัวเช่นนี้มานานแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมไม่มีคู่ต่อสู้นานเกินไปหรือเปล่า? หรือว่าสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว!”

จางตุนเทียน “……”

ตอนนี้เขาถึงได้ตระหนักว่าการเสแสร้งเพียงเล็กน้อยนั้นทำให้ของตนเองเก้อเขิน แต่ไม่คิดว่าเต๋ายอดเซียนจะไร้ยางอาย และหน้าด้านมากขนาดนี้ !

คนที่หน้าด้านนั้นสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะใช้กลอุบายเล่ห์เหลี่ยมอะไร!

คนเรานั้นเป็นเหมือนดั่งชื่อของตนเองจริง ๆ!

“คุณคิดว่าชิงตี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ดีมาก” จางตุนเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “ยังไม่พูดถึงเรื่องอื่น เธอมีความรักต่อจอมพลอย่างลึกซึ้ง และเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะปัจจัยอื่น ผู้หญิงคนนี้คงจะดีมาก”

“ช่างเถอะ มาพัฒนาฝีมือของตนเองกันเถอะ จะได้ไม่รู้สึกว่าตอนที่ต้องต่อสู้ฝีมือยังไม่พอใช้!” เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ เต๋ายอดเซียนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “พวกเราสองคนมาประลองกันสักสองสามกระบวนท่า เป็นอย่างไร?”

เมื่อคิดถึงเรื่องที่เต๋ายอดเซียนทำให้ตนเองเดือดร้อน จนเกือบจะต้องตาย เขายังไม่ได้ระบายความโกรธ มันไม่ง่ายที่จะมีโอกาสเช่นนี้ แล้วเขาจะพลาดได้อย่างไร!

“ผมก็มีความคิดเช่นนั้นเหมือนกัน!”

ทั้งสองคนหัวเราะดังสนั่นและไปจากที่นี่พร้อมกัน หลังจากนั้นก็มีเสียงดังสนั่นมาจากด้านหลังของภูเขา!

การต่อสู้ระหว่างชิงตี้และเทียนขุยจบลงด้วยความอ่อนล้า ร่างกายของทั้งสองคนเต็มไปด้วยเลือด เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส

“คุณทำอะไรฉันไม่ได้หรอก!”

เทียนขุยแสยะยิ้มและกล่าวว่า “งั้นผมจะฆ่าคุณ!”

“ออมแรงไว้เถอะ เมื่อสักครู่พงพินาศแปดทิศของคุณมีเจตนาฆ่าแล้ว แต่ผลลัพธ์ล่ะ? ตอนนี้ฉันยังคงยืนอยู่ที่นี่อย่างปลอดภัย? คุณสามารถทำให้ตนเองไม่แพ้ฉัน ไม่ได้หมายความว่าคุณเก่ง เข้าใจไหม? คนที่ไร้ประโยชน์เท่านั้นที่ชอบข่มขู่คนอื่น การใช้คารมคมคายเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ เป็นการกระทำของคนถ่อย!”

“คุณ……”

“คุณอะไรคุณ? ฉันไม่อยากจะพูดเรื่องไร้สาระกับคุณอีก” ชิงตี้กล่าวขัดจังหวะเทียนขุยทันที หันไปมองเทียนฝู่และกล่าวว่า “คุณควรอบรมสั่งสอนเขาให้ดี ตอนที่ถูกคนอื่นฆ่าตายจะได้รู้ว่ามันเกิดจากสาเหตุใด? ไม่รู้จักเหตุผลที่ว่าภัยพิบัติเกิดจากปากหรือ? แต่ช่างเถอะ สำหรับเขาแล้วเป็นเพียงการสีซอให้ควายฟังเท่านั้น!”

“เอาล่ะ ฉันไม่เล่นกับคุณแล้ว ฉันต้องไปดูแลจอมพล!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ