จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 880

เทียนขุยถูกละเลยอีกครั้ง!

เขาไม่มีความสุขจากการปลดปล่อย ตรงกันข้ามมันกลับไปกระตุ้นจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา!

ดูจากสถานการณ์การต่อสู้ ฝีมือของเขาต่างจากกับชิงตี้ไม่มาก

ต้องต่อสู้กันสักครั้งถึงจะรู้ว่าฝีมือของเขาชิงตี้ห่างกันแค่ไหน!

“เทียนขุย ฝีมือของคุณพัฒนารวดเร็วเป็นอย่างมาก ยินดีด้วย”

เทียนฝู่ สถานการณ์ภายนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ไปเถอะ เข้าไปคุยกันข้างใน”

เมื่อเดินเข้าไปในบ้านไม้ หลังจากทั้งหกคนนั่งลงแล้ว เทียนฝู่กล่าวว่า “สถานการณ์ภายนอกได้เปลี่ยนจากความโกลาหลเป็นมั่นคงแล้ว และประชาชนหายจากความตึงเครียดและตื่นตระหนกแล้ว สิ่งที่ควรชดเชยก็ได้ชดเชยไปหมดแล้ว และจัดการปัญหาที่เหลือเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่พี่น้องรู้สึกไม่สะใจเล็กน้อย เพราะขณะที่กำลังฆ่าอย่างเมามัน คนขององค์กรสัตว์เพลิงเหมือนเต่าหัวหด ชั่วพริบตาเดียวพวกเขาก็หายตัวไปหมด พวกเราพี่น้องทั้งหมดจึงปรึกษาหารือกันว่าจะบุกไปที่รังของพวกเขาดีกว่า!”

เมื่อเทียนขุยได้ยินก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมามันที จากนั้นเหมือนมีคนเอาน้ำเย็นสาดใส่ และกล่าวยิ้มเจื่อน ๆว่า “เป็นความคิดที่ไม่เลวดี แต่เสียดายที่ชิงตี้ไม่ยอมพูด สิ่งเดียวที่รู้สึกเสียใจคือก่อนหน้านั้นตอนที่ผมกับจอมพลโผ้จวินไปที่อาณาเขตของเจ้านายเธอ และสิ่งเดียวที่รู้สึกเสียใจคือพวกเราถูกชิงตี้ปิดตา เลยไม่รู้ว่าสถานที่นั้นมันคือที่ไหน ถ้าพวกเรารู้คงจะดี”

เทียนซิงกล่าวแทรกว่า “คุณลองนึกดูว่ามีสถานที่อะไรพิเศษหรือเปล่า?”

ผู้คนที่เหลือต่างถามตามอย่างพร้อมเพรียง

เทียนขุยหลับตาลงแล้วครุ่นคิดและกล่าวพึมพำว่า “ตอนแรกผมกับจอมพลโผ้จวินได้พบกับสัตว์ประหลาดที่ตระกูลโจวบนภูเขาทิพย์ จากนั้นพวกเราถูกชิงตี้พาไปขึ้นเครื่องบิน และถูกปิดตาตลอดทาง ฟังเสียงของเครืองบินแล้วเป็นเฮลิคอปเตอร์พลเรือน แบบเดียวกับเฮลิคอปเตอร์โรบินสันซีรีส์ เฮลิคอปเตอร์ออกจากดินแดนตะวันตก และบินลงใต้ประมาณสามชั่วโมง แล้วพวกเราก็ถูกโยนออกจากเครื่องบิน ถูกต้อง มันเหมือนกับการกระโดดร่ม ความเร็วในการตกลงมานั้นสูงมาก ดูเหมือนเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ลงสู่พื้นดิน ผมเดาว่าตอนนั้นความสูงของเฮลิคอปเตอร์น่าจะประมาณหนึ่งพันเมตร”

“หลังจากตกลงมาสู่พื้นแล้ว มีกลิ่นใบไม้เน่าเหม็นไปทั่ว ซึ่งใบใต้ฝ่าเท้าก็นุ่มราวกับกำลังเหยียบชายหาด นอกจากนั้นดูเหมือนว่ามีต้นไม้อยู่รอบ ๆ และยังสามารถได้ยินเสียงของนกต่าง ๆ และแสงแดดรอบ ๆ ก็ไม่แรง เพียงพอที่จะเดาได้ว่าตอนนั้นพวกเราอยู่ในป่า”

คนทั้งห้าไม่ได้พูดขัดจังหวะเทียนขุยให้เขาพูดต่อไปเรื่อย ๆ การคาดเดาเหล่านั้นของเทียนขุย มีน้ำหนักมากพอที่เชื่อได้ นี่เป็นวิชาบังคับสำหรับการทำสงคราม และยังเป็นประเด็นที่ต้องเรียนรู้เพื่อเข้าสู่สำนักเจ็ดพิฆาต ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้

“ยิ่งเดินเข้าไปข้างในป่าลึกมากเท่าใด ทางก็ยิ่งเดินยากขึ้นมากเท่านั้น เหมือนกับกำลังปีนภูเขาอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าใด กลิ่นของใบไม้เหม็นเน่ายิ่งจางลงเท่านั้น และมีกลิ่นหอมฟุ้งลอยอยู่บนอากาศ สำหรับกลิ่นหอมนั้นคล้ายกับกลิ่นของไม้จันทน์ ยิ่งเดินขึ้นไปสูงเท่าใด กลิ่นหอมยิ่งแรง ราวกับว่าเป็นกลิ่นของดอกไม้จันทน์ทั้งหมด”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เทียนขุยก็หยุดพูด ลืมตาขึ้นและกล่าวว่า “หลังจากเปิดผ้าปิดตา พวกเราพบว่าตนเองได้มาอยู่ในวังที่ใหญ่งดงามตระการตาแล้ว หลังจากนั้นพวกเราเห็นนายน้อยเสวียนเย่ขององค์กรสัตว์เพลิง และไอ้หมอนั้นต้องการยืมมือจอมพลโผ้จวิน เพื่อช่วยให้เขาแย่งชิงตำแหน่งในองค์กรสัตว์เพลิง!”

หลังจากนั้นเทียนขุยกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “พวกคุณไม่รู้ว่าตอนที่อยู่ในอาณาเขตของเสวียนเย่ ผมฆ่าคนได้สะใจมากขนาดไหน ผมฆ่าคนไปทันทีสองร้อยกว่าคน ฮ่า ๆ.......สะใจมาก นั้นเป็นครั้งแรกที่ผมฆ่าคนขององค์กรสัตว์เพลิงอย่างใกล้ชิด!”

ทันใดนั้นดวงตาของเทียนกางที่ตั้งใจฟังมาโดยตลอดก็เปล่งประกาย และกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “เทียนขุย ทำไมคุณไม่เรียกผมไปด้วย? ให้ผมได้สะใจด้วยกัน!”

เทียนขุยมองเทียนกางด้วยสายตาที่เหยียดหยาม “พูดเหมือนกับว่าตอนนี้คุณยังสะใจไม่พออีกหรือ? พอหอมปากหอมคอก็ได้ล่ะมั้ง? คุณคิดว่าผมไม่รู้จักนิสัยของคุณเลยหรือ!”

“แล้วอะไรที่เรียกว่าสะใจล่ะ?” เทียนกางยิ้มอย่างขมขื่น “ก่อนที่ผมจะลงมือ ลูกน้องก็ได้เตรียมอาวุธพร้อม และตอนที่ผมไปถึง การต่อสู้จบลงแล้ว แม่ฉิบหาย ไอ้พวกนี้ไม่เชื่อฟังคำสั่ง ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดมาก!”

“ฮ่า ๆ ๆ” เมื่อมองสีหน้าที่ขมขื่นของเทียนกาง เทียนขุยหัวเราะเสียงดัง

“เอาล่ะ เรื่องหลักสำคัญกว่า” เทียนเต๋อหยุดพวกเขาสองคน แล้วมองไปที่เทียนฝู่และกล่าวว่า “เทียนฝู่ คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ