จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 882

คลื่นลูกใหม่มาแรงกว่าคลื่นลูกหลัง!

โหยวฟางอธิบายต่อทุกคนว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น รวมไปถึงความตั้งใจของเสวียนเจิ้นที่จะลดทอนอำนาจของเธอ เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและโกรธแค้น!

การเคลื่อนไหวแบบถอนรากของเพลิงเสวน แทบจะทำลายทุกสิ่งที่พวกเขาสร้างมาอย่างไม่ง่ายดายลงไปหมด แบบนี้ใครจะรับได้?

“ท่านราชาโหยวในความคิดของผม พวกเราไม่จำเป็นต้องทำงานภายใต้เพลิงเสวนอีกต่อไปแล้ว พวกเราสามารถเป็นราชาด้วยตัวเราเองได้ และหลุดออกจากการควบคุมของเพลิงเสวนโดยสิ้นเชิงซะ!”

“ท่านราชาโหยวเพลิงเสวนใจร้ายก็อย่าโทษพวกเราโหดร้าย! ในเมื่อคิดอยากจะจับเสือมือเปล่า อย่างนั้นพวกเราก็ให้โอกาสนี้กับเขาซะ ให้เขาได้ลิ้มลองอะไรคือการถอนรากถอนโคนที่แท้จริง! อีกทั้งยังสามารถแยกตัวออกจากเพลิงเสวน และกลายเป็นราชาได้!”

เมื่อมีคนสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ โหยวฟางก็ยกยิ้มจางๆ ขึ้นมาที่มุมปากของเธอ

"เงียบหน่อย!"

โหยวฟางกวาดตามองไปรอบๆ แล้วค่อยพูดว่า “ฉันเข้าใจอารมณ์ของทุกคน พวกนายรับรู้ได้ถึงความยากลำบากของฉัน ฉันซาบซึ้งมาก แต่ทุกคนอย่าลืมว่า ที่พวกเรามีวันนี้ก็เพราะการสนับสนุนจากเพลิงสวน แม้ว่าจะต้องทนแบกรับความอดสู ฉันเองก็จะไม่ลังเล!”

ทุกคนรู้สึกเต็มตื้นขึ้นมาอีกครั้ง โหยวฟางเต็มใจที่จะทนทุกข์เพื่อพวกเขา หากพวกเขาไม่ทำอะไรเลยสักนิด แล้วจะคู่ควรกับโหยวฟางได้อย่างไร?

“ท่านราชาโหยวพวกเราทุกคนฟังคุณ ที่คุณบอกมาสามข้อนี้ พวกเราล้วนเชื่อฟัง ไม่เพียงเท่านี้ หากสำนักงานใหญ่ของเพลิงเสวน ส่งคนมากอีกพวกเราก็จะฆ่าให้หมด!”

เกิดความเห็นพ้องขึ้นมาอีกครั้ง

“มีคำพูดเหล่านี้ ฉันก็พึงพอใจแล้ว” 

มีคนแสดงความจงรักภักดีออกมา “ท่านราชาโหยวเป็นคุณที่ให้โอกาสมากมายขนาดนี้กับพวกเรา พวกเราไม่สามารถทำให้คุณผิดหวังได้ ดังนั้นท่านราชาโหยว พวกเราเชื่อฟังแค่คำสั่งของคุณเท่านั้น แม้ว่าเสวียนเจิ้นจะมา พวกเราก็จะฆ่าไม่ลังเล! "

“อย่างนั้นก็ดี ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทุกท่านโปรดกลับไปก่อนเถอะ ฉันเกรงว่าเพลิงเสวนจะมีการเคลื่อนไหวบางอย่าง!”

หลังจากทั้งสิบสองคนจากไปอย่างโกรธเคือง ความขมขื่นบนใบหน้าของโหยวฟางก็หายไปในทันที จากนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยภูเขาน้ำแข็งอันสูงส่งหนาวเย็น!

“ท่านราชาโหยว ผู้น้อยมีบางเรื่องที่ไม่เข้าใจ”

“นายคิดจะบอกว่าทำไมฉันถึงโทรหาพวกเขามาตามลำพังแทนที่จะติดต่อพวกเขาโดยใช้ช่องทางอื่นและบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ใช่ไหม? ลงทุนไปมากขนาดนี้แต่กลับไม่เอาใจถือว่าเป็นการลงแรงเสียทีไปอยู่บ้างใช่ไหม?

“ผู้น้อยตื่นตระหนก” ชายคนนั้นตัวสั่นและคุกเข่าลง "ท่านราชาโหยว ผู้น้อยปากมาก ผู้น้อยตบปาก!"

เพี๊ยะ...

จากนั้นเสียงฝ่ามือก็ดังขึ้นมา

"พอแล้ว!"

คนผู้นั้นมีใบหน้าบวมเป่งราวกับหัวหมู และจ้องไปที่โหยวฟางอย่างแน่นิ่ง

“สิ่งที่นายคิดได้ นายคิดว่าเสวียนเจิ้นจะคิดไม่ออกหรือไง? ถ้าไม่ทำแบบนี้ เสวียนเจิ้นก็จะต้องติดต่อคนอื่นเพื่อมาแทนที่ฉันในทันที เพื่อผูกมัดทุกคนเอาไว้และรักษาตำแหน่งของตนเอง การแสดงละครขมขื่นแบบนี้มีแค่ทำต่อหน้าเท่านั้นถึงจะได้ผล ตอนนี้สถานการณ์เป็นไปตามที่ฉันคาดไว้ ไม่กลัวขโมย แต่กลัวคนจะขโมย โดยเฉพาะเสวียนเจิ้น นายเข้าใจไหม?”

ชายคนนั้นพยักหน้า “ดังนั้น แผนการขายโศกนี้ของคุณ การขายความน่าสงสารถึงเป็นไฮไลท์ที่ใหญ่ที่สุดงั้นหรือ?” 

"ฝ่ามือเหล่านี้ถือคุ้มค่า!" โหย่วฟางเยาะเย้ย “คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นเฒ่าเจ้าเล่ห์ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่สามารถเข้าสู่ตำแหน่งนี้ได้ หากไม่ให้ประโยชน์บางอย่างแก่พวกเขา เอาแต่กดดัน พวกเขาจะเต็มใจยอมรับใช้ฉันหรือไง? บางคนนั้นข่มขู่ยังดีเสียกว่าฆ่า จิตใจของคนเรานี้ ถือเป็นสิ่งที่ดีเสียจริง ช่างทำให้คนรู้สึกสงสัยและคาดเดาไม่ได้อยู่เสมอ หากไม่มีเรื่องอะไรก็ไปอ่านหนังสือให้มากหน่อย ครั้งหน้านายจะได้ไม่ถามคำถามงี่เง่าแบบนี้อีก!”

ชายคนนั้นยิ้มและกล่าวว่า “คำสั่งสอนของท่านราชาโหยวก็คือผู้น้อยตั้งแต่เด็กไม่ใฝ่เรียน ไม่อย่างนั้นคงถูกส่งไปบวชที่วัดเส้าหลินแล้ว”

โหยวฟาง "....”

ตอนนี้เธอเพิ่งพบว่า คนที่ติดตามเธอนั้นโง่งมอย่างมาก!

“ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องรีบไปทำตอนนี้ ไปเคลียร์คนที่เป็นของเสวียนเจิ้นทิ้งทันที ในเมื่อเขาโหดเหี้ยมก็อย่าหาว่าฉันไร้น้ำใจ!” 

——

ภูเขาเสินเจี้ย ตำหนักกลาง!

หลังจากข่าวต่างประเทศมาถึง ทั้งตำหนักกลางก็เงียบสนิทราวกับความตาย!

ต่อให้เป็นเสวียนเจิ้นที่แต่ไหนแต่ไรเสมือนบ่อน้ำโบราณที่ไร้คลื่น ในขณะนี้เขาเองก็ยังเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด หน้าผากของเขามีเส้นเลือดสีฟ้าปูดโปนขึ้นและแสดงถึงความโกรธของเขาได้ชัดเจน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ