“ท่านราชา พวกเราได้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ขอเพียงท่านสั่งมาคำเดียว ทุกคนก็จะเข้าสู่บทบาทของตัวเอง แล้วควบคุมทั้งประเทศหวาให้อยู่ภายใต้กำมือเราเอง”
เพิ่งได้กลับมาในตำหนัก ก็มีคนแก่ผมขาวพูดขึ้นมา
เสวียนเจิ้นก็หน้าบึ้ง นิ่งไปจนน่ากลัว
คนในตำหนักกลางก็เงียบเป็นเป่าสาก คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาไปหาเสวียนเย่ คิดไม่ถึงว่าจะโมโหขนาดนี้!
“ทุกท่าน ในเมื่อเวลาไม่เคยรอใคร พวกเราก็ควรที่จะส่งกำลังทั้งหมดออกไป ตอนนี้ด้านนอกดินแดนมีโหยวฟางคอยจับจ้องอยู่ ด้านในก็มีสำนักเจ็ดพิฆาตจับตาดูอยู่ ดังนั้นการกระทำของพวกเราจะต้องมั่นใจว่าจะไม่สูญเสียอะไรเลย ยิงธนูไปแล้วไม่หวนกลับ ถ้าเริ่มไปแล้ว ก็ต้องเอาชนะให้ได้ ใครกล้ามาขวาง ก็ฆ่าไม่เว้น!”
ในตำหนักกลางก็ฮึกเหิมกันขึ้นมาทันที!
วันนี้มาถึงแล้วใช่ไหม?
วันที่จะได้เป็นใหญ่ในประเทศหวาอีกไม่นานแล้ว!
อยู่ดีๆ ชายแก่ชุดดำก็มาปรากฏตัวตรงหน้าของเสวียนเจิ้น พอเห็นทุกคนกำลังลงมือทำอะไรโง่ๆ ก็ส่ายหัวอย่างเอือมระอา เขารู้ดีว่าเสวียนเจิ้นถูกความโกรธครอบงำสมองไปแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ก็จะได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ตอนนี้ดูเหมือนว่าเสวียนเจิ้นจะวู่วามมาก ไม่สมควรทำอะไรทั้งสิ้น
ในฐานะที่เป็นอาจารย์ของเขา ชายแก่คิดว่าตนมีหน้าที่จะชี้นำเขา ก็เลยพูดเสียงเย็นขึ้นมาว่า “ท่านราชา จำไว้ว่าห้ามทำการใหญ่เวลาโมโห ตอนนี้มีทั้งศึกนอกศึกใน ไม่เหมาะที่จะยกทัพ ดังนั้นอาจารย์คิดว่าท่านน่าสงบสติให้ใจเย็นลงอารมณ์แล้วพิจารณาเรื่องนี้!”
“ใจเย็นงั้นหรือ? อาจารย์จะให้ผมใจเย็นได้อย่างไร ห้ะ!” เสวียนเจิ้นตะโกน แล้วก็ยิ้มอย่างร้ายกาจ พร้อมพูดว่า “อาจารย์ ตอนแรกท่านต้องการจากผมไป ตอนนี้ท่านยังจะมาขวางผมอีกงั้นหรือ? ไม่คิดว่าผมจะปวดใจบ้างหรือไง?”
ชายแก่นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ท่านราชา อาจารย์ทำเพื่อท่านนะ”
“ทำเพื่อผมงั้นหรือ? น่าตลกสิ้นดี!” รอยยิ้มของเสวียนเจิ้นเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ชายแก่เอง มองไปก็ดูห่างเหินไปมาก ห่างเหินจนไม่เหมือนคนที่เคยรู้จักกัน แล้วเขาก็พูดอย่างไม่สนใจไยดีไปว่า “ถ้าจะทำเพื่อผม ก็ต้องคอยสนับสนุนการตัดสินใจของผมอย่างไม่มีข้อแม้ แต่ท่าน กลับมาต่อต้านผมต่อหน้าคนอื่นงั้นหรือ? มาคัดค้านความต้องการของผม คิดจะต่อต้านคำสั่งของผม นี่คือการทำเพื่อผมงั้นหรือ? ในฐานะที่เป็นศิษย์อาจารย์กัน อย่าบีบให้ผมไปถึงทางตันเลย!”
ชายแก่ถอนหายใจ อยากจะเอ่ยปากขึ้นมา แต่ก็ถูกคนอื่นพูดขัดขึ้นมา
“กล้าๆ กลัวๆ เป็นนิสัยของราชาเสียที่ไหน? ชายชาตรียืดได้หดได้ มีหรือจะขี้ขลาดเหมือนท่าน?”
เสียงไม่ดัง แต่กลับเหมือนสายฟ้าฟาดใส่ลงในตำหนัก!
ชายแก่สีหน้านิ่งเย็นไป คำพูดนี้ฟังไปแล้วไม่ค่อยทำร้ายจิตใจเท่าไรนัก แต่มันเหยียดหยามกันมาก!
คนที่พูดคำนี้ไม่ใช่ใคร ก็คือคนที่ไม่ถูกกับชายแก่นั่นแหละ ผู้อาวุโสจางของเพลิงเสวน เป็นพวกมีนิสัยชอบประจบ เลียแข้งเลียขา!
ไม่บอกไม่ได้ว่า ผู้อาวุโสจางเป็นคนที่ฉลาดแกมโกง ถึงขนาดเอาคำพูดเมื่อครูไปเกี่ยวข้องกับลักษณะของราชาที่ควรจะมี ผู้อาวุโสชุดเผ่าดำก็เลยดูจะเสียมารยาทและไม่เคารพต่อท่านราชา มีโทษถึงตัดหัวเลยทีเดียว!
จิตใจชั่วช้ามาก!
“ผู้อาวุโสจาง คำพูดของเอ็งมันมากเกินไปหรือเปล่า!”
ผู้อาวุโสจางก็พูดอย่างไม่กลัวอะไร “ถ้าไม่ใช่เพราะท่านกลัวนั่นกลัวนี่ 10ปีที่แล้วก็คงมีวันนี้ไปแล้ว ท่านยังมีหน้ามาพูดว่าผมพูดเกินไปอีกหรือไง? ถ้าไม่ใช่เพราะท่านไปพูดจาเป่าหู หลอกล่อท่านราชา มันจะมีวันที่ควบคุมอะไรไม่ได้อย่างวันนี้ไหม? อย่าลืมไปล่ะ โหยวฟางคือคนที่ท่านเชิญมา จุดนี้ทำให้ผมอดสงสัยจุดประสงค์ตอนนั้นของท่านไม่ได้ ท่านคิดหรือว่าท่านราชาจะอยู่ภายใต้การควบคุมของท่าน แล้วจะเดินไปตามทางที่ท่านปูไว้แล้วงั้นหรือ? อย่าลืมไป ว่าท่าราชาโตแล้ว!”
“เมื่อครู่ผมยังคิดที่จะไว้หน้าของท่านอยู่บ้าง แต่ท่านไม่รู้จักรับไว้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมยังจะต้องมีอะไรกังวลอีกเล่า? ไอ้ชุดเผ่าดำ วันเวลาของท่านมันได้หมดลงแล้ว และตอนนี้ท่านราชาก็กำลังรับหน้าที่ในคนยุคใหม่ และท่านก็ไม่ใช่หนุ่มน้อยเหมือนในตอนนั้นแล้ว ท่านไม่สามารถมีผลต่อความคิดของท่านได้อีกแล้ว อย่าลืมไปนะว่า ท่านเป็นราชา ท่านเป็นขี้ข้า ท่านราชาไม่ใช่หุ่นเชิดของใครได้อีกแล้ว!”
“จดจำตัวตนของตนเองไว้ด้วย ถ้ายังมาล่วงเกินก้าวก่ายอีก ไม่ต้องพูดถึงท่านราชาหรอก แม้แต่คนอย่างพวกเราเองก็อยากจะกำจัดไปเสียโดยเร็ว อ่อแล้วก็ ผมจำได้ว่าท่านเป็นคนสร้างศาลาลงโทษขึ้นมาเองกับมือ การลงโทษในนั้นไม่ได้โหดร้ายด้อยไปกว่าบทลงโทษทั้งสิบเลย ท่านอยากจะลองหน่อยไหม?”
ไอ้ชุดเผ่าดำเงียบไปไม่พูด แต่จ้องไปที่เสวียนเจิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ