จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 901

“ท่านราชา เรื่องยังไม่ถึงขั้นที่ควบคุมไม่ได้ ถึงจอมพลโผ้จวินจะนิพพานแล้วเกิดใหม่ ก็ไม่ต้องกลัว” หยุดพูดไปครู่หนึ่ง ไอ้ชุดเผ่าดำพูดเสริมขึ้น “อำนาจฟ้าร้อง ไม่มีใครต้านทานได้ ถึงเป็นนินจาระดับปรมาจารย์ ก็ต้องบาดเจ็บสาหัส มองอีกด้านหนึ่ง เราทำให้มันออกมาก่อน!”

เสวียนเจิ้นตาเป็นประกาย แล้วพูดว่า “นายจะบอกว่า สาเหตุเพราะเย่ชิงหยู่อย่างนั้นเหรอ”

“ใช่ ถึงตอนนี้ไพ่ใบสุดท้ายของเรา โดนจอมพลโผ้จวินควบคุม แล้วมันจะยังไงล่ะ อำนาจฟ้าร้อง อย่าว่าแต่นินจาระดับปรมาจารย์เลย ขนาดราชานรกที่แก่แต่ก็ไม่ตาย ยังรับมือไม่ไหวเลย ในเมื่อเขายังไม่ตาย ระยะเวลานานขนาดนี้ ต้องกำลังรักษาบาดแผลอยู่แน่นอน โผล่มากะทันหันแบบนี้ ไม่ต้องคิด ก็รู้ได้ว่าตอนนี้เขาอ่อนแอ! เราไม่จำเป็นต้องกังวลจริงๆ!”

“งั้นเราควรทำยังไง”

ไอ้ชุดเผ่าดำเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ดูจากสถานการณ์ของจอมพลโผ้จวินตอนนี้ เขากำลังอยู่ในช่วงรักษาตัว ระยะนี้เป็นช่วงปลอดภัยสำหรับเรา แต่ยังมีปัจจัยที่ไม่แน่ชัดอีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือผู้หญิงที่ชื่อชิงตี้ เธอไม่ยอมเปิดเผยเรื่องแคมป์องค์กรสัตว์เพลิง แต่ตอนนี้ เราต้องรวบรวมกำลัง มารวมไว้จุดศูนย์กลาง ดูไปทีละขั้น เมื่อถึงขั้นที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เราต้องโจมตีอย่างสุดกำลัง จะหลงเหลือภาพมายาเอาไว้ไม่ได้”

พูดถึงตรงนี้ ไอ้ชุดเผ่าดำหันไปมองเสวียนเจิ้น “ผู้อาวุโสจางพูดถูก ถึงจอมพลโผ้จวินอยากเล่นงานเรา แต่ท่านราชาอย่าลืม คนที่ฆ่าพ่อแม่ของนายพลโผ้จวินคือโหยวฟาง สามารถกระจายข่าวได้ ให้โหยวฟางลองเชิงก่อน ถือว่ายืดเวลาให้พวกเราด้วย”

เสวียนเจิ้นพยักหน้า “คงต้องเป็นเช่นนี้แล้ว”

พูดพลาง เสวียนเจิ้นมีสีหน้าลำบากใจ เขามองไอ้ชุดเผ่าดำ เหมือนอยากพูดอะไร แต่ก็ไม่พูดออกมา

“ท่านราชา ไม่ว่าอย่างไร ยืนหยัดในเจตนาที่แท้จริง จึงจะไม่ลืมความตั้งใจเดิม ถ้าคุณอยากพูดขอโทษ ก็จะเสียหน้าราชา ชายชั้นสูงมาดแมน ผิดพลาดก็คือผิดพลาด รู้ว่าผิดแล้วแก้ไข ถือเป็นเรื่องดี การพ่ายแพ้ไม่น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือระหว่างทางที่พ่ายแพ้ ค่อยๆ เดินห่างไกลออกไปเรื่อยๆ คนหลงผิด รู้จักกลับใจหันมาเดินในเส้นทางที่ถูกต้อง คือสิ่งที่ผู้ชายควรมี ผมหวังว่าท่านราชาจะไม่ขาดความมุ่งมั่นตั้งแต่ต้น ที่จะกลับมายืนหยัดยิ่งใหญ่อีกครั้ง!”

เมื่อคำพูดพวกนี้ออกมา ทำให้เสวียนเจิ้นละอายใจรู้สึกผิด เขาเข้าใจแล้วว่าใครคือผู้ทรงปัญญาที่แท้จริง!

ทรงปัญญาแต่แสร้งโง่ กุมความสำเร็จอยู่ในกำมือ มีการยับยั้งชั่งใจ นี่สิคือผู้ทรงปัญญาที่แท้จริง!

ผู้อาวุโสจาง เป็นแค่คนที่ประจบสอพลอมาทั้งชีวิต แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!

ผู้อาวุโสจางไม่มีอะไรดีจริงเหรอ

อันที่จริงก็ไม่ใช่ทั้งหมด เขาชอบเล่นอะไรที่คิดมาก คิดรอบคอบ มักคิดว่าเบื้องบนคือจุดศรัทธาของเขา และหลงผิดเท่านั้น!

ไอ้ชุดเผ่าดำกำลังจะไป เสวียนเจิ้นโพล่งออกมาว่า “อาจารย์”

ไอ้ชุดเผ่าดำชะงักไป “ท่านราชา เป็นอย่างตอนนี้ถือว่าดี ท่านราชายังคงเป็นโอรสมังกรสวรรค์ ผู้สูงศักดิ์ ไม่จำเป็นต้องมีอาจารย์แล้ว ผมไม่อยากเอาแต่กดขี่โอรสมังกรสวรรค์ ถ้าเป็นแบบนั้น คนต่ำต้อยจะพะวง เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว ท่านราชาวางใจเถอะ ไอ้ชุดเผ่าดำไม่มีทางใจโลเล รวมถึงพวกเขาด้วย”

พูดพลาง ไอ้ชุดเผ่าดำก็หายวับไปทันที

เสวียนเจิ้นยิ่งสติแตก เขาทรุดลงนั่งบนบัลลังก์มังกร

ไอ้ชุดเผ่าดำยังไม่สามารถอภัยให้เขา เขารู้ดีว่าทุกสิ่งที่เขาทำ ทำให้ไอ้ชุดเผ่าดำเจ็บปวดใจจริงๆ!

เจ็บปวดใจ เหมือนกระจกที่แตก จะมีวันกลับมาเหมือนเดิมได้อีกเหรอ

สิ่งที่เสวียนเจิ้นรู้ดีที่สุดเพียงสิ่งเดียว ไอ้ชุดเผ่าดำไม่เคยทรยศ ไม่เคยทำอะไรเกินเลย!

อย่างที่ไอ้ชุดเผ่าดำพูดทั้งหมด ตอนนี้เสวียนเจิ้นไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน ยังมีทางรอดหลงเหลืออยู่!

“โหยวฟาง ช่วงเวลาดีๆ ของเธอจบลงแล้ว!”

——

ดินแดนตะวันตกภูเขาทิพท์

ทุกคนรวมตัวกัน ใบหน้าของทุกคน เผยรอยยิ้มจริงใจ ฟางเหยียนฟื้นแล้ว พวกเขาไม่ต้องสู้เพียงลำพังอีก!

เมื่อจัดการดูแลเย่ชิงหยู่เรียบร้อย ฟางเหยียนปรากฏตัวต่อสายตาทุกคน เขาเห็นคนหัวขาว เต๋ายอดเซียนใบหน้าห่อเหี่ยวเหมือนพืชเฉา ตอนนี้เขาไม่ได้เปล่งปลั่งสดใสเหมือนก่อนหน้า เขาเหมือนคนแก่ใกล้เข้าโลง เท้าถมดินไปแล้วครึ่งหนึ่ง

“ท่านเต๋าเซียน หน้าคุณ......”

เต๋ายอดเซียนหัวเราะหึหึ ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “จอมพล ไม่ต้องหนักใจ แค่ใช้พละกำลังมากไปหน่อย นี่สิถึงจะเหมาะสมกับปีศาจเฒ่า ที่มีอายุมากว่าสามร้อยปี ถ้าใบหน้าหนุ่มตลอดเวลา จะดูแปลกมากกว่านะ”

“หน้าไม่อาย คำพูดอะไร ทำเป็นพูดซะสูงส่ง พูดให้ตัวเองดูดีเก่งจริงๆ!” จางตุนเทียนทนไม่ไหว จึงโพล่งออกมาอย่างโมโห “พี่อยู่มาสามร้อยปีแล้ว มีศักดิ์ศรีหน่อยไหม ทำเป็นอาวุโส ดูถูกคนอื่น หน้าไม่อายจริงๆ! นายกล้าพูดความจริงออกมาหรือเปล่า”

“ที่ไหนก็มีตาเฒ่าแบบแก ไสหัวไปนู่นเลย ระวังจะโดนฉันต่อย!” เต๋ายอดเซียนจ้องจางตุนเทียนอย่างดุร้าย เป็นการข่มขู่โดยไม่ต้องพูด

ตาเฒ่าเหมือนเด็กสองคน จะทะเลาะกันอีกแล้ว!

เหมือนคนในนี้เจอจนชินไปแล้ว ถ้าสองคนนี้ไม่ทะเลาะกัน ถึงจะผิดปกติ!

“พี่ ในเมื่อพูดแบบนี้ งั้นฉันจะพูด ตอนนี้ใครเป็นคนทำ จนทำให้......”

เต๋ายอดเซียนรีบเอามือปิดปากจางตุนเทียนอย่างไว เพราะกลัวว่าไอ้หมอนี่จะหลุดพูดอะไรออกมา ถ้าเขาไม่ทำกระบองดำอุกกาบาตออกมา จะเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้เหรอ จอมพลโผ้จวินโดนทัณฑ์สวรรค์ เต๋ายอดเซียนอย่างเขา มีหน้าที่รับผิดชอบ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้!

นี่เป็นโทษหนัก ขั้นประหาร หากถูกปรุงแต่งด้วยเจตนาแอบแฝง ถึงเต๋ายอดเซียนจะมีสักกี่ปาก ก็ไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้!

โดยเฉพาะจางตุนเทียน ที่กำลังพูดอย่างฮึกเหิม ไอ้เฒ่านี่ เป็นคนที่พูดดีไม่เคยได้ ทำเป็นแต่พูดให้เสียการ คำพูดไม่ดีหลุดออกจากปาก เขาไม่อยากโดนจอมพลโผ้จวิน คิดบัญชีย้อนหลัง!

“ตาเฒ่าช่างเลวสิ้นดี!”

ฟางเหยียนจะไม่รู้ได้ยังไง ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน ตอนโดนทัณฑ์สวรรค์ เขารับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงรอบๆ เป็นอย่างดี เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้ ถ้าไม่ใช่เพราะเต๋ายอดเซียนใช้กระบองดำอุกกาบาต บางทีเขาอาจจะไม่สามารถกระตุ้นพลังทิพย์ ออกมาจากหินทิพย์ได้

การกระทำของเต๋ายอดเซียน ไม่เพียงแค่ไม่ได้ทำร้ายฟางเหยียนเพิ่ม แต่ดันเกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้สวรรค์โกรธได้สำเร็จ จนทำให้กระตุ้นสารพลังทิพย์ ที่อยู่ในหินทิพย์ออกมาได้

แน่นอนว่าสิ่งที่จะไม่พูดก็ไม่ได้ ทัณฑ์สวรรค์น่ากลัวเกินไปจริงๆ!

เขาใช้ร่างกายต้านทาน จึงทำให้สลบไปนานขนาดนี้ แต่ผลกลับคุ้มค่า

“ผู้อาวุโสทั้งสอง ฉันรู้ต้นตอของเรื่องดี ทั้งสองท่านไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้”

ฟางเหยียนเอ่ยขึ้น ทั้งสองจึงไม่เถียงกันต่อ กระอักกระอ่วนเหมือนเด็กโดนอบรม จริงอย่างที่ว่า บ้านมีหนึ่งเฒ่า เหมือนมีเจ้าทรัพย์ นี่มีตั้งสองคนแน่ะ!

เต๋ายอดเซียนสองมาตรฐานมาก เขาจ้องจางตุนเทียนอย่างโหดเหี้ยม แต่เมื่อหันไปมองฟางเหยียน กลับไม่มีท่าทีกลอกตามองบน ทำให้จางตุนเทียนโมโหจนหนวดสะบัดขึ้นมา!

ตาเฒ่าเอ๊ย ร้ายกาจจริงๆ!

นานทีฟางเหยียนจะอธิบาย เมื่อทุกคนฟังจบ บางคนชอบใจ บางคนไม่ชอบใจ คนที่ชอบใจต้องเป็นเต๋ายอดเซียนอยู่แล้ว ส่วนคนที่ไม่ชอบใจก็คือจางตุนเทียน คิดไม่ถึงว่าตาเฒ่านี่จะจับพลัดจับผลู ช่วยจอมพลโผ้จวิน เขาหาความเท่าเทียม ที่จะใช้ทำให้เต๋ายอดเซียนน่าขยะแขยง ไม่ได้อีกแล้ว!

เป็นไปตามคาด แววตาที่ได้รับการโปรดปรานของเต๋ายอดเซียน แสดงทุกอย่างแล้ว เมื่อเขามองมายังจางตุนเทียน เหมือนไก่ชนที่ได้รับชัยชนะ เขาสะกดกลั้นมานาน ควรได้รับการปลดปล่อย โดยเฉพาะความกระทบกระเทือนทางใจ ทำให้เขารู้สึกผิดมาตลอด ส่วนจางตุนเทียน กลับดูห่อเหี่ยว สีหน้าหดหู่ ไร้เรี่ยวแรง

“ผู้อาวุโสทั้งสอง สิ่งที่ท่านทั้งสองทำ ฟางเหยียนเห็นและจดจำเอาไว้ทุกอย่าง”

คำพูดนี้ พูดเพื่อทำให้ทั้งสองคนรู้สึกได้รับความยุติธรรม และทำให้ทั้งสองคนรู้สึกดีขึ้น

เมื่อเห็นทั้งสองไม่ประชดกันอีก ฟางเหยียนจึงพูดว่า “ทุกท่านคงทราบสถานการณ์ตอนนี้ดี องค์กรสัตว์เพลิงไม่สนใจทำตามอำเภอใจ ไม่สนใจกฎหมายบ้านเมือง ทุกสิ่งที่ทำช่างบาปหนาเกินบรรยาย จนน่าโมโห และตอนนี้ สวรรค์ทรงมอบภาระหนักให้กับใครบางคน เราคงต้องเป็นคนทำแล้วล่ะ”

ทุกคนรีบพยักหน้าอย่างจริงจัง ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่ารอคอยวันนี้มานานเกินไปแล้ว!

รองผู้นำทั้งหกลูบหมัดไปมา ในใจอยากลอง จนอยากจะออกไปเดี๋ยวนี้!

“แต่อยู่ที่นี่ พวกนายทั้งห้าคนต้องไปเลื่อนขั้น ก่อนหน้านี้น้ำตกในผาจินสุ่ยนับว่าเป็นสถานที่ที่ไม่เลว”

ทั้งห้าเหมือนโดนคนสาดน้ำใส่!

การเปลี่ยนแปลงที่ตั้งรับไม่ทัน เร็วจนตามไม่ทัน!

ทั้งห้ามองหน้ากันไปมา และพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “เอาตามที่พี่ใหญ่ว่า!”

ขณะกำลังจะลุกขึ้น จู่ๆ ยมราชก็โทรมา เมื่อรับสาย ฟางเหยียนถึงกับขมวดคิ้ว

“เทียนขุย ตามฉันไปฆ่าคน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ