จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 907

ผ่านไปอีกหลายวัน รองผู้นำทั้งห้าออกมาจากการฝึก ทุกคนได้รับความรู้ไม่น้อย พละกำลังก็เพิ่มขึ้นมาก

เหมือนอย่างเทียนกาง แค่ออกมาก็ไปหาเทียนขุน เพื่อทดสอบวิชา สุดท้ายกลับโดนเทียนขุย ต่อยจนหน้าตาฟกช้ำดำเขียว หนีกันอุตลุด แน่นอนว่าพวกเขาไม่ยอม กระโจนเข้าไปใส่อีก คนที่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง เทียนขุยสมควรสอนความเป็นคนให้พวกเขา ความรุนแรงเกิดขึ้นอีกรอบ ถ้าฟางเหยียนไม่ห้าม เทียนกางคงไม่เต็มใจ!

“จอมพลโผ้จวิน อำนาจต่างแดนโดนถล่มจนพังทลาย ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ถูกเราบดขยี้จนเละ วันนี้เราควรไปภูเขาเสินเจี้ยดีไหม!”

ฟางเหยียนมองเทียนขุย และพยักหน้าเบาๆ

ในที่สุด วันนี้ก็มาถึง!

วันที่จะแก้แค้นเพื่อเทียนหม่า รวมถึงพี่น้องสำนักเจ็ดพิฆาตกว่าพันคน ใกล้เข้ามาอีกก้าวแล้ว!

“ผู้อาวุโสทั้งสองล่ะ”

เทียนฝู่พูดเสียงต่ำ “ผู้อาวุโสทั้งสองไปแล้ว บอกว่าเพื่อที่จะหาทางผูกมัดใจคนมีความสามารถ สำหรับเรื่องการต่อสู้ พวกเขาจะกลับมาเมื่อถึงเวลา”

ฟางเหยียนมองภูเขาทิพท์ด้านหลัง พูดขอบคุณอย่างจริงใจ จากนั้นจึงสะบัดมือ พากองกำลังกลับ

ชิงตี้เดินตามหลังกองกำลังอย่างระแวดระวัง หลังฟางเหยียนฟื้นขึ้นมา เธอกลายเป็นคนเงียบ มีคำพูดมากมาย แต่ไม่เคยพูดออกมาสักคำ ความลับของภูเขาเสินเจี้ย โดนเธอประกาศออกไปแล้ว ว่ากันตามเหตุผล ตอนนี้เธอไร้ประโยชน์แล้ว ยิ่งไม่มีค่าให้พูดถึง เธอทำได้เพียงหน้าด้าน ไม่ยอมไป มีเพียงการทำเช่นนี้ เธอถึงจะมีชีวิตอยู่!

เดินไปเรื่อยๆ เทียนขุยพึมพำเบาๆ “จอมพลโผ้จวิน นังแม่มดชิงตี้ เป็นเงาตามตัวคุณเลย”

ฟางเหยียนไม่มองแม้แต่น้อย เขาพูดอย่างราบเรียบ “ฉันรู้ว่านายคิดยังไง ตอนนี้ชิงตี้ไม่มีค่าให้พูดถึง ต้องรีบกำจัด ถึงจะมีความสุข ใช่ไหม”

เทียนขุยพยักหน้าเบาๆ

“ชิงตี้ปิดบังพวกเราจริงๆ แต่นี่คือทางรอดเดียวของเธอ ดูจากกำลังของเสวียนเจิ้นตอนนี้ แค่เธอโผล่หน้าไป มีเพียงความตายเท่านั้น ไปกับเรายังพอมีทางรอด”

เทียนขุยได้ยินเช่นนั้น จึงเถียงว่า “แต่นี่ไม่เกี่ยวกับการฆ่าเธอสักนิด อย่าบอกนะว่าจอมพลโผ้จวินจะเป็นบุรุษทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสตรี อ้อ ไม่ใช่ ไม่ได้หมายความแบบนี้ครับ สิ่งที่ผมอยากพูด จอมพลโผ้จวินเก็บเธอไว้ ไม่ได้มีประโยชน์อื่นแอบแฝง ใช่ไหมครับ”

เต็มไปด้วยความปรารถนา ที่จะมีชีวิตรอด!

นึกย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เพราะคำพูดของเขาเพียงประโยคเดียว ถูกเขกหัวติดต่อกันหลายที!

ฟางเหยียนมองเทียนขุย พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “งั้นดี ฉันถามนายละกัน รู้หรือเปล่าว่าภูเขาเสินเจี้ย เข้าไปยังไง”

เทียนขุย “……”

“ภูเขาเสินเจี้ยพาดผ่านห้ามณฑลแปดเมือง ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง มีต้นไม้สูงบนภูเขามากมาย ถูกขนานนามว่าเป็นโซนลึกลับ ถึงบอกว่าแคมป์องค์กรสัตว์เพลิงอยู่ที่ไหน นายไม่มีทางรู้ตำแหน่งที่ชัดเจน ขืนแหวกหญ้าให้งูตื่น รังแต่จะทำให้ผลที่ได้ตรงข้ามกับที่คาดหวังไว้”

เทียนขุยยิ้มแหย สีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย “ผมเข้าใจแล้วครับจอมพลโผ้จวิน!”

เพราะกลัวโดนรังเกียจ เทียนขุยรีบพูดเสริม “เก็บชิงตี้ไว้ เพื่อนำทางให้เราเท่านั้น เพื่อลดความวุ่นวาย ใช่ไหมครับ!”

ฟางเหยียนยิ้ม แต่ไม่พูดอะไร “โหยวฟางเคยพูดไว้ว่า องค์กรสัตว์เพลิงที่นายเห็น อาจจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งของภูเขาเท่านั้น หวังจริงๆ ว่าภูเขาเสินเจี้ย จะกระชากหน้ากากลึกลับขององค์กรสัตว์เพลิงได้!”

“งั้นเราทำให้เขาคาดไม่ถึงก่อน ต้องทำให้พวกเขาตั้งตัวไม่ทันแน่!”

ฟางเหยียนมองเทียนขุย “ในที่สุดนายก็คิดได้สักที”

——

คนที่มาถึงภูเขาเสินเจี้ยมีไม่มาก ฟางเหยียนไม่ได้กะจะโจมตีเข้าไปในภูเขาเสินเจี้ย อย่างเอิกเกริก เขารู้ดีว่า เมื่อเผชิญกับสิ่งชั่วร้ายมากมาย บวกกับนินจา ถึงพาทหารมามากขึ้นอีก ก็มีแต่รนหาที่ตาย ดังนั้นเขาจึงพารองผู้นำมาแค่หกคน บวกกับคนที่ไม่ยอมไปอย่างชิงตี้กับผู้อาวุโสเสวียนกู่สิบกว่าคน มีคนไม่เกินสามสิบคน

“จอมพล ก่อนมาฉันอธิบายจุดอันตรายของภูเขาเสินเจี้ยแล้ว ดังนั้นกรุณาอย่าแตะต้องอะไรแม้แต่น้อย”

“นังแม่มด ทำไมพูดมากขนาดนี้ เราไม่ใช่เด็กสามขวบ รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ เข้าใจไหม”

ชิงตี้กลอกตามองบนใส่เทียนขุย เธอมองฟางเหยียน แต่ไม่ได้พูดอะไร

“ในเมื่อครั้งนี้บุกเข้ามา งั้นก็ทำตามธรรมเนียมเดิม ชิงตี้ ดูคนของเธอให้ดี”

ชิงตี้รีบพยักหน้า “จอมพลวางใจได้เลย คนของผู้อาวุโสเสวียนกู่ จงรักภักดี ไม่โลเล”

เทียนฝู่รีบดึงเทียนขุยไว้ และส่ายหน้าเบาๆ “โกรธไปก็แก้ปัญหาไม่ได้ คิดวิธีรับมือดีกว่า”

เทียนขุยมองชิงตี้อย่างเคียดแค้น เหมือนคิดอะไรได้ จึงเข้าไปพูดว่า “จอมพลโผ้จวิน คุณผ่านค่ายกลโหดเหี้ยมของแก๊งเก้ามังกรมาได้ เรื่องนี้ไม่น่าจะยากใช่ไหม”

ฟางเหยียนมองรอบๆ เขาเงียบไม่พูดอะไร

ทุกคนเหนื่อยทั้งกายและใจ ไม่สามารถเข้าไปในค่ายกลได้ ทำได้เพียงมองที่พักเหลืองอร่ามตรงหน้า แต่กลับไร้เรี่ยวแรง ความรู้สึกนี้ช่างน่าหงุดหงิด แต่ละคนพากันห่อเหี่ยว ก้มหน้าอย่างหดหู่ ไร้ชีวิตชีวา

ค่ายกลนี้มีพลังโจมตี แค่สัมผัสโดน จะหายไปเหมือนหมอกควัน ไม่เหลือแม้ศพ ไม่เพียงแค่นี้ อาจรายงานข่าวให้เสวียนเจิ้นรู้ด้วย ได้ไม่คุ้มเสีย

ทำยังไงดีล่ะ

ทุกคนต่างคิดเช่นนี้ แต่ไม่มีใครมีวิธีสักคน!

เวลาเดินไปเรื่อยๆ ความมืดในป่าเขา เร็วกว่าข้างนอกมาก ไม่นาน ท้องฟ้ามืดมิดไปหมด ทุกคนรออยู่หน้าค่ายกล สามชั่วโมงเต็มๆ รอต่อไป บางทีอาจมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนโผล่ออกมาก็ได้

คนที่มีความรู้ในการใช้ชีวิตจะรู้ดี ยามมืดในเขานอกจากอุณหภูมิที่ต่ำมาก ก็มีพวกสัตว์ป่าดุร้ายขนาดใหญ่ ไม่ต้องพูดก็พอจินตนาการถึงความอันตรายได้ ถึงทุกคนเป็นนินจา แต่ก็ต้านทานการโจมตีอย่างกะทันหันของสัตว์ป่าดุร้ายไม่ได้

ทุกคนพบว่า ตั้งแต่ฟางเหยียนยืนอยู่หน้าค่ายกล ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

รองผู้นำทั้งหกกลับชินเสียแล้ว ฟางเหยียนเป็นคนรักสงบ เมื่อค่อยๆ ครุ่นคิดปัญหา ถึงฟ้าผ่าเขาก็ไม่ขยับไปไหน

ความอดทนเริ่มลดลงทีละน้อย กลายเป็นความกระวนกระวาย

จู่ๆ ฟางเหยียนขยับตัวเข้าไปใกล้ค่ายกล และยื่นนิ้วออกมาหนึ่งนิ้ว!

นิ้วนี้ ทำให้ทุกคนงุนงง!

เหมือนมันคือนิ้วกลาง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ