ชูนิ้วกลาง!
ชูนิ้วกลางใส่ค่ายกล!
นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน
เทียนขุยอดพึมพำเบาๆ ไม่ได้ “จอมพลโผ้จวิน คุณชูนิ้วกลางใส่ค่ายกล นี่มันกระบวนท่าอะไรกันครับ”
สิ่งที่เทียนขุยถาม คือสิ่งที่ทุกคนอยากถาม แต่แค่ไม่มีใครกล้าถาม ถ้าล่วงเกินจอมพล ต้องตายสถานเดียว! ทุกคนยืดคอ หูตั้ง เพราะกลัวว่าจะพลาดอะไรไป
ฟางเหยียนสะบัดมืออย่างไม่ใส่ใจ แล้วพูดเนิบๆ ว่า “เมื่อยมือน่ะ เลยขยับสักหน่อย”
ทุกคน “……”
กลืนไม่เข้าคายไม่ออก พูดอะไรไม่ออก
จอมพลก็พูดตลกเป็นเหมือนกัน!
ไม่ จอมพลไม่ได้พูดตลก แต่พวกเขาเข้าใจอีกฝ่ายผิดต่างหาก!
“คิคิ......” ชิงตี้ทนไม่ไหว หัวเราะคิกคักออกมา เหมือนรู้ว่าผิดกาลเทศะ เธอรีบหยุดหัวเราะ จ้องฟางเหยียนอย่างอิ่มเอมใจ
บรรยากาศกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่กลับผ่อนคลายความกระวนกระวายของทุกคนได้
เรื่องตลกผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความกระวนกระวายถาโถมเข้ามา เหมือนคลื่นซัดเข้ามาในใจทุกคน
ไม่มีวิธีจริงๆ เหรอ
“จอมพล ช่วงค่ำในภูเขา บรรยากาศพิษกับแก๊สพิษค่อนข้างเยอะ แถมยังมีสัตว์ป่าขนาดใหญ่ ที่สามารถโจมตีได้ พวกมันดุร้าย ถึงเป็นนินจาระดับต้าชี่ ก็ถึงกับปวดหัว เราออกจากตรงนี้กันก่อนดีกว่า”
ฟางเหยียนเงียบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ยังไปไม่ได้”
พูดพลาง ก็เดินไปที่ค่ายกล โดยไม่สนท่าทีของชิงตี้และคนอื่น เขายื่นนิ้วออกไปแตะอย่างรวดเร็ว
ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชิงตี้ เธอพุ่งเข้าไปทันที แต่ความเร็วของเธอช้าเกินไป ทำได้เพียงมองนิ้วของฟางเหยียนยื่นเข้าไป ด้วยความตกตะลึง
“ไม่!”
หลังตะโกนออกมา ชิงตี้มองนิ้วของฟางเหยียนด้วยแววตาไร้ชีวิตชีวา สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
ทำไมถึงไม่สลายล่ะ
หรือค่ายกลหมดฤทธิ์แล้ว
ไม่มีทางเป็นไปได้!
ขนาดสำนักกุ่ยกู๋เป็นสำนักลึกลับหยินเหมินของค่ายกลอันดับหนึ่ง ยังไม่กล้าพูดอะไรต่อหน้าองค์กรสัตว์เพลิง เพียงพอที่จะบอกได้ว่า ค่ายกลขององค์กรสัตว์เพลิงแกร่งกล้าแค่ไหน
จากที่ชิงตี้รู้ องค์กรสัตว์เพลิงมีผู้มีคุณธรรมและบารมีสูงส่ง ที่สามารถควบคุมค่ายกลได้ เรียกได้ว่าค่ายกลสุดยอดมาก ค่ายกลฝีมือพวกเขา จะด้อยได้อย่างไร
แต่ทำไมฟางเหยียนถึงไม่เป็นอะไร
ความตื่นตระหนกของชิงตี้ ทำให้เทียนขุยไม่เข้าใจ แล้วพูดอย่างเย็นชา “ผู้หญิงเจอเรื่องอะไรก็ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว โหวกเหวกโวยวายไม่หยุด!”
ชิงตี้ขี้เกียจไปสนใจเทียนขุย เธอก้มลงเก็บก้อนหิน แล้วโยนออกไป
วินาทีนั้น ก้อนหินหายไป กลายเป็นทรายละเอียด!
เมื่อเห็นดังนั้น เทียนขุยหนังตากระตุก เหมือนรู้อะไรบางอย่าง!
เงียบอยู่ครู่หนึ่ง ทุกคนดีใจออกหน้าออกตา!
ฟางเหยียนไม่เป็นอะไร แสดงว่าค่ายกลนี้ ไม่เป็นผลกับเขา!
ไม่มีใครไปคิดเรื่องค่ายกลว่าเป็นอะไรกันแน่ ทุกคนรู้ดี ไม่ใช่ค่ายกลไม่เป็นผลกับฟางเหยียน แต่เขาอยู่เหนือกว่าค่ายกล พละกำลังแข็งแกร่ง จนค่ายกลไม่สามารถต้านทานได้!
ทันใดนั้น ภาพฟางเหยียนชูนิ้วกลางให้ค่ายกล ลอยเข้ามาในหัวทุกคน ที่แท้ไม่ได้เมื่อยมือ แต่แค่ไม่ใส่ใจ นี่เป็นการดูถูกชัดๆ!
การดูหมิ่นของราชัน อำนาจแผ่กระจายไปทั่ว!
“จอมพล คุณทนได้นานแค่ไหน” ชิงตี้พูดออกมาตรงๆ
ฟางเหยียนส่ายหน้าเบาๆ สีหน้าชิงตี้เปลี่ยนไป ค่ายกลนี้ ยังคงโหดเหี้ยมไม่ธรรมดาตามคาด ถึงเป็นจอมพล ก็ไม่สามารถทนได้นาน!
“เหมือนเธอจะเข้าใจผิดนะ สิ่งที่ฉันจะพูด ค่ายกลนี้ก็แค่นั้น”
ชิงตี้ “......”
อวดเก่งไม่มีใครเกิน!
ถ้าไม่ได้เป็นคำพูดของฟางเหยียน บางทีชิงตี้คงฟาดไปแล้ว!
อวดเก่งจริงๆ!
ถ้าพูดเรื่องอวดดี ชิงตี้ยอมฟางเหยียนเลย!
ชิงตี้คลายความกระอักกระอ่วน จากนั้นจึงถามว่า “จอมพลเป็นบุตรแห่งสวรรค์ ค่ายกลระดับนี้ คงไม่อยู่ในสายตา แต่ขอบังอาจถาม เราจะเขาไปได้ตอนไหน”
ฟางเหยียนไม่พูดอะไร ทุกคนพบว่ามีแสงสีทองปรากฏบนนิ้วกลาง เมื่อแสงสัมผัสกับค่ายกล ราวกับฟอสฟอรัสขาวเจอกับไฟ จนทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีอย่างรุนแรง เกิดการเผาไหม้อย่างรุนแรง
ซี๊ด!
ทุกคนสูดหายใจเยือกเย็น!
ค่ายกลอันแกร่งกล้า เหมือนกระดาษใบหนึ่ง เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา แค่จิ้มก็ทะลุ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ