“จอมพล คุณไม่เป็นไรใช่ไหม” ชิงตี้ยังไม่ทันถามจบ เห็นว่ามีคนชุดเผ่าดำตามหลังเขามาด้วย ไอ้ชุดเผ่าดำคนนี้ ไม่ใช่คนแปลกหน้าสักนิด เธอพูดอย่างเหม่อลอย “เขา ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่”
ขณะกำลังพูด รองผู้นำทั้งหกรีบเข้ามา พวกเขาบาดเจ็บ แต่ไม่สาหัส แต่ที่น่าสงสารคือลูกน้องของชิงตี้ คนสิบห้าคน หายไปครึ่งหนึ่ง เพียงพริบตา อาการคนที่เหลือแปดคน ก็ไม่ได้ดีสักเท่าไร แต่ละคนน่าเวทนาจนทนดูไม่ได้ มีคนแขนขาขาด เมื่อหันมามองชิงตี้ หน้าตาเปรอะเปื้อน เต็มไปด้วยบาดแผล แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรร้ายแรง
พวกเขาหาที่นี่จนเจอ แสดงว่าได้รับชัยชนะแล้ว!
เทียนกางพูดอย่างตื่นเต้น “จอมพลโผ้จวิน จัดการภัยอันตรายหมดแล้วครับ!”
เทียนฝู่กลับเงียบ เขาดึงเทียนกาง จนทำให้เทียนกางมีสีหน้าไม่พอใจ “เทียนฝู่ เราทำลายองค์กรสัตว์เพลิง ขนาดที่กบดานของเขาก็ทำลายได้ นายจะไม่ให้ฉันดีใจหน่อยเหรอ นายอย่าลืมสิ เทียนหม่าก็เป็นพี่น้องนายนะ อีกทั้งชีวิตของพี่น้องพันกว่าคนนั่นด้วย เราแก้แค้นให้หมดแล้ว ศัตรูของคุณนาย เราก็แก้แค้นให้แล้ว ไม่ควรยินดีหรือไง ตื่นเต้นหน่อยไม่ได้หรือไง”
พูดพลาง เทียนกางอารมณ์ขึ้น ยิ่งพูดยิ่งมีอารมณ์ “จะทำหน้าเศร้าทำไม ได้แก้แค้นศัตรูตัวฉกาจไม่ควรยินดีหรือไง ฉันจะบอกนายให้นะ นับวันยิ่งเกินไปแล้วนะ ทำเหมือนมีใครขโมยข้าวสารบ้านนาย เหมือนใครติดหนี้นายอย่างไรอย่างนั้น จริงๆ เลย! พูดจริงๆ นะ ถ้านายไม่ใช่พี่น้องฉัน หมัดฉันกระแทกหน้านายไปนานแล้ว!”
เทียนฝู่พูดอย่างไม่ใส่ใจ “ยินดีตอนนี้ ยังเร็วเกินไป!”
“เร็วงั้นเหรอ นายกำลังสอนฉันเหรอ” เทียนกางพูดเย็นชา “เทียนฝู่ ดูสิ ที่นี่คือที่ไหน นี่เป็นแคมป์ขององค์กรสัตว์เพลิงเชียวนะ เราทำลายสถานที่กบดานของเขา จัดการภัยอันตรายขององค์กรสัตว์เพลิงอย่างมากมาย เรียกได้ว่าทำลายทั้งหมด เรายังไม่ชนะเหรอ ฉันว่านายบ้าไปแล้ว!”
เทียนฝู่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ เทียนกางนอกจากบ้าบิ่น ก็ดื้อดึงนี่แหละ หมดปัญญาแล้วจริงๆ!
คงต้องปล่อยไปตามนั้น เทียนฝู่ย้อนถามว่า “งั้นก็ดี ถึงนายพูดถูกทั้งหมด งั้นฉันอยากถามนายหน่อย เสวียนเจิ้นอยู่ไหนล่ะ ศิษย์เลวขององค์กรสัตว์เพลิง ที่ฆ่าไปเมื่อกี้มีเท่าไร แล้วตอนที่นายผ่านท้องพระโรง อย่าบอกนะว่าไม่รู้สึกผิดปกติ คำถามสุดท้าย องค์กรสัตว์เพลิง เป็นองค์กรที่มีมายาวนานสองพันกว่าปี มีปูมหลังแข็งแกร่ง นายจะเจอของมีค่ามากแค่ไหน”
เทียนกางพูดอะไรไม่ออก คำถามติดต่อกัน ทำให้เขาอึ้งไป!
สิ่งที่เขาพูด มีเหตุมีผล ไม่ได้พูดออกมาลอยๆ
“คนนิสัยดื้อดึงแบบนาย คงปล่อยวางไม่ได้แน่นอน แค่พูดถึงเสวียนเจิ้น จากการคาดเดาของนาย เขาคงโดนมีดฟันจนตาย ถึงจะเป็นข้ออ้างให้นายได้ เพราะเราฆ่าภัยอันตรายขององค์กรสัตว์เพลิงไป ไม่สองร้อยก็ร้อยคน ส่วนทรัพย์สินกับของล้ำค่า นายต้องบอกว่าโดนคนเคลื่อนย้ายไปแล้ว หรืออาจฝังไว้ที่ไหนสักแห่ง แต่ต้องใช้เวลาในการค้นหา ใช่หรือเปล่า”
เทียนกางยิ้มบางๆ เขากระอักกระอ่วนเล็กน้อย
“น่าขำสิ้นดี องค์กรสัตว์เพลิง เป็นองค์กรที่สั่งสมมาสองพันกว่าปี จะมีแค่ร้อยแปดสิบคนได้ยังไง นายอย่าลืมสิ ลูกน้องของถังจู่สาขาเหลืองของผาจินสุ่ย ยังเกือบสองร้อยคน นั่นเป็นสิ่งที่นายเจอด้วยตัวเอง องค์กรสัตว์เพลิงอันยิ่งใหญ่ จะมีคนน้อยแค่นี้เหรอ อย่าไร้เดียงสาไปหน่อยเลย พละกำลังขององค์กรสัตว์เพลิงมีแค่นี้ แต่ทำไมถึงฆ่าพี่น้องเราได้พันกว่าคนล่ะ รวมถึงเทียนหม่าด้วย!”
เทียนกางยิ่งอับอายเข้าไปใหญ่ รอยยิ้มชะงักอยู่บนใบหน้า
“ฉันจะบอกนายให้นะ นายพลาดแล้ว ประเมินปูมหลังที่แท้จริง ขององค์กรสัตว์เพลิงต่ำเกินไป ใช่ ที่นี่คือแคมป์ขององค์กรสัตว์เพลิง ดูเหมือนเป็นฐานทัพ ถึงของจำนวนมากในท้องพระโรง จะไม่โดนเคลื่อนย้ายไป แต่มีของส่วนน้อย ที่ยังถูกเคลื่อนย้าย มองจากตรงนี้ กองทัพใหญ่ได้ออกไปแล้ว ส่วนเราไม่ได้อะไรเลย เข้าใจหรือยัง”
เทียนกางเงียบ
“ไม่มีอะไรจะพูดแล้วเหรอ” เทียนฝู่พูดเสียงทุ้ม “เพราะนายเห็นว่านี่คือปัญหาที่มีอยู่จริง ดีใจเปล่าๆ!”
พูดพลาง เทียนฝู่หันไปมองฟางเหยียน แล้วพูดว่า “ลูกพี่ เรื่องก็เป็นแบบนี้ นี่เป็นการคาดเดาของผม”
ฟางเหยียนพูดอย่างเย็นชา “เทียนฝู่เดาไม่ผิด นี่เป็นแค่ฐานทัพ พูดให้ถูกก็คือส่วนหนึ่ง ครอบครองภูเขาเสินเจี้ย สามารถยิงได้ทั่วประเทศ นี่เป็นเงื่อนไขสำคัญ ที่ข่าวของพวกเขารวดเร็ว ไม่ต้องพูดเรื่องที่เทียนกางคิดเช่นนั้น มันเป็นความผิดพลาด แต่ศัตรูปล่อยระเบิดควันเท่านั้น”
พูดพลาง ฟางเหยียนหันไปมองชิงตี้ แล้วถามว่า “เธอรู้จักเขาไหม”
“เขาเป็นอาจารย์ของเสวียนเจิ้น และเป็นผู้อาวุโสของทีมกลยุทธ์”
ฟางเหยียนมองไอ้ชุดเผ่าดำอย่างสนใจ “คิดไม่ถึงว่ายังมีอะไรปิดบังอีก!”
ไอ้ชุดเผ่าดำเสียงสั่น “จอมพล ผม......”
“ฉันเกลียดการโกหกที่สุด!”
พูดจบ ขาทั้งสองข้างของไอ้ชุดเผ่าดำถูกตัดทิ้ง ตัวเขากระแทกกับพื้นอย่างแรง พยายามไม่ส่งเสียงอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ