จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 915

สามผู้อาวุโสชะล่าใจไปหน่อยจริงๆ เหตุการณ์ตรงหน้าเกินกว่าพวกเขาจะควบคุมได้ ถ้าพูดว่าไม่อกสั่นขวัญแขวน ก็ดูเป็นการโกหก!

แต่ว่า ระหว่างที่ตกใจ สามผู้อาวุโสมองกองทหารที่มาอย่างฮึกเหิม ด้วยสีหน้าไม่พอใจ!

คนเยอะแล้วยังไง

แค่ฝูงมดรอความตายเท่านั้น!

พวกเขาทั้งสาม เป็นนินจาพละกำลังระดับต้าชี่ชั้นยอด จัดการพวกเขา ก็เหมือนผู้ใหญ่รังแกเด็ก เหมือนทำเล่นๆ เท่านั้น!

อย่างมากแค่ระวังฟางเหยียนก็พอ!

ระวัง!

ในใจพวกเขาเขียนคำว่าระวังไว้ ไม่ใช่เพราะกังวล ดูออกว่าพวกเขามีความมั่นใจแค่ไหน นี่คือความมั่นใจ ไม่ใช่ความอวดดี เพราะอาวุโสสามคนร่วมมือกัน สามารถกวาดล้างนินจาระดับปรมาจารย์ได้ นี่คือความมั่นใจของผู้แข็งแกร่ง!

ถึงถูกกดดันด้วยทหารเป็นร้อยเป็นหมื่น แค่ฝีมือไม่ถึงนินจาระดับปรมาจารย์ อาวุโสทั้งสาม ก็มีกำลังในการต่อสู้!

ถึงต้านทานไม่ได้ ข้างหลังพวกเขาก็ยังมีนินจาสามพันคน อำนาจของนินจา ทำลายล้างทุกสิ่ง!

ไม่มีท่าทีหวาดกลัว หนำซ้ำยังอยากพุ่งเข้าไปลอง!

อาวุโสทั้งสามมองหน้ากัน ไม่ต้องบอกก็รู้ ใครก็อยากได้หัวของจอมพลโผ้จวิน กลับไปเอาความดีความชอบ แต่เหมือนกับว่าอาวุโสทั้งสาม ต่างก็อยากเป็นคนแรก ไม่มีใครยอมอยู่หลัง ตอนนี้ฟางเหยียนเหมือนก้อนเนื้อ ก้อนเนื้อที่รอให้คนเฉือนอย่างตามใจชอบ แผ่นเนื้อที่รอลงไปจุ่มในหม้อไฟ ใครก็ไม่อยากพลาด!

ทั้งสามไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แม้แต่ความกดดันของกองทหาร เริ่มแย่งกันว่าใครจะลงมือก่อน

“เจ้าโม่ นายก็รู้ ฉันมีลำดับต่ำสุดในลำดับอาวุโส คงพูดอะไรไม่ได้ ดังนั้นการตัดหัวจอมพลโผ้จวิน ต้องให้ฉันทำก่อน ฉันสามารถเอาความรู้การฝึกมากมายให้พวกนาย พื้นที่ฮวงจุ้ยดี ที่ศิษย์นายอยากได้ ฉันก็ให้ได้ ขอแค่ศิษย์พี่ทั้งสอง ทำให้ฉันได้ความดีความชอบ ศิษย์น้องคนนี้ขอบคุณเป็นอย่างมาก!”

ทั้งสองมองเขาเหมือนมองคนปัญญาอ่อน ตอนนี้ใครจะเอาผลงานดีๆ แบบนี้ มอบให้คนอื่นกันล่ะ นี่เป็นการเพิ่ม ‘ผลงาน’ แบบไม่ต้องเสียแรง เป็นการรับรองว่าจะมีอำนาจเพิ่มขึ้นอีกขั้น!

ยังไง ทั้งสามไม่เห็นฟางเหยียนสำคัญ แม้แต่เงาดำมากมายที่อยู่ด้านหลัง ก็ไม่เห็นสำคัญ!

ความมั่นใจมาจากความโมโห!

“ตาเฒ่าอย่างนาย อยากแย่งความดีความชอบตอนนี้เนี่ยนะ พูดเป็นเล่น คิดว่าเราสองคนเป็นเด็กสามขวบ หลอกได้ง่ายๆ หรือไง ใครก็รู้ ได้หัวฟางเหยียนตอนนี้ ก็เท่ากับได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรก เท่ากับทำงานหนัก ถึงไม่จำเป็นต้องกลัวฟางเหยียน แต่เขาฆ่าศิษย์ขององค์กรสัตว์เพลิงมากขนาดนี้ ก็ไม่ควรประมาทอันตรายนี้ เข้าใจไหม”

“ฉันก็เห็นด้วยกับความเห็นนี้ ได้หัวฟางเหยียน ถึงความดีความชอบไม่มาก แต่คุณค่าไม่ธรรมดา ใครก็อยากได้ความดีความชอบก่อน เพื่อทำให้ไปถึงอำนาจได้อีกขั้น แต่สิ่งที่ฉันอยากพูด ยังไงฟางเหยียนก็เป็นนินจาระดับปรมาจารย์ เขาฆ่าโหยวฟางได้ แน่นอนว่าต้องมีความสามารถ”

เขาไม่ทันพูดจบ ก็โดนผู้อาวุโสโม่พูดตัดบท ด้วยสีหน้าไม่พอใจ “นายหมายความว่ายังไง อย่าบอกนะว่านายกลัวมดเพียงตัวเดียว อย่าลืมสิ เรามีอารยธรรมยาวนานมาสองพันกว่าปีเชียวนะ นินจาก็เหมือนอะไรที่หาได้ทั่วไป พละกำลังระดับนี้ อย่าว่าแต่เขาที่อวยตัวเองว่าเป็นเทพแห่งสงคราม ขนาดฉันก็สามารถเป็นปรมาจารย์แห่งยุคได้สบายๆ! กลัวความสามารถของเขา จนดูถูกอำนาจของตัวเอง อะไรอยู่ในสมองนาย”

“ใช่ เขาเป็นปรมาจารย์แล้วยังไง ต้องเคารพท่านราชาไม่ใช่เหรอ อย่าลืมสิ ความสำเร็จที่เขาว่า ไม่มีค่าในสายตาเราสักนิด ท่านราชาคือราชันที่มองมายังเบื้องล่าง เป็นราชันที่ควบคุมความเป็นความตายของผู้อื่น และฐานะของเรา จะต่ำกว่าคนที่เรียกว่าจอมพลโผ้จวิน เทพแห่งสงครามนั่นเหรอ ตลกน่ะสิ ฉันว่านายเลอะเทอะแล้ว ขนาดจิตใจยังไม่มั่นคง ขายหน้าองค์กรสัตว์เพลิงจริงๆ เอาหน้าท่านราชาไปไว้ที่ไหน”

ผู้อาวุโสที่โดนกล่าวหาด้วยวาจาเงียบไป อับอายไม่สิ้นสุด ไม่ทันได้รบ ก็ทำให้ศัตรูจำนน ยังไม่ทันได้เริ่ม ท่าทีก็อ่อนแอลงแล้ว รบกวนขวัญกำลังใจ คือโทษรุนแรง!

“ทั้งสองท่านพูดมีเหตุผล ฉันโบราณเกินไป งั้นเริ่มตอนนี้เลย เพราะพวกเขาก็มาแล้ว”

ทั้งสองปล่อยผู้อาวุโสที่เพ้อเจ้อไป และมองกองทหารที่กำลังใกล้เข้ามา ด้วยสีหน้ายียวน เหมือนข้างหน้า ไม่ใช่กองทหารใหญ่ แต่เป็นเพียงฝูงมด ที่ปีนขึ้นมาเงยหน้ามองท้องฟ้าสูง มดที่ผ่านแต่ละวันไปอย่างยากลำบาก!

กองทหารกดดันสถานการณ์ ในสายตาพวกเขา ก็แค่มดฝูงหนึ่งเท่านั้น เหยียบได้ตามใจ แต่แค่ต้องใช้แรงเล็กน้อยเท่านั้น!

กองทหารกดดันสถานการณ์สีหน้าไม่เปลี่ยน แต่กลับมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น!

“ใครคือจอมพลโผ้จวิน”

ผู้อาวุโสโม่ถามอย่างหยิ่งผยอง

หน้าตาของจอมพลโผ้จวิน ถึงกลายเป็นขี้เถา พวกเขาก็จำได้ แต่เขาจงใจถามแบบนี้ เพราะต้องการให้ฐานะตัวเองสูงส่ง จงใจดูถูกฟางเหยียน ให้รู้สึกเหมือนไม่อยู่ในสายตา สำหรับเขา เป็นนินจาระดับปรมาจารย์แล้วยังไง แค่การกระทำที่ไร้เหตุผล ผิดหลักการ พวกเขาเป็นสายเลือดโดยตรงองค์กรสัตว์เพลิง อยู่เหนือกว่าพวกนินจา แน่นอนว่าสาเหตุใหญ่ เกิดจากความมั่นใจของตัวเอง เพราะสิ่งที่พวกเขาเผชิญ แค่มดเท่านั้น!

เมื่อได้ยิน ทุกคนด้านหลังถึงกับตะลึง!

เคยเจอการอวดดี แต่ไม่เคยเจอการอวดดีขนาดนี้!

เห็นตัวเองสำคัญเกินไปหรือเปล่า!

ฟางเหยียนยังมีสีหน้าเหมือนเดิม กลับกันยังอยากหัวเราะ!

คนขององค์กรสัตว์เพลิง ปัญญาอ่อนหมดเลยหรือเปล่า!

ไม่!

เรียกว่าปัญญาอ่อนไม่ได้!

พวกเขามั่นใจในฝีมือต่างหาก!

จู่ๆ เทียนกางทนไม่ไหว หัวเราะออกมา “เฮีย ยังมีคนประหลาด อวดดีเย่อหยิ่ง คิดว่าเจ๋งแบบนี้อีกเหรอ เล่นซะผมคันมือ อยากฉีกปากเขาจริงๆ”

เทียนฝู่ลังเลครู่หนึ่ง แล้วพูดเตือนเบาๆ “สามคนนี้เป็นนินจาพละกำลังระดับระดับต้าชี่ชั้นยอด”

เทียนกาง “……”

จู่ๆ เขาสงบลง!

ไม่กล้าเล่นไม่เข้าเรื่อง!

เทียนขุยหายตัวมา แล้วพูดเย็นชา “จอมพลโผ้จวิน ให้ผมจัดการพวกเขาเอง!”

ฟางเหยียนรั้งเทียนขุยเอาไว้ แล้วพูดอย่างเย็นชา “พวกกากเดนนี่ เดี๋ยวฉันจัดการเอง!”

ไม่มีใครกล้าถามฟางเหยียน กลับกันสามอาวุโส ไม่พอใจแล้ว!

ดูสิ!

พวกเขาสามคนโดนเมินใส่!

กะว่าจะทำเมินใส่พวกเขา คิดไม่ถึงว่าจะโดนด่ามา ยังทนได้เหรอ

ผู้อาวุโสโม่พูดอย่างเย็นชา “นินจาระดับปรมาจารย์ กล้ายโสอวดดีแบบนี้ ตั้งแต่เมื่อไร ก็ดี จัดการหัวหน้าก่อน ฆ่านายเสร็จ ฉันจะได้จัดการมดที่เหลือให้หมด วางใจเถอะ เราไม่ให้นายได้ตายเร็วหรอก ฉันจะให้นายเห็นว่ากองทหารข้างหลังนาย จะแพ้ย่อยยับ หนีหัวซุกหัวซุนยังไง!”

พูดพลาง เขาหันไปมองสองผู้อาวุโส พูดเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “ทั้งสองท่าน ช่วยกันจัดการเจ้าโจรนี่ก่อน ส่วนเรื่องความดีความชอบ ค่อยว่ากัน เป็นไง”

ทั้งสองพูดพร้อมกัน “มีความคิดนี้พอดี ไอ้หมอนี่อวดดี กำจัดมันก่อน แล้วค่อยดูความดีความชอบ!”

ทั้งสามเห็นพ้องต้องกัน ไม่มีความคิดที่จะแย่งชิง เพราะมดตัวข้างหน้า เป็นนินจาระดับปรมาจารย์ที่แท้จริง ร่วมมือกันถึงมีกำลังทำสงคราม แต่ถ้าแยกกัน มีแต่โดนโจมตี และพ่ายแพ้!

ทั้งสามเหมือนจะไม่รีรอ ใช้กระบวนท่าแข็งแกร่งที่สุด ทำซะเกินจริง มึนงงตาลายไปหมด ไม่พูดก็ไม่ได้ ท่าทางแข็งแกร่งมากจริงๆ ดูคนละชั้น ขนาดเทียนขุยยังขมวดคิ้วเบาๆ เขาประมาทศัตรูเกินไปจริงๆ!

พละกำลังที่สามอาวุโสแสดงออกมา ไม่น้อยไปกว่าพละกำลังที่นินจาระดับปรมาจารย์แสดงออกมา อีกอย่าง สิ่งประหลาดที่สุดคือ กำลังภายในของทั้งสามคน สามารถประสานกันได้ เหมือนการอยู่ร่วมกันแบบอิงอาศัย น่าเหลือเชื่อเกินไปจริงๆ!

ท่วงท่าอันรุนแรง ทำให้ท้องฟ้าเปลี่ยนไป เมฆดำหายวับไป แต่ใครก็รู้ ภูมิอากาศของเขาคุนหลุน แปรปรวนตลอด ไม่ค่อยเจออากาศมืดครึ้ม ทั้งวันมีแต่แสงอาทิตย์ ไม่มีเมฆดำอะไรทำนองนี้ แสดงให้เห็นว่า เหตุการณ์แบบนี้ เกิดจากผู้อาวุโสทั้งสาม!

ไม่สามารถประมาทพละกำลังได้!

พื้นดินสั่นคลอน พลานุภาพถึงขนาดที่ทำลายต้นไม้แห้งและพัดท่อนซุง ถาโถมเข้ามา การเคลื่อนไหวของกำลังภายในอันแข็งแกร่ง เหนือกว่านินจาระดับปรมาจารย์แล้ว อีกทั้งยังถาโถมอย่างรุนแรงไม่หยุด!

กำลังภายในมหาศาลเคลื่อนตัว เหมือนสัตว์ป่าดุร้าย แยกเขี้ยว อ้าปากที่เหมือนอ่างเลือด คำรามเข้ามา เป้าหมายคือฟางเหยียน!

ใกล้แล้ว!

ใกล้เข้ามาแล้ว!

ภายใต้ปากใหญ่เหมือนอ่างเลือด ฟางเหยียนดูอ่อนแอน่าสงสาร ไร้ที่พึ่งพา

ซือ!

กำลังภายในเคลื่อนไหวเหมือนฝนห่าใหญ่ ส่งเสียงดังเข้ามา ปกคลุมฟางเหยียนเอาไว้ในพริบตา

ตู้ม!

หลังเสียงดังสนั่น รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าอาวุโสทั้งสาม!

แต่ยังไม่ถึงหนึ่งวินาที ทั้งใบหน้าถึงกับขมวดเข้าหากัน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ