“เจ้า…เจ้าเป็นใครกัน?” โจวเต๋อเต้าลุกขึ้นมาด้วยการประคองขององครักษ์ ก่อนถามขึ้นด้วยสายตาอาฆาตแค้น
วันนี้ก่อนอื่นมีคนจับตัวเขาเอาไว้ จากนั้นก็ตบเขา ซ้ำยังหักขาลูกชายต่อหน้าเขาอีก ไม่ว่าเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็แล้วแต่ ปกติแล้วล้วนเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดและไม่มีทางเกิดขึ้นในคฤหาสน์สกุลโจวแน่นอน ทว่าวันนี้กลับเกิดขึ้นพร้อมกัน เล่นเอาโจวเต๋อเต้าคลุ้มคลั่ง ทำให้พ่อค้าที่ปกติแล้วเจ้าเล่ห์กลิ้งกลอกสูญเสียการควบคุมไป
“เลี้ยงดูแต่ไม่สั่งสอน เป็นความผิดของบิดามารดา สั่งสอนลูกชายออกมาได้เหี้ยมโหดชั่วร้ายแบบนี้ เจ้าเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร” หลี่มู่มองโจวเต๋อเต้า พูดด้วยเสียงเย็นชา
วันนี้เขามาหาคน แต่เดิมไม่ได้คิดจะสร้างความวุ่นวายอะไร แต่เมื่อเห็นเซี่ยจวี๋ถูกทรมานแบบนี้ ก็คิดโยงไปถึงเรื่องเมื่อวาน ทำไมเขาจะเดาไม่ได้ว่าโจวอวี่นำความโกรธเมื่อวานทั้งหมดมาระบายบนร่างของหญิงสาวที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่คนนี้ คิดแล้วก็ทำให้เขาโมโหนัก
“หึ เรื่องของข้า ไม่ต้องให้เจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาสั่งสอน เจ้าบุกเข้ามาในคฤหาสน์สกุลโจว ทำร้ายลูกชายข้า ก็อย่าคิดจะมีชีวิตรอดออกไปเลย” โจวเต๋อเต้าคำรามเสียงต่ำ เสียงราวเค้นออกมาจากท้อง เขาเกลียดชังหลี่มู่เหลือเกิน
“ทุกคนต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง เจ้า…รับผิดชอบมันไหวหรือ?” หลี่มู่มองโจวเต๋อเต้า กล่าวว่า “ต่อหน้าพลังที่แข็งแกร่ง อำนาจเม็ดเงินของสกุลโจวก็เหมือนกับของไร้ค่า”
หลี่มู่ไม่อยากจะพัวพันอยู่ที่นี่
เขาตระหนักได้ว่า สิ่งที่เซี่ยจวี๋ประสบพบเจออาจจะเกิดกับชิวอี้ด้วยเช่นกัน
ในเมื่อจางชุยเสวี่ยที่เรียกตัวเองว่า ‘จอมกระบี่ไร้พ่าย’ นั่น ดูไปแล้วก็ไม่ใช่คนดีอะไร
เขาหมุนตัวจากไป
“ขวางมันเอาไว้ อย่าให้มันหนีไป” โจวเต๋อเต้าตะโกนสั่งอย่างโมโห
เขาตัดสินใจแล้ว เขาไม่เสียดายว่าต้องจ่ายทุกสิ่ง แต่จะต้องรั้งหลี่มู่เอาไว้แล้วสังหารให้ได้
มียอดฝีมืออารักขาเรือนพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งดั่งคลื่นถาโถมอีก
ในขณะเดียวกัน ก็มีจอมเวทจำนวนหนึ่งปรากฏตัวอยู่ที่ไกลๆ กำลังท่องอาคมลึกลับ ในอากาศมีพลังเวทที่ทั้งลึกลับและแข็งแกร่งเริ่มหลอมรวมขึ้นมา เห็นได้ชัดว่ากำลังเตรียมวิชาเวทบางอย่างที่น่ากลัวอยู่ พลังช่างแข็งแกร่งชวนให้คนหวาดผวา
นักรบชั้นยอดที่ถือธนูเจาะเกราะรวมตัวกันมาจากทุกทิศทาง ก่อนปรากฏกายขึ้นบนกำแพง ด้านหลังก้อนหิน เข้าประจำพื้นที่สูงจากทุกด้าน การออกแบบสิ่งก่อสร้างของคฤหาสน์สกุลโจวมีลักษณะพิเศษคือมองจากข้างในจะเหมือนปราการทหารป้องกันเป็นชั้นๆ ทั้งสวยงามและมีประโยชน์ ในกำแพงหินบางแห่งเปิดช่องลับออก แล้วเข็นเครื่องยิงธนูยักษ์นับสิบคันออกมา…
กลุ่มการเงินที่ใหญ่ไม่เป็นสองรองใครในฉางอัน เมื่ออำนาจเม็ดเงินและพลังอำนาจสำแดงฤทธิ์ช่างน่ากลัวยิ่งนัก
“วันนี้ต่อให้เจ้าติดปีกก็ยากจะหนีพ้น” สีหน้าโจวเต๋อเต้ากลับมาเป็นปกติภายใต้การปกป้องเป็นชั้นๆ จากองครักษ์ ในดวงตาฉายจิตสังหารโดยไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
“น่าขันนัก” นัยน์ตาของหลี่มู่มีแสงอัสนีหมุนวน
มือซ้ายเขาประคองเซี่ยจวี๋ มือขวาคว้าไปในอากาศ นิ้วทั้งห้าขยับอย่างเป็นจังหวะ อัสนีหลายสายปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของเขาแล้วพันล้อมไปตามนิ้วทั้งห้า
“เวทอัสนี…เวทที่สอง เหนี่ยวอัสนีสวรรค์!”
คล้อยหลังเสียงคำรามต่ำทุ้มของหลี่มู่ แสงสายฟ้าที่แต่เดิมพันล้อมนิ้วทั้งห้าของเขาก็ฟาดผ่าออกไปทันใด และขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว กระจายลุกลามไปราวเปลวเพลิง สายฟ้าขนาดเท่าแขนผู้ใหญ่แผ่มาจากทุกทิศทาง เพียงชั่วพริบตา ท้องฟ้ามืดครึ้ม เมฆดำแผ่ตัว อัสนีสีม่วงแต่ละสายฟาดผ่าลงมาอย่างไร้ความปรานีราวกับงูสายฟ้าคลั่ง
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้พื้นที่ในบริเวณหลายร้อยจั้งกลายเป็นมหาสมุทรสายฟ้าทันที
ถึงแม้มือธนูและผู้ใช้หน้าไม้ที่สวมชุดเกราะจะเป็นนักรบขั้นรวมจิตทั้งหมด ก็รับมือกับสายฟ้าเช่นนี้ไม่ไหว ถูกฟาดผ่าจนร่างกระตุกเกร็ง มีควันดำลอยออกมาทั้งตัวก่อนจะล้มฟุบลงไป สายฟ้าหอบม้วนจอมเวทที่เดิมกำลังร่ายคาถารวบรวมพลังเตรียมสำแดงวิชาเวทพวกนั้นไปด้วยเช่นกัน วิชาเวทสะดุดลงทันที สายฟ้าผ่าจนร่างข้างนอกกรอบเกรียมข้างในนุ่ม ยอดฝีมืออารักขาเรือนที่ถาโถมมาดั่งคลื่นน้ำ เหนือศีรษะแต่ละคนมีควันดำลอยออกมา จากนั้นจึงล้มคว่ำลงไป…
อีกทั้งสิ่งก่อสร้างที่อยู่รอบๆ ก็แทบจะกลายเป็นที่ราบจากการกวาดทำลายของสายอัสนี
โจวเต๋อเต้าอยู่ภายใต้การประคองและคุ้มกันจากองครักษ์ผู้ภักดีกลุ่มหนึ่ง พวกเขากระตุ้นของวิเศษบางอย่าง ปกป้องโจวอวี่ที่ร้องโหยหวนคร่ำครวญไว้ จึงจะพอฝืนต้านทานสายฟ้าที่ผ่าลงมาได้
ส่วนหลี่มู่ที่อยู่ท่ามกลางอัสนี มือขวาค้ำผืนฟ้า แสงอัสนีแผ่ลาม อัสนีทั้งหมดสลายออกไปจากฝ่ามือเขา ภายใต้การขับเน้นจากแสงสายฟ้าจำนวนมาก ร่างสูงโปร่งแข็งแกร่งดูราวเทพเจ้าผู้ควบคุมอัสนี ทำให้สายตาและจิตใจของคนทั้งหมดรอบๆ ตื่นตะลึง
การโจมตีนี้ทำให้กำลังขององครักษ์สกุลโจวเสียหายสาหัส
แต่ ‘เวทที่สอง • เหนี่ยวอัสนีสวรรค์’ ที่หลี่มู่สำแดง ควบคุมอานุภาพไว้ได้ดีมาก ไม่ได้สังหารล้างบาง ร่างที่ล้มฟุบลงไปแต่ละร่างจึงไม่ถึงกับตาย สายฟ้าแค่ผ่าทำร้ายเข้าเท่านั้น ฟ้ามีเมตตาธรรม หลี่มู่ยังยั้งมือปรานี
หลังจากโจมตีผู้กีดขวางจนราบคาบ เขาก็ไม่คิดจะอยู่ต่อไป อุ้มเซี่ยจวี๋พุ่งออกไปนอกคฤหาสน์สกุลโจว
“สมควรตายนัก จะปล่อยให้มันหนีไปแบบนี้รึ?” โจวเต๋อเต้าโมโหจนกัดฟันกรอด
เขาอยู่ในเมืองฉางอันมานานขนาดนี้ เคยเจอเรื่องน่าโมโหแบบนี้เสียที่ไหน
“ขวางมันไว้ ข้าจะให้มันตาย ข้าจะให้มันตาย…” โจวอวี่ดวงตาแดงก่ำ ตะโกนอย่างบ้าคลั่งเหมือนคนเป็นฮิสทีเรีย อาการบาดเจ็บเขาฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยด้วยการรักษาของจอมเวทสกุลโจว หยุดความเจ็บปวดเอาไว้แล้ว
ทว่า ไม่ว่าจะเป็นองครักษ์อารักขาเรือนหรือครูฝึก จนกระทั่งจอมเวทพวกนั้น ก็ไม่มีใครสักคนกล้าตามไป
ในตอนที่หลี่มู่ใกล้จะทะยานออกไปจากเขตเรือนด้านหลังของสกุลโจว ทันใดนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
ฟิ้ว!
ลำแสงสีส้มแหวกผ่าอากาศมาโจมตีหลี่มู่
การโจมตีนี้หลักแหลมนัก มุ่งหมายมายังจุดที่หลี่มู่ต้องผ่าน
“หืม? ยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา