ซินเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ ก็อึ้งไปเหมือนกัน
นางเองก็คิดไม่ถึงว่านักกวีหนุ่มคนนั้นจะเลือดร้อนเช่นนี้ แต่ว่าเรื่องนี้ลำพังแค่เลือดร้อนคงไม่ได้ ฝ่ามือนี้ตบลงไปก็เป็นเรื่องยุ่งยากใหญ่แล้ว
มีเพียงแม่เล้าไป๋เซวียนแห่งหอสดับเซียนที่ดวงตาฉายแววประหลาด
นางเห็นกับตาตัวเอง หลี่มู่มาโดยมีเจิ้งฉุนเจี้ยนมาเป็นเพื่อน เจิ้งฉุนเจี้ยนเป็นใคร ใจของท่านแม่ไป๋เซวียนรู้ดีเป็นอย่างยิ่ง สามารถให้เจิ้งฉุนเจี้ยนมาเป็นเพื่อนได้โดยทำตัวราวเด็กรับใช้ เด็กหนุ่มที่แต่งตัวธรรมดาคนนี้ต้องมีประวัติความเป็นมาแน่นอน แต่ประวัติความเป็นมาและภูมิหลังจะเป็นขั้วอำนาจใหญ่ที่สั่นคลอนสำนักบัณฑิตเขาเหมันต์ได้หรือไม่ นี่ก็คาดเดากันยากแล้ว
ดังนั้นนางเลือกที่จะสงวนท่าทีไว้ก่อน
ไม่นาน คนทั้งหลายในโถงใหญ่ก็ตั้งสติกลับมา
เจินหย่วนเต้าโมโหอย่างยิ่งยวด ชี้หน้าหลี่มู่ ประกายไฟพุ่งออกจากดวงตา “นี่มันไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่เกรงกลัวกฎหมายชัดๆ…ต่อหน้าคนมากมายยังกล้าลงมือทำร้ายคน ใครก็ได้จับเจ้าคนบ้านี่เอาไว้… ”
ยังพูดไม่ทันจบ
ก็เห็นหลี่มู่ยื่นมือออกไป แรงลมไร้รูปร่างหอบม้วนเอาตัวเจินหย่วนเต้าส่งมาถึงฝ่ามือหลี่มู่
เขาบีบคอของเจินหย่วนเต้าไว้ด้วยมือเดียว “ทำร้ายคน? หึๆ”
กร๊อบ
ข้อมือของเขาแค่บิด ก็หักคอของอาจารย์สำนักบัณฑิตเขาเหมันต์คนนี้ทันที
“ค่อกๆๆๆ…” ลำคอของเจินหย่วนเต้าส่งเสียงราวกับสัตว์ป่าเผชิญหน้ากับความตาย ร่างของเขากระตุกเหมือนสุนัขถูกตีหลังหัก ดวงตาฉายความหวาดกลัวสุดท้ายออกมา
แม้แต่ฝันเขาก็คิดไม่ถึงว่าหลี่มู่จะไม่ใช่บัณฑิตมือไร้แรงมัดไก่ แต่เป็นยอดฝีมือ ทั้งยังกล้าลงมือฆ่าคนในสถานที่เช่นนี้จริง
ความตายโจมตีมาดุจคลื่นซัดสาด
เขาแค้นนัก เสียใจยิ่งนัก
แต่ว่าบนโลกนี้ไม่มียารักษาโรคเสียใจภายหลัง
ความละโมบเพียงชั่วครู่ คิดจะอาศัยฐานะและตำแหน่งของตนช่วงชิงบทกลอนของผู้อื่น กลับตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เจินหย่วนเต้าหวาดกลัวและเสียใจอย่างสุดซึ้ง สุดท้ายก็ขาดใจตายไป
ตุบ!
หลี่มู่โยนศพของเจินหย่วนเต้าลงบนพื้นไปตามอารมณ์
ลงมือ ฆ่าคน!
เหตุการณ์ทั้งหมดราวเมฆคล้อยน้ำไหล ไม่เร็ว แต่ก็ไม่มีเวลาให้คนทั้งหมดรอบๆ ตั้งตัว
คราวนี้ทั้งโถงใหญ่เงียบกริบ เงียบสงัดโดยสมบูรณ์
หากพูดว่าก่อนหน้านี้ตบหลินชิวสุ่ยลอยกระเด็นทำให้คนโมโหตกใจ เช่นนั้นตอนนี้สังหารเจินหย่วนเต้า ความรู้สึกที่นำมาให้ทุกคนก็เป็นความหวาดกลัว
ลูกศิษย์สำนักบัณฑิตเขาเหมันต์ที่โหวกเหวกสุดเสียงราดน้ำมันบนกองเพลิงเหล่านั้นตัวสั่นเทิ้ม ราวบิดามารดาตาย แต่ละคนอุดปากเอาไว้ กลัวว่าหากส่งเสียงออกมาอีกเพียงนิดจะดึงความสนใจจากเด็กหนุ่มคนนี้
และในเสี้ยวขณะนั้น ทุกคนถึงจะตั้งสติกลับมาได้ เด็กหนุ่มคนนี้เป็นลูกแกะอ่อนแอเสียที่ไหน เป็นพยัคฆ์ดุดันเขี้ยวเล็บคมกริบชัดๆ…พยัคฆ์ดุดันที่รังสีสังหารแผ่ซ่าน
เพราะอาจารย์และนักเรียนของสำนักบัณฑิตที่จริงล้วนฝึกยุทธ์กันทั้งสิ้น ไม่ใช่บัณฑิตอ่อนแอ เช่นหลินชิวสุ่ย พลังฝึกก็เป็นขั้นรวมจิต ส่วนเจินหย่วนเต้ายิ่งเป็นขั้นรวมจิตสูงสุด ใกล้จะก้าวเข้าสู่ครึ่งขั้นปรมาจารย์แล้ว แต่จุดจบเล่า?
คนหนึ่งโดนตบปลิวราวกับตบยุง
คนหนึ่งถูกบีบคอหักเหมือนไก่
“ที่จริงเจ้าผิดแล้ว ไม่ใช่แค่ทำร้ายคน ข้ายังฆ่าคนได้อีกด้วย”
น้ำเสียงของหลี่มู่เป็นปกติ เสมือนเป็นเรื่องที่ปกติที่สุด
สายตาของเขาเบนไปอีกทาง มองคนที่ไม่มียางอายแม้แต่น้อยอีกคนหนึ่ง…เจี่ยจั้วเหรินอาจารย์ของสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์
“เจ้า…” เจี่ยจั้วเหรินหวาดกลัวเหลือคณา ขาสั่นขึ้นมา หมุนตัวจะหนีไป
หลี่มู่ใช้กระบวนท่าเดิม กระตุ้น ‘วิชาเต๋า • วายุมังกรคลั่ง’ พลังพายุหมุนไร้รูปร่างหอบม้วนเจี่ยจั้วเหรินที่มีระดับพลังครึ่งปรมาจารย์เช่นเดียวกันมาไว้ในกำมือ
“เจ้าบอกว่า เจ้าเป็นผู้กลอนแต่งขึ้น?” หลี่มู่ถาม
“ไม่ๆๆ ไม่ใช่ข้า” เจี่ยจั้วเหรินตัวสั่นเทิ้มราวลูกเป็ดกลางสายฝน พยายามดิ้นรนพลางร้องอ้อนวอน “ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่ควรใช้ตำแหน่งแย่งชื่อเสียงและกลอนของเจ้า ไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นหลิวมู่หยางเด็กเวรนั่นส่งคนมายุแยงข้า บอกว่าท่านเป็นแค่บัณฑิตต่างถิ่นไร้อำนาจ ไร้พลัง ไม่จำเป็นต้องกังวล…”
อาจารย์ของสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์คนนี้ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ยอมรับหมดเปลือกดุจเทถั่วออกจากกระบอกไม้ไผ่
เขาก็เสียใจเหมือนนี่
ยิงนกกระเรียนตอนกลางวัน ครั้งนี้โดนนกกระเรียนจิกเอาตาบอดเสียแล้ว
แย่งชิงชื่อเสียงและกลอนของคนอื่นมาโดยตลอด ครั้งนี้กลับเตะตอเข้าอย่างจัง
“ทุกคนล้วนต้องจ่ายชดใช้ให้กับการกระทำของตัวเอง” หลี่มู่ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
หากคำขอโทษมีผล แล้วจะมีตำรวจไว้ทำอะไร?
หากทุกคนทำเรื่องชั่ว แค่ยอมรับผิดก็ได้รับการยกโทษ เช่นนั้นนรกสิบแปดขุมไม่ว่างโล่งเลยหรืออย่างไร?
“ไม่ๆๆ ไว้ชีวิตข้า ช่วยด้วย…ช่วยข้า…” เจี่ยจั้วเหรินมองไปยังฮวาเสี่ยงหรง “แม่นางฮวา ข้าผิดไปแล้ว ช่วยข้าอ้อนวอนด้วย ขอร้องเจ้าล่ะ ข้าไม่กล้าอีกแล้ว ข้า…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา