นี่เป็นโอกาสที่เยี่ยมยอดนัก
โจวอันยืนอยู่ที่หน้าต่างของโรงเตี๊ยม มองไปยังธูปที่ใกล้จะไหม้หมดสิ้นข้างล่างอนุสาวรีย์ซึ่งอยู่ไกลๆ มุมปากยกยิ้มโดยไม่รู้ตัว
สวรรค์ช่วยข้าจริงๆ!
โจวอันแทบจะสะกดความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
เขาเหมือนเห็นภาพท่านอ๋องน้อยซาบซึ้งใจตนหลังจากที่สังหารหลี่มู่ไปแล้ว เห็นภาพที่ทั่วทั้งเมืองฉางอันต่างสรรเสริญชื่อเสียงของเขา เห็นภาพที่ชื่อเสียงของตนลือเลื่องไปทั่วจักรววรดิ…นั่นจะเป็นภาพที่งดงามเสียเหลือเกิน
“หึๆ ฮ่าๆๆ…” โจวอันหัวเราะอย่างอดไม่อยู่
“มีเรื่องอะไรถึงได้หัวเราะอย่างมีความสุขขนาดนั้น?” เสียงดังฉับพลันมาจากทางด้านหลัง
โจวอันตกใจ หันหน้ากลับมา
ครั้นมองไป แววตาของเขาก็ยิ่งตื่นตะลึง ทั้งตัวราวกับกลายเป็นก้อนหินไปแล้ว
“เจ้า…ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ นั่น…” เพราะเขาเห็นว่าหลี่มู่ที่แต่เดิมยังอยู่ข้างล่างอนุสาวรีย์ในเสี้ยวขณะก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่ามาปรากฏอยู่ตัวอยู่ข้างโต๊ะด้านหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ อีกทั้งกำลังดื่มชา มองเขาด้วยใบหน้าหยอกล้อ
โจวอันนึกว่าตัวเองตาลายจริงๆ จึงหันกลับไปมองทางอนุสาวรีย์โดยไม่รู้ตัว
หลี่มู่ไม่อยู่ที่นั่นแล้วจริงๆ
“แปลกใจหรือ?” หลี่มู่วางถ้วยชาลง พูดเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “ขั้นฟ้าประทาน? เจ้าก็คือที่พึ่งสุดท้ายของหมาบ้าตัวนั้นกระมัง หึๆ มาตั้งนานขนาดนี้แต่นิ่งดูดายหลบอยู่บนโรงเตี๊ยมตลอด ข้าควรบอกว่าเจ้ามีความอดทนดี หรือควรจะชมว่าความคิดลึกซึ้งดี หืม?”
สีหน้าของโจวอันเคร่งเครียด
เขาเพิ่งได้รู้ว่าตัวเองโดนเจอตัวตั้งนานแล้ว
“เจ้าพบข้าได้อย่างไร?” โจวอันโคจรกลิ่นอายกำลังภายใน กระตุ้นพลังลอบระวังป้องกัน
หลี่มู่ไม่ตอบ บอกว่า “พลังฝึกขั้นฟ้าประทานนั้นก็ไม่ง่าย เจ้าไปเสียตั้งแต่ตอนนี้เถอะ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า”
โจวอันหัวเราะหยามหยัน “ฆ่าข้า? ฮะๆ ฮะฮ่าๆๆๆ!” เขาเงยหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แล้วพลันหยุดลง พูดขึ้นด้วยสีหน้าเหี้ยมโหดว่า “อาศัยคนรุ่นหลังปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเช่นเจ้าน่ะหรือ วันนี้ข้าจะใช้หัวของเจ้ามาช่วยให้ข้ามีชื่อเสียงโด่งดัง ให้เจ้ารู้ว่ามีคนบางคนที่เจ้าไม่ควรมีเรื่องด้วย และเรื่องบางเรื่องเจ้าก็ไม่ควรออกหน้า…อัจฉริยะที่ว่ากันก็แค่หินปูทางของผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงเท่านั้น”
หลี่มู่ส่ายหน้า “มีชีวิตอยู่ไม่ดีหรือ?”
การใช้งานเนตรสวรรค์ของเขามาถึงขั้นชำนาญในระดับหนึ่งแล้ว
เวลาก้านธูปสามในสี่ก่อนหน้านี้ เขาเบิกเนตรสวรรค์กวาดมองไป ก็เจอตำแหน่งที่อยู่และระดับพลังของผู้แข็งแกร่งที่อยู่รอบๆ ในระยะหลายลี้ โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งขั้นฟ้าประทานเช่นโจวอัน คลื่นพลังงานแข็งแกร่งยิ่งนัก แน่นอนว่าหลี่มู่เจอตั้งนานแล้ว อีกทั้งหลี่มู่ยังสัมผัสได้ถึงจิตสังหารเป็นกลุ่มเป็นสายจากร่างของโจวอันอีกด้วย นั่นยิ่งทำให้เขามั่นใจว่าคือไพ่ตายและพรรคพวกของฉินหลิน
“ฮ่าๆ เห็นพูดกันว่าเจ้าบ้าระห่ำ ไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรอยู่จริงเสียด้วย” รัศมีอำนาจของโจวอันเพิ่มขึ้นไม่หยุดจากการโคจรกำลังภายใน แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง “อย่าคิดว่าเจ้าโชคดีเอาชนะธรรมาจารย์กระบี่สวรรค์ขั้นฟ้าประทานจอมปลอมได้ แล้วจะต่อกรกับขั้นฟ้าประทานได้ วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่าบนโลกใบนี้ ขั้นฟ้าประทานที่แท้จริงมีพลังอย่างเทพมารเช่นไร”
“ไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรอยู่” หลี่มู่มองเขาด้วยสายตาเวทนา หัวเราะอย่างอดไม่ได้ “ขั้นฟ้าประทานจอมปลอม? เกรงว่าเจ้าคงเข้าใจผิดแล้ว สำหรับข้าพลังแท้จริงของธรรมาจารย์กระบี่สวรรค์ตอนนั้นแข็งแกร่งกว่าเจ้าเยอะ เจ้าฝืนทนไม่ได้แม้สิบกระบวนท่า”
หลี่มู่มองจุดแข็งจุดอ่อนของโจวอันทะลุปรุโปร่งผ่านเนตรสวรรค์ได้นานแล้ว
โจวอันคนนี้ต่างหากถึงจะเป็นขั้นฟ้าประทานจอมปลอมที่แท้จริง กำลังภายในยังเปลี่ยนเป็นปราณแท้ได้ไม่หมด แม้แต่พลังฟ้าประทานเสี้ยวหนึ่งก็ยังฝึกฝนออกมาไม่ได้ ห่างจากธรรมาจารย์กระบี่สวรรค์อยู่อีกชั้นหนึ่ง แต่สุดท้ายเจ้านี่กลับดูถูกธรรมาจารย์กระบี่สวรรค์ พูดจาอวดดี…มั่นใจจนแทบจะใกล้เคียงกับโง่เขลา
“ฮ่าๆ ธรรมาจารย์กระบี่สวรรค์แข็งแกร่งกว่าข้า? เหลวไหล วันนี้เจ้าจงตายในเงื้อมมือข้า กลายเป็นหินปูทางของข้าเสีย” โจวอันหัวเราะบ้าคลั่ง จากนั้นก็ลงมือ
วิชาหลักที่เขาฝึกฝนคือกำลังภายในธาตุลม ภายใต้ระลอกคลื่นปราณแท้ ความเร็วของเขาราวภูตผี พุ่งเข้าไปสังหารหลี่มู่ ระยะห่างของทั้งสองห่างกันแค่หนึ่งจั้งกว่าเท่านั้น แทบจะเพียงชั่วเวลาสายฟ้ากะพริบ กระบี่ฝ่ามือก็จ่อมาที่หน้าผากของหลี่มู่แล้ว
เร็ว!
เร็วสุดขีด
ทว่าหลี่มู่เร็วยิ่งกว่าเขา
“คนไม่คิดทำร้ายเสือ แต่เสือกลับคิดทำร้ายคน…”
ร่างของหลี่มู่เลือนรางอย่างแปลกประหลาด ราวกับเสี้ยวเงาหายไปจากที่ตรงนั้น
“ถึงยามอู่แล้ว…เป็นเจ้าที่รนหาที่เอง” หลี่มู่ไม่ปรานีอีกต่อไป
“อะไร?” โจวอันตกใจสุดขีด
……
ตุบ!
ศีรษะคนโชกเลือดถูกโยนมาตกข้างหน้าฉินหลิน
“โทษที ยั้งมือไม่อยู่ ฆ่าตายเสียแล้ว ดังนั้น…ตัวช่วยของเจ้า ทั้งตัวน่าจะเหลือแค่ส่วนหัวส่วนสุดท้าย” ท่าทางของหลี่มู่จริงใจนัก เหมือนกับพูดอย่างขอโทษขอโพยจริงๆ
สายตาของฉินหลินแข็งค้าง
ร่างของเขาสั่นสะท้านรุนแรง
เพราะหวาดกลัว
เพราะเขาจำได้ นั่นคือศีรษะของโจวอัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา