แต่ว่าเขาก็ยังคงไม่รีบร้อนกลับไป
ยังนั่งอยู่ใน ‘ค่ายกลมังกรเขียวพ้นน้ำ’ ปิดด่านกักตัวชั่วคราว หลี่มู่เริ่มทำให้พลังฝึกที่ได้มาจากการปิดด่านครั้งนี้มั่นคง ทำให้ทุกอย่างตกตะกอนอย่างช้าๆ เปลี่ยนให้เป็นกำลังรบที่แท้จริง
เมื่อเขามองดูข้างในก็ค้นพบอะไรใหม่
ปราณแท้ฟ้าประทานที่แต่เดิมขนาดประมาณเส้นผม ตอนนี้หนาขึ้นเล็กน้อย ประมาณสิบเท่าของก่อนหน้านี้ ดูท่าทางตอนที่ฝึกฝนหมัดยุทธ์แท้ท่าที่สี่ ‘รวบหางยูง’ เมื่อครู่ กำลังภายในและปราณแท้ฟ้าประทานหมุนโคจรเองในร่างกาย จึงได้รับการบำรุงเพิ่มประโยชน์
“ทำตามความเร็วนี้ต่อไป อย่างมากหนึ่งปี เราจะสามารถแปรเปลี่ยนกำลังภายในในร่างให้เป็นปราณแท้ฟ้าประทานได้ทั้งหมด และก้าวสู่ขั้นเหนือมนุษย์”
หลี่มู่ยิ่งมั่นใจขึ้นทุกที
ตอนนี้พลังของเขาเทียบกับเมื่อวันก่อนแล้วพูดได้ว่าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด หากโลกภายนอกรับรู้ น่ากลัวว่าคงตกใจกันจนคลั่ง หากเจอกับคู่ต่อสู้พลังเหมือนธรรมาจารย์กระบี่สวรรค์ที่ก้าวสู่ขั้นฟ้าประทานอย่างวันนั้นอีก แค่เคลื่อนไหวก็สังหารได้แล้ว ไม่ต้องดึงเวลาให้นานเลย
ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม
ต้องกลับไปแล้ว
หลี่มู่ไปจากสวนสุสานทหาร
ไม่ได้กลับไปหนึ่งวันหนึ่งคืนติดๆ ฮวาเสี่ยงหรงคงร้อนใจแล้ว
……
“แม่นางฮวา เชิญไปสำนักตรวจการสักหน่อยเถิด”
ชายหนุ่มสวมชุดเฟยอวี๋[1]คนหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้าฮวาเสี่ยงหรง ภายในดวงตาซึ่งดูเหมือนทำตามหน้าที่ซ่อนความเร่าร้อนที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ไว้เลาๆ เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าฮวาเสี่ยงหรงแห่งหอสดับเซียนจะสวยถึงขนาดนี้ เกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก
สาวใช้ซินเอ๋อร์จับมือของฮวาเสี่ยงหรงไว้แน่น
ไป๋เซวียนยิ้มสู้เสืออยู่ข้างๆ กล่าวว่า “ใต้เท้า ฮวาเอ๋อร์ถึงแม้จะรู้จักกับคุณชายหลี่มู่ แต่ไม่รู้ตำแหน่งแห่งหนของเขา ยิ่งไม่มีทางเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดอะไร พวกเราหอสดับเซียนทำการค้า ผู้มาเยือนล้วนเป็นแขก พวกท่านเข้าใจอะไรผิดแล้วหรือไม่?”
ชายหนุ่มชุดเฟยอวี๋หัวเราะเสียงเย็น “ในเมืองฉางอัน ใครไม่รู้บ้างว่าหลายวันมานี้หลี่มู่อยู่กับฮวาเสี่ยงหรงที่นี่ โปรดปรานแม่นางฮวาคนเดียว ข้าไม่ได้บอกว่าแม่นางฮวาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดแน่ แต่ก็ต้องตามข้ากลับไปรับการตรวจสอบ เชื่อว่าเมื่อได้ยินว่าแม่นางฮวาไปสำนักตรวจการ หลี่มู่ก็จะไปมอบตัวที่นั่น”
“เช่นนี้จะได้อย่างไร?” ไป๋เซวียนเอ่ยอย่างร้อนใจ “ฮวาเสี่ยงหรงต้องเข้าร่วมประกวดนางคณิกาในวันมะรืน…”
“เหอะๆ งานประกวดนางคณิกาอะไร สำคัญกว่ากฎหมายของบ้านเมืองหรืออย่างไร?” สีหน้าของชายหนุ่มเย็นชาขึ้น “สำนักตรวจการสืบคดี ใครกล้าขวาง? ท่านแม่ไป๋เซวียน ข้ารู้ว่าเจ้ามีกำลังอยู่บ้างในเมืองฉางอัน แต่ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าได้เที่ยวจุ้นจ้าน คดีนี้นายตรวจลู่ที่มาจากสำนักตรวจการสาขาหลักเมืองฉินมาทำคดีตรวจด้วยตัวเอง ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะสอดมือยุ่งได้”
ไป๋เซวียนร้อนใจจนเหงื่อซึมหน้าผาก แต่ถ้าอีกฝ่ายจะพาฮวาเสี่ยงหรงไปจริงๆ นางก็ไม่กล้าขัดขวาง
คนของสำนักตรวจการ เป็นใครได้ยินก็หน้าเปลี่ยนสีแล้ว น่ากลัวกว่าพวกขุนนางในที่ว่าการมาก ว่ากันว่าในคุกของสำนักตรวจการไม่ต่างอะไรกับนรกอสุรภูมิเลย ต่อให้เป็นผู้ชายอกสามศอกเข้าไปก็ยังศิโรราบอ้อนวอน บุคคลยอดเยี่ยมไม่รู้ต่อเท่าไหร่ หลังจากถูกจับเข้าไปในสำนักตรวจการก็หายไปจากโลกนี้โดยสิ้นเชิง
หลี่มู่ไปอยู่ที่ไหนกันแน่ จู่ๆ หายตัวไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม หรือจะหนีความผิดไปแล้วจริงๆ
หากเป็นแบบนั้นจริง นั่นจะเป็นการทำร้ายฮวาเอ๋อร์จนน่าอนาถเลยนะ
ไป๋เซวียนร้อนรุ่มดั่งไฟเผา
ทว่า สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือฮวาเสี่ยงหรงเวลานี้กลับสงบนิ่งยิ่งนัก นางส่ายหน้า พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและเป็นไปตามหลักเหตุผล “ก่อนพี่มู่กลับมา ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น หากข้าตามเจ้าไป เขากลับมาจะเป็นกังวลได้”
ชายหนุ่มอึ้งไป คิดไม่ถึงว่ากับแค่นางคณิกาชื่อดัง ยามได้ยินชื่อสำนักตรวจการกลับยังสงบนิ่งได้ถึงเพียงนี้ เขาหัวเราะก่อนจะเอ่ย “เกรงว่านี่จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้า”
นายตรวจลู่แสดงท่าทีชัดเจนแล้วว่าจะจัดการหลี่มู่ ผู้แข็งแกร่งขั้นฟ้าประทานที่ไม่มีภูมิหลัง ต่อให้เป็นอัจฉริยะ สำนักตรวจการก็ไม่กลัว หลายปีมานี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีขั้นฟ้าประทานตายอยู่ในคุกของสำนักตรวจการเลย ส่วนเรื่องบังคับจับตัวนางโลมในหน่วยเลี้ยงรับรองมาก็ยิ่งไม่มีความกดดันอะไร ฮวาเสี่ยงหรงคนนี้หน้าตางดงามชวนตะลึง เหนือกว่าจินตนาการของเขา ความละโมบและความปรารถนาในใจทำให้เขาตัดสินใจแล้วว่า วันนี้จะต้องจับฮวาเสี่ยงหรงไปสำนักตรวจการให้ได้ สาวงามหยาดเยิ้มเช่นนี้ เมื่ออยู่ในคุกจะไม่แล้วแต่เขาจะนวดคลึงหรืออย่างไร
“อย่าบังคับข้า” ฮวาเสี่ยงหรงก้าวขึ้นไปก้าวหนึ่ง ปกป้องสาวใช้ซินเอ๋อร์เอาไว้ข้างหลัง
สีหน้าของนางแน่วแน่ ในแววตามีประกายจะพลีชีพชัดเจน
นางที่ฝึกฝนวิชาก่อนกำเนิดฉบับง่าย พลังจิตวิญญาณและสัญชาตญาณฉับไวยิ่งนัก นางมองเห็นความปรารถนาจะครอบครองอันร้อนเร่าชั่วร้ายในดวงตาของขุนนางสำนักตรวจการหนุ่มคนนี้ เห็นได้ชัดว่าหากตนถูกจับเข้าไปอยู่ในคุกสำนักตรวจการจะมีเรื่องน่ากลัวอะไรเกิดขึ้น ไม่ต้องคิดก็รู้แล้ว
ตัวของนาง ร่างของนาง ความบริสุทธิ์ของนาง ทุกสิ่งทุกอย่างของนาง ทั้งหมดเป็นของพี่มู่
หากทุกอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เช่นนั้นนางก็จะขัดขืน ต่อให้ตายนางก็เป็นผีของพี่มู่
ชั่วชีวิตนี้จะไม่ให้ใครอื่นนอกจากพี่มู่ดูการร่ายรำของนาง มองร่างกายของนาง
“หือ?” ขุนนางหนุ่มอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะลั่น “ฮ่าๆ ขัดขืนรึ นางโลมตัวเล็กๆ อย่างเจ้าอาศัยอะไรมาขัดขืน ฮ่าๆ อย่าทำให้ตัวเองอับอายเลย มิฉะนั้นเมื่ออยู่ในคุกสำนักตรวจการ เจอทัณฑ์ทรมานเจ็ดสิบสองชนิด ถึงตอนนั้น ฮี่ๆ…”
เขายังพูดไม่ทันจบ เสียงหัวเราะเยาะหยันก็พลันหยุดชะงัก
เพราะคลื่นพลังเวทที่แข็งแกร่งทะลักขึ้นมาในห้อง
ฮวาเสี่ยงหรงสะบัดมือเบาๆ กลางฝ่ามืองามราวหยกมันแพะแกะสลักมีแสงสายฟ้าสีม่วงแปลบปลาบลูกหนึ่งขยายขึ้นช้าๆ แสงอัสนีวิบวับนั่นและคลื่นพลังเวทรางเลือนแต่มหาศาล ล้วนบ่งบอกว่าลูกสายฟ้านี้แฝงไว้ด้วยพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา