จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 260

ทั่วทั้งร่างของ ‘จอมมารจันทราโลหิต’ มีสายฟ้าสีม่วงไหลเวียน ผมเผ้าแทบจะตั้งชันทั้งหมด

ตราหยกที่บีบแตกไประเบิดสายฟ้าสีม่วงออกมาอย่างรุนแรง ขณะไม่ทันตั้งตัว เขาถูกแสงสายฟ้าซัดเข้าจังๆ ทั้งตัวมีกระแสสายฟ้าเคลื่อนไหว ร่างเงาจอมมารสูงใหญ่ที่สร้างออกมาก่อนหน้านี้ถูกทำลายลงไปพอสมควร

ใครจะคิดไปถึง ตราหยกนี้มีกลไกเช่นนี้อยู่ด้วย

ดีที่วิชามารของจอมมารจันทราโลหิตนั้นอยู่ระดับสูงแล้ว สายฟ้าสีม่วงนี้นอกจากทำให้เขาผะอืดผะอมเล็กน้อย พลังทำลายที่แท้จริงก็ไม่มากนัก แค่ร่างเงาถูกทำลายไปเท่านั้น

“เหอะๆ ก็แค่ลูกไม้หลอกเด็ก เจ้า…” จอมมารจันทราโลหิตหัวเราะเบาๆ

แต่ว่าเขายังไม่ทันได้พูดจนจบ มือเรียวยาวของซ่างกวนอวี่ถิงก็ประสานปางมือซัดออกไปอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง ตราหยกทั้งสิบเจ็ดที่วนอยู่รอบกายพุ่งออกไปตามลำดับ เกิดเป็นขบวนแถวที่น่าอัศจรรย์ ราวกับทะเลฝนดาวตก พุ่งตรงไปปกคลุมร่างจอมมารจันทราโลหิตเอาไว้

ครั้งนี้ จอมมารจันทราโลหิตไม่กล้าประมาทแล้ว

เขายื่นมือเข้าไปในเมฆโลหิตบนอากาศ ดึงเอาดาบยาวเล่มหนึ่งลงมา พลิกฝ่ามือแล้วฟาดฟันออกไป

แสงจันทราราวโลหิต คมดาบราวสายฟ้า

ทว่าตราหยกสิบเจ็ดตรานั้นกลับเคลื่อนไหวคล่องแคล่วยิ่ง ภายใต้การควบคุมจากปางมือของซ่างกวนอวี่ถิง พวกมันคล้ายกับมีชีวิต ต่างแล่นเข้าปะทะกันกลางอากาศ เปลี่ยนแปลงตำแหน่งไม่หยุด เปลี่ยนทิศทางด้วยตัวเอง จนกลายเป็นค่ายกลที่แตกต่างออกไป จากนั้นผ่าคมดาบสีโลหิตอย่างชำนาญ เพียงพริบตาก็เข้าใกล้จอมมารจันทราโลหิตได้ในระยะสองจั้ง และปกคลุมตัวเขาเอาไว้

“วิชา…สายฟ้า…ม่วง!”

เสียงเบาใสกังวาน ใจกลางตราหยกทุกตราปะทุสายฟ้าสีม่วงออกมา ตาข่ายสายฟ้าจากทุกทิศทางรวมตัวอยู่กลางอากาศ ห่อหุ้มร่างจอมมารจันทราโลหิตเอาไว้ด้านใน และจะใช้พลังสายฟ้าม่วงนี้บดขยี้เขาตรงๆ

จอมมารจันทราโลหิตตกใจ

วิชาเวทต่อสู้ของอีกฝ่าย ไม่เหมือนกับพวกจอมเวทส่วนใหญ่

สายฟ้าสีม่วงนี้ พลังทำลายของมันเทียบกับพลังต่อสู้ของจอมเวทขั้นฟ้าประทานได้แล้ว

ฮวาเสี่ยงหรงติดตามหลี่มู่ได้ไม่นาน กลับแข็งแกร่งขึ้นมาได้ถึงเพียงนี้?

ร่างเต๋าบริสุทธิ์ ช่างยอดเยี่ยมไร้ใดเทียมจริงๆ ด้วย

เมื่อคิดถึงจุดนี้ ในใจจอมมารจันทราโลหิตก็เกิดอาการร้อนรุ่ม

“ฮ่าๆ แม่นางฮวา พลังของจอมเวทขั้นฟ้าประทานยังไม่ใช่คู่มือของข้าหรอก…เจ้าเลิกดิ้นรนเสียเถอะ” เขาหัวเราะร่า พลางยื่นมือหยิบดาบโค้งจันทร์โลหิตออกมาจากเมฆโลหิตกลางอากาศ ดูเหมือนฟาดฟันตามอำเภอใจ เปลวเพลิงสีแดงพลันโหมกระหน่ำทั่วฟ้า ทั้งตัวเขาราวกับเป็นเทพอัคคีลงมาจุติ

พลังของเพลิงจันทราโลหิตต่อต้านพลังสายฟ้าม่วงไว้หมด จากนั้นค่อยๆ บีบออกไปด้านข้างทีละนิด

จอมมารจันทราโลหิตยิ้มบางๆ พูดอย่างโอ้อวดว่า “ข้าสำเร็จวิชาเทพขั้นสูงแล้ว พลังของจอมเวทขั้นฟ้าประทาน ยากจะทำให้ข้า…”

ตูม ตูม ตูม!

เสียงของเขายังไม่ทันจบ กลางฝ่ามือฮวาเสี่ยงหรงก็มีหยกทรงกลมขนาดกำปั้นสี่ลูกลอยออกมา พื้นผิวเรียบรื่น ไม่มีอะไรพิสดาร และไม่รู้สึกถึงคลื่นพลังใดๆ ภายใต้การกระตุ้นพลังจิตวิญญาณของนาง พวกมันพุ่งตรงเข้าไปในตาข่ายสายฟ้าม่วงชั้นนั้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นหยกทรงกลมระเบิดออก ส่งเสียงฟ้าผ่าสะเทือนเลื่อนลั่น

พลังทำลายน่าพรั่นพรึงที่ยากจะบรรยายปะทุขึ้นอย่างรุนแรง

สายฟ้าสีม่วงบ้าคลั่งยิ่งนัก ท่ามกลางตาข่ายสายฟ้าม่วง พลังงานปะทุไหลวน พลังทำลายเพิ่มสูงขึ้นมาหลายสิบเท่า แสงสายฟ้าที่ประหนึ่งงูมังกรสีม่วง เพียงพริบตาก็ทำลายเพลิงจันทราโลหิตของจอมมารจันทราโลหิต และระเบิดบนตัวของเขา

“อ๊าก…”

ท่ามกลางคลื่นสายฟ้า เสียงคำรามโกรธแค้นของจอมมารจันทราโลหิตดังขึ้นมา

“นี่มันอะไรกัน…” เขาโดนระเบิดจนร่วงลงมาจากจันทร์ดวงใหญ่กลางอากาศ ตัวไหม้ดำ สีโลหิตอะไรก็หายไปหมด เขายื่นมือจับจันทร์เสี้ยวสีเลือด ราวกับคนที่กำลังจะตกจากหุบเหวคว้าฟางช่วยชีวิตเอาไว้ กำลังภายในสั่นไหว ครั้นดึงตัวขึ้นก็กระโดดขึ้นไปด้านบน

พริบตานี้เอง ไม่ว่าใครก็มองออก จอมมารจันทราโลหิตยืนค้างกลางอากาศได้ ไม่ใช่เพราะเขาเข้าสู่ขั้นเหนือมนุษย์แล้ว แต่เป็นเพราะจันทร์เสี้ยวสีโลหิตดวงนั้น ความจริงแล้วเหมือนจะมีปัญหาอะไร อาจเป็นสมบัติลับบางอย่างที่สามารถลอยอยู่กลางอากาศ จอมมารจันทราโลหิตแค่ยืมพลังของมัน จึงนิ่งอยู่บนอากาศได้

“ฮวาเสี่ยงหรง สุราคำนับมิยอมดื่ม อยากดื่มสุราทัณฑ์[1] ทำตัวให้ว่าง่ายดีกว่า ข้า…” เสื้อเกราะบนตัวจอมมารจันทราโลหิตมีสายฟ้าม่วงเคลื่อนไหว ผมเผ้าไหม้เกรียม บนเกราะก็ราวกับถูกเผาจนดำ ไม่ได้เหลือเค้าของ ‘ผู้เป็นใหญ่ใต้จันทรา’ ยามปรากฏตัวอีก

ทว่ายังไม่ทันเอ่ยจบ ฮวาเสี่ยงหรงซัดหยกทรงกลมไปอีกสิบลูกโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ใช้ปางมือบังคับแบบเดียวกับก่อนหน้า พวกมันระบำล้อมรอบราวกับดาราคล้อย วงโคจรไม่อาจคะเนได้ เปลี่ยนรูปแบบค่ายกลไปมาไม่หยุดบนอากาศ และพุ่งตรงเข้ามาหาจอมมารจันทราโลหิตทันที

“มารดามันเถอะ…”

จอมมารจันทราโลหิตแทบจะกระโดด

สตรีนางนี้ ทำไมถึงได้มีอาวุธสังหารเยอะนัก?

หยกทรงกลมประหลาดพวกนี้ เทียบได้กับการโจมตีสุดกำลังของผู้แข็งแกร่งขั้นฟ้าประทาน น่ากลัวเป็นที่สุด สี่ลูกนี้ก่อนหน้าทำเอาเขามือเท้าเป็นระวิง ร่างกายชาด้าน สายฟ้าสีม่วงในร่างยังสลายไม่หมด แล้วนี่ยังปล่อยมาอีกสิบลูก?

สมบัติหายากชนิดนี้ ไม่ต้องใช้เงินซื้อหรือไร?

เขาที่มีพลังมารขั้นสูง ออกจากปิดด่านฝึกตนมาอย่างมั่นใจยิ่ง ทำอะไรระมัดระวังเสมอ ครั้งนี้หลี่มู่ต้องออกห่างไปเพราะถูกขั้นเหนือมนุษย์ท้ารบ เขาจึงถือโอกาสลงมือ คิดจะจับตัวฮวาเสี่ยงหรง แต่ว่า…ทำไมสถานการณ์กลับกลายเป็นเช่นนี้ไปได้?

ตูม ตูม ตูม!

เสียงระเบิดทั่วฟ้าดังขึ้น หยกทรงกลมระเบิดออก พลังรัดสังหารอันน่ากลัวปกคลุมทั่วทั้งร่างจอมมารจันทราโลหิต

กระแสสายฟ้าสีม่วงกระจายทั่วรัศมีราวสิบจั้ง กลายเป็นทะเลสายฟ้าผืนหนึ่ง

“ฮวาเสี่ยงหรง เจ้า…” เสียงโกรธระคนตกตะลึงของจอมมารจันทราโลหิตดังแว่วออกมาจากทะเลสายฟ้า

คนที่อยู่รอบๆ ต่างมองฉากนี้ด้วยอาการตาค้างพูดไม่ออก

นี่มัน…เกินจริงไปหน่อยหรือไม่?

ใครๆ ต่างก็มองออกว่า ที่ฮวาเสี่ยงหรงสู้ได้อย่างร้ายกาจเช่นนี้ เป็นเพราะหยกทรงกลมสีเขียวมรกตนั่นมีพลังน่ากลัวของสายฟ้าม่วงอยู่ นี่ไม่ใช่วิชาของฮวาเสี่ยงหรงเอง แต่ถูกซ่อนเอาไว้ในหยกทรงกลมอยู่แล้ว ทว่าคนอย่างฮวาเสี่ยงหรง แค่ลงมือก็ใช้หยกทรงกลมพลังเท่ากันกว่าสิบลูกได้ นี่ก็น่ากลัวมากแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา