เนตรสวรรค์กวาดผ่าน มองทะลุบันทึกเก่าที่ดูโบราณยิ่ง หลี่มู่มองเห็นว่าข้างในของบันทึกจากวัสดุประหลาดเล่มนี้มีชั้นประกบซ้อนอยู่ด้วย ข้างในชั้นซ้อนเป็นภาพพิลึก เหมือนจะเป็นแผนที่ดาว แต่ก็เหมือนภาพทิวทัศน์ ซับซ้อนเข้าใจยาก แต่ตัวอักษรด้านบนสุดต่างหากถึงจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หลี่มู่ตกตะลึงอย่างแท้จริง
ภาพไท่เสวียนผมขาว
ภาพผืนนี้มีชื่อว่า ‘ภาพไท่เสวียนผมขาว’
เหตุที่หลี่มู่อึ้งตะลึง เป็นเพราะอักษรเหล่านี้ไม่ใช่ตัวอักษรของโลกใบนี้
แต่เป็น…ตัวอักษรจีนของโลก
“เป็นไปได้อย่างไร?”
หรือจะมีของจากยุคโบราณบนโลกลอยมาถึงดาวดวงนี้?
หลี่มู่ทั้งตกใจและแปลกใจ
นี่เป็นการค้นพบที่ไม่คาดคิดจริงๆ
เขาโคจรเนตรสวรรค์ สังเกตอย่างละเอียด
ไม่นานก็ค้นพบอะไรใหม่
‘ภาพไท่เสวียนผมขาว’ ในวัสดุโบราณยิ่งชัดเจนขึ้นทุกที แต่หลี่มู่มองเห็นว่าก่อนนี้ตัวเองดูผิดไปแล้ว นั่นไม่ใช่ชั้นซ้อน แต่เป็นงานฝีมือที่ประณีตอัศจรรย์อย่างยิ่ง ผสาน ‘ภาพไท่เสวียนผมขาว’ ลงในวัสดุของ ‘ทฤษฎีนึกนิมิตบูชาเก้าสวรรค์’ โดยตรง
ดังนั้น ต่อให้ฉีกบันทึกเล่มนี้ไปก็ไม่มีทางหา ‘ภาพไท่เสวียนผมขาว’ พบ มีเพียงการกวาดมองทะลุผ่านด้วยเนตรสวรรค์เท่านั้นถึงจะมองเห็นได้
มิฉะนั้นละก็ ในเมื่อภาพนี้เป็นของสมบัติล้ำค่าของเชื้อพระวงศ์จักรวรรดิฉินตะวันตก ขนาดจักรพรรดิฉินตะวันตกยังเอ่ยปากชม พวกผู้แข็งแกร่ง อัจฉริยะ และผู้มีฐานะสูงมากอำนาจของราชวงศ์มากมายจะต้องศึกษากันแล้วแน่นอน หากเป็นแค่ชั้นซ้อนชั้นหนึ่งคงมีใครค้นพบไปนานแล้ว ไม่มีทางตกอยู่ในมือองค์หญิงเบื้องหลังหวางเฉินผู้ล้มเหลวคนนั้น แล้วสุดท้ายก็ส่งต่อมาถึงตนแน่นอน
‘ภาพไท่เสวียนผมขาว’ น่าจะเป็นสิ่งที่เหล่าเชื้อพระวงศ์บอกว่าแฝงไว้ด้วย ‘แก่นแท้พลังฟ้าดินสูงสุดของยุคสมัย’ กระมัง หรือก็คืออดีตมีคนเคยมองทะลุเห็นภาพนี้ แต่ภายหลังแก่นแท้ของภาพหายสาบสูญ คนรุ่นหลังจึงไม่รู้แม้แต่การมีอยู่ของ ‘ภาพไท่เสวียนผมขาว’ แล้ว
หลี่มู่ไม่สับสนว่าทำไมบนภาพถึงมีตัวอักษรของโลกอีกต่อไป
เขาเริ่มขบคิดว่าใน ‘ภาพไท่เสวียนผมขาว’ จะแฝงแก่นแท้อะไรเอาไว้
ความสงสัยใคร่รู้ของเขาสูงมากทีเดียว
เขาชอบขบคิดเรื่องที่แฝงไว้ด้วยความลึกลับพิสดารเช่นนี้เป็นที่สุด
“เหมือนจะเป็นภาพนึกนิมิตร…ภาพนึกนิมิตรที่มาจากโลก?”
ถึงแม้วิชานึกนิมิตบางอย่างก่อนหน้านี้ หลี่มู่ฝึกฝนแล้วไม่ได้ผลใดๆ แต่ด้านวิธีนึกนิมิตรเขากลับรู้แจ้งดีแล้ว ครั้นดูให้ละเอียดก็พบว่า ‘ภาพไท่เสวียนผมขาว’ ภาพนี้น่าจะเป็นภาพนึกนิมิตรเช่นกัน
การค้นพบนี้ทำให้หลี่มู่ผิดหวังเล็กน้อย
เพราะการทดลองก่อนหน้านี้ได้พิสูจน์แล้วว่า เขาไม่มีพรสวรรค์ด้านการนึกนิมิตรเลยแม้แต่น้อย
แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะมองมันอีกสักนิด
ในเมื่อเป็นภาพที่ซ่อนความหมายเอาไว้ลึกซึ้งและมีอุบายมากถึงเพียงนี้ ซ้ำยังมีความเกี่ยวข้องกับโลกอีก ถึงมองสักนิดก็ไม่ได้เสียเวลาอะไรมากมาย
หลี่มู่กวาดเนตรสวรรค์ศึกษาอย่างละเอียด
บน ‘ภาพไท่เสวียนผมขาว’ พื้นดำสนิทราวผืนฟ้าดวงดาวอันมืดมิด แสงสีขาวนับไม่ถ้วนเรียงรายเต็มไปหมดด้วยวิธีแปลกที่ไร้ลำดับขั้นตอน ในนั้นยังมีบางสีสันกระจัดระจาย เหมือนภาพสะบัดหมึกแบบเอ็กซ์เพรสชันนิสม์ในยุคปัจจุบัน ประหลาดพิลึกเป็นอย่างมาก
ตอนแรกเขามองอะไรไม่ออก
แต่ไม่นาน หลี่มู่ก็พลันรู้สึกว่าภาพเบื้องหน้าหายไป ภาพนั้นกลายเป็นห้วงจักรวาลที่ลึกล้ำและกว้างไพศาล ตัวเขาทั้งตัวจมดิ่งในท้องฟ้าดาราผืนนี้ทันที จมดิ่งชั่วนิจนิรันดร์ จมดิ่งลงไปเรื่อยๆ…
หลี่มู่เข้าสู่สภาวะฌานแล้ว
……
“แม่นางฮวา”
สวี่เอ้อร์คำนับอย่างนอบน้อม
ชิงเฟิงพาเขามาพบซ่างกวนอวี่ถิงที่เรือนด้านหลังที่ว่าการ
“พี่สวี่เอ้อร์ ท่านมาได้อย่างไร? มากับท่านแม่ไป๋หรือ? นางอยู่ที่ไหน?” เมื่อได้พบคนเก่าคนแก่ ซ่างกวนอวี่ถิงดีใจมาก ตื่นเต้นมาก
“ท่านแม่ไป๋ไม่ได้มา ข้ามาเพื่อส่งจดหมายขอรับ” สวี่เอ้อร์เคารพนบนอบอย่างยิ่ง
ตอนนั้นที่ฮวาเสี่ยงหรงอยู่หอสดับเซียน นางอ่อนโยนมีเมตตา ชอบช่วยเหลือผู้คน ช่วยคนในหอสดับเซียนเอาไว้มากมาย สวี่เอ้อร์ก็เป็นคนที่เคยได้รับบุญคุณจากฮวาเสี่ยงหรงเช่นกัน เห็นนางมีชีวิตไม่เลว ในใจของเขาก็รู้สึกดีใจแทนหญิงผู้งดงามจิตใจดีคนนี้
เป็นเด็กสาวที่อ่อนโยนมีเมตตาเหมือนกันแท้ๆ เหตุใดชะตาชีวิตของพี่ฉิงเอ๋อร์ถึงได้รันทดขนาดนั้น?
ซ่างกวนอวี่ถิงได้ยินว่าไป๋เซวียนไม่มาก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย นางถามขึ้นอีกว่า “ท่านแม่ไป๋กับพี่น้องทุกคนสบายดีหรือไม่?” ในอดีตยามอยู่หอสดับเซียน นางมีสหายรู้ใจอยู่บ้าง
“ทุกคนสบายดี เพียงแต่…” สวี่เอ้อร์ลังเลเล็กน้อย ก่อนจะเล่าเรื่องการตายของฉิงเอ๋อร์ให้ฟัง
ซ่างกวนอวี่ถิงได้ยิน สีหน้าก็แปรเปลี่ยนไปทันที
“เป็นไปได้อย่างไร น้องฉิงเอ๋อร์นาง…” นางรับได้ยากอยู่บ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา