ฉินฝาน ชื่อนี้หลายคนอาจไม่คุ้น
แต่หวงเหวินหย่วนที่เกิดอยู่ในตระกูลระดับสูงอย่างสำนักทุ่งปิดภูผาไม่มีทางไม่รู้ นี่คือชื่อขององค์ชายสองผู้ตำแหน่งสูงอำนาจมากแห่งจักรวรรดิ
องค์ชายสองถูกเจ้าคนบ้าข้างหน้านี่สังหาร
และหากพูดกันอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นฐานะ ตำแหน่ง หรือพลังฝึก องค์ชายสองล้วนแต่อยู่เหนือเขา เจ้าบ้านี่กล้าสังหารแม้แต่องค์ชายสอง เช่นนั้นไม่ใช่ว่า…
หวงเหวินหย่วนลนลานไปในทันที
ประโยคนี้ของหลี่มู่โจมตีจิตใจของเขาได้มากกว่าคำข่มขู่มากมายที่เขาพูดไปเสียอีก
และยิ่งเป็นคนจองหองอวดดี เป็นคนที่ไม่คิดว่าชีวิตคนอื่นสำคัญ เมื่อเผชิญหน้ากับความตายอย่างแท้จริง ก็จะยิ่งดูน่าอนาถกว่าคนทั่วไป
หน้าผากหวงเหวินหย่วนมีเหงื่อเย็นซึมชื้น รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมบนใบหน้าแข็งค้าง เขามองใบหน้าเย็นชาของหลี่มู่ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างติดๆ ขัดๆ “เจ้า…อย่าวู่วาม องค์ชายสองพูดได้ว่าตายเพราะสงครามภายใน จักรพรรดิยังไม่ออกจากปิดด่านฝึกตน ดังนั้นจึงยังไม่มาจัดการเจ้า แต่หากเจ้าฆ่าข้า ข้าคือคนที่ท่านปู่รักที่สุด ท่านจะต้องลงมือแก้แค้นแทนข้าแน่นอน…”
หลิวฉงที่อยู่ข้างๆ ก็เคร่งเครียดเป็นอย่างมากเช่นกัน
รองเจ้าสำนักหวงเซิ่งอี้ให้เขามาอำเภอขาวพิสุทธิ์ก็เพื่อสนับสนุนหวงเหวินหย่วน หากหวงเหวินหย่วนมาตายอยู่ที่นี่ แม้หลี่มู่จะแข็งแกร่งเกินไป แต่ถึงตอนนั้นเกรงว่าเขาก็หนีไม่พ้นความผิดเหมือนกัน ทั้งยังไม่อาจให้คำตอบได้
คิดถึงตรงนี้ เขาก็ไม่กล้ายั่วยุหลี่มู่เท่าใดนัก
มารดามันสิ เจ้าขุนนางเมืองคนนี้เป็นวิปลาสจริงๆ ด้วย
“ใต้เท้าหลี่ พวกเรายังไม่ถึงขั้นปรับความเข้าใจกันไม่ได้ อย่าบุ่มบ่ามเลย” หลิวฉงเองก็ปาดเหงื่อเหมือนกัน “ท่านปล่อยคุณชายหวงก่อน พวกเรามีอะไรค่อยๆ พูดค่อยๆ จากัน เป็นคำสั่งของราชสำนักให้คุณชายหวงมาแทนตำแหน่งขุนนางเมืองของท่าน ไม่ใช่พวกเราแย่งตำแหน่งท่านมา”
หลี่มู่มองหลิวฉง “เจ้ายังไม่เข้าใจอีกรึ นี่ใช่เรื่องเป็นหรือไม่เป็นขุนนางเมืองหรือ?”
หลิวฉงนิ่งอึ้ง จากนั้นสีหน้าก็ย่ำแย่
หลี่มู่ทำไปเพื่อประชาชนชั้นต่ำที่ตายไปทั้งสิบหกคนจริงๆ ไม่ใช่หาข้ออ้าง?
หลิวฉงกลืนน้ำลายลงคอ “ข้าเข้าใจความหมายของใต้เท้าหลี่ เพียงแต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณชายหวง และก็ไม่มีหลักฐานแสดงชัดเจนว่าคุณชายหวงสังหารพวกเขา ข้า…”
“หลักฐาน” หลี่มู่แค่นหัวเราะเสียงเย็น “ตาแก่ เจ้าคงจะแก่จนเลอะเลือนแล้วสินะ ตอนนี้ข้าพูดกับเจ้าเรื่องหลักฐานรึไง? เป็นไอ้สารเลวนี่ทำหรือเปล่า ใจเจ้ารู้ดีไม่ต้องมาทำไก๋?”
อะไรคือมาทำไก๋?
หลิวฉงผู้เป็นดั่งเทพเซียนไม่รู้ แต่จะต้องไม่ใช่คำที่ดีอะไรแน่
เขาเกลี้ยกล่อม “ใต้เท้าหลี่ อย่าได้วู่วามไป เรื่องนี้จะต้องตรวจสอบก่อนสักหน่อย หากเป็นการกระทำของคุณชายหวง…”
หลี่มู่ตัดบทเขาอีก “อะไรคือหากว่า? จิตสังหารกับกลิ่นคาวเลือดบนร่างของเจ้านี่ชัดเจนถึงขนาดนี้ มันฆ่าคนไม่เกินสองชั่วยาม ยังจะมาแก้ตัวอะไรอีก? พูดเรื่องนี้กับข้าไม่คิดว่ามันตลกไปหน่อยรึ?”
หลิวฉงถอนหายใจยาว ไม่พอใจหวงเหวินหย่วนเท่าไรนัก
แต่เดิมแค่รอหลี่มู่ออกจากเก็บตัว ฉวยโอกาสยามเขายังไม่ทันตั้งตัวลงมือสังหารเลยก็ได้แล้ว ทำไมต้องรั้นไปฆ่าประชาชนชั้นต่ำที่ไม่สำคัญอะไรเลยพวกนั้น ตอนนี้แหวกหญ้าให้งูตื่น หลี่มู่ได้เตรียมตัว…ถึงกระนั้น เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเอ่ยโทษหวงเหวินหย่วนคนไม่ได้ความ
“จะต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่” หลายปีมานี้ หลิวฉงเคยคับแค้นใจขนาดนี้เสียที่ไหนกัน เขาพูดอย่างระมัดระวัง “ที่ใต้เท้าหลี่พูดเช่นนั้นเมื่อครู่ ข้าก็สัมผัสได้เช่นกัน ทว่าจะต้องเป็นองครักษ์หน้าบากนี่แน่ ตัวเองไม่พอใจเพราะการกระทบกระทั่งกันก่อนหน้านี้ จึงลงมือเองโดยพลการ คุณชายหวงถูกปกปิด ไม่รู้เรื่องราว…”
หวงเหวินหย่วนรีบร้อนพูดขึ้นด้วยตาเป็นประกาย “ใช่ๆๆ ใต้เท้าหลี่ เรื่องนี้ข้าไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย ข้าถูกปิดบัง มีอะไรพวกเราคุยกันดีๆ องครักษ์คนนี้ชื่อจ่านเฟย ก่อนหน้านี้เป็นโจรสลัดที่เที่ยวเข่นฆ่าผู้คนมากมาย หลังจากข้ากำราบเขาได้ ก็ให้เขาคอยติดตามข้างกายข้า ให้กลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ ใครจะรู้ว่าสันดานแก้ยาก เขาทำเรื่องเช่นนี้ออกมา ข้าไม่ปล่อยเขาไว้แน่…”
หลี่มู่ถ่มน้ำลายรดหน้าเขา กล่าวกลั้วเสียงหัวเราะหยัน “คนสองคนที่เป็นถึงผู้แข็งแกร่งขั้นเหนือมนุษย์ กลับพูดจาเหลวไหลหน้าด้านๆ เพื่อที่จะมีชีวิตรอด ข้าละอายใจแทนพวกเจ้าเสียจริงๆ นี่หรือคือนักรบของทุ่งปิดภูผา? พวกเจ้าทำให้สำนักเทพต้องขายขี้หน้าแล้ว”
คิ้วขาวของหลิวฉงกระตุก เพลิงโทสะในใจลุกโหม
หวงเหวินหย่วนทั้งร้อนใจทั้งโมโห
เขาถูกด่าจนไม่เหลือชิ้นดี แต่จนแล้วจนรอดกลับไม่กล้าโต้เถียง
“แต่เดิมข้าก็ไม่คิดจะพูดด้วยเหตุผลกับพวกเจ้าอยู่แล้ว แต่ในเมื่อพวกเจ้าขี้ขลาดจนถึงขั้นนี้ เช่นนั้นก็…” หลี่มู่ชี้ไปที่องครักษ์ผมขาวหน้าบากที่หมดสติไปแล้ว ก่อนจะสั่งการ “ใครก็ได้ ปลุกมันขึ้นมา”
เฝิงหยวนซิงกัดฟัน หิ้วถังน้ำเย็นมาด้วยตนเองก่อนจะสาดโครมลงไปยังองครักษ์ผมขาวหน้าบาก
เขาก็ตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะเดินตามรอยหลี่มู่ให้ถึงที่สุดไปเสีย
“อ๊าก…” องครักษ์ผมขาวหน้าบากค่อยๆ ตื่นขึ้น ก่อนจะส่งเสียงร้องเจ็บปวด ครั้นสายตาหยุดอยู่ที่ร่างของหลี่มู่ ก็อ้าปากจะก่นด่า
หลี่มู่แค่นหัวเราะเสียงเย็น “ทางที่ดีเจ้าคิดให้ดีก่อนแล้วค่อยอ้าปาก”
เจอสายตาเย็นเยียบราวดาบของหลี่มู่กวาดเข้าไป ใจขององครักษ์ผมขาวหน้าบากสั่นสะท้าน คำด่าที่จะด่ากลับพูดไม่ออกสักคำ ซ้ำหวาดกลัวอย่างไม่มีเหตุผล
หลี่มู่เหยียบไปที่ขาของหวงเหวินหย่วน ฝ่ายหลังร้องอย่างบ้าคลั่งดั่งหมูถูกเชือด หลี่มู่บอก “หยุดร้องได้แล้ว…พูด พูดอย่างที่เจ้าพูดเมื่อกี้นี้อีกรอบ”
ในใจของหวงเหวินหย่วนอยากจะสับหลี่มู่ให้เป็นหมื่นๆ ชิ้น แต่สถานการณ์บีบบังคับ เขาจำต้องก้มหัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา