เมื่อหนึ่งชั่วยามก่อน หลังจากตรวจสอบเอกสารหินดาราที่เจิ้งฉุนเจี้ยนส่งมาแล้ว หลี่มู่ก็แก้ยันต์เป็นตายในกายของเจิ้งฉุนเจี้ยนให้ และปล่อยตัวเขาไปแล้ว
นี่นับว่าสิ้นสุดความสัมพันธ์นายบ่าวของทั้งสองคนโดยสมบูรณ์
นับจากนี้ต่างคนต่างไป ต่างคนต่างเดิน
นี่ไม่ใช่ว่าใจเมตตาของหลี่มู่กำเริบขึ้นมา
ถึงแม้ตอนนั้นเจิ้งฉุนเจี้ยนจะสร้างความเดือดร้อน ก่อเวรกรรมในอำเภอขาวพิสุทธิ์ แต่หลายวันที่ผ่านมาถูกยันต์เป็นตายทรมานตามเวลา ก็นับว่าได้ชดใช้แล้ว อย่างไรเสียก็เป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตากัน หากใช้ดาบฟันฉับจะเป็นการโหดร้ายเกินไป หลี่มู่ลงมืออย่างเหี้ยมโหดกับคนคุ้นเคยไม่ลง
อีกทั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ตอนนี้เวลาหลี่มู่ใช้เจิ้งฉุนเจี้ยนก็ไม่วางใจขึ้นทุกทีแล้ว
นี่ไม่ใช่ว่าเจิ้งฉุนเจี้ยนไม่กลัวการข่มขู่จากยันต์เป็นตาย
แต่เป็นเพราะเจ้านายเบื้องหลังซิ่วไฉใจเหี้ยมอย่างเจ้าเมืองฉางอันหลี่กังเริ่มปรับท่าทีต่อหลี่มู่ต่างหาก
ก่อนหวงเหวินหย่วนจะตาย หลี่กังมองว่าตนเองเป็นผู้ถือหมากสูงส่ง เป็นคนวางหมาก หลี่มู่เป็นแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น ต่อให้ภายหลังหลี่มู่ทะลวงขั้นฟ้าประทาน สู้กับขั้นเหนือมนุษย์ ก็แค่กลายเป็นหมากที่เก่งกาจขึ้นมาอีกนิดเท่านั้น
แต่ว่า เมื่อหลี่มู่มีพลังที่ต้านทานขั้นเทวะได้ ไม่ว่าพลังนั้นจะเป็นพลังที่เขาครอบครองหรือยืมมาจากวัตถุภายนอก สำหรับหลี่กังก็ล้วนหมายถึงว่าหมากเม็ดนี้เริ่มไม่อยู่ในการควบคุมแล้ว
หมากที่ไม่อยู่ในการควบคุม หลี่กังยังจะลอบสนับสนุนอีกไหมเล่า?
ไม่มีทางแน่นอน
นอกเสียจากหลี่กังจะเป็นคนโง่งม
ดังนั้นภายใต้ภูมิหลังเช่นนี้ เจิ้งฉุนเจี้ยนเป็นสุนัขรับใช้ของหลี่กัง ข่าวที่เขาส่งให้หลี่มู่จะจริงกี่ส่วนปลอมกี่ส่วน? ต่อให้เจิ้งฉุนเจี้ยนหวาดเกรงต่อความน่ากลัวของยันต์เป็นตาย แต่เขาจะไม่กลัวหลี่กังหรืออย่างไร?
คนที่คอยรองรับอารมณ์ทั้งสองฝ่าย ไปไหนมีแต่คนสาปส่ง ข่าวที่ส่งมาหลี่มู่เชื่อถือได้มากน้อยเท่าใด?
ดังนั้นหลี่มู่มิสู้ ‘ปล่อยสัตว์เอาบุญ’ เสียให้สิ้นเรื่องไป
ไสหัวไปให้ไกล ไปเล่นเป็นเพื่อนชายชั่วตรงนู้นเลย ข้าไม่ต้องการเจ้าแล้ว
นี่คือความคิดของหลี่มู่
และในตอนนี้ หลังสังหารพวกหวงเหวินหย่วนก็ผ่านมาสามวันแล้ว
ในสามวันที่ผ่านไป หลี่มู่หยุดฝึกฝนตามกิจวัตร ทำแค่เรื่องเดียวคือ…ทำให้ค่ายกลฮวงจุ้ย ‘จุดรวมมังกร’ สมบูรณ์ ยกระดับความเสถียรและพลังของมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลี่มู่เคยพูดไว้ว่า ในอำเภอขาวพิสุทธิ์เขานั้นไร้พ่าย
ประโยคนี้ไม่ได้วางท่าอวดดี
แต่กำลังบอกเล่าเรื่องจริง
นับจากที่ค่ายกลฮวงจุ้ย ‘จุดรวมมังกร’ สำเร็จในขั้นแรกเมื่อเดือนกว่าๆ ก่อนหน้านี้ พลังฮวงจุ้ยในเทือกเขาขาวพิสุทธิ์และพลังวิญญาณฟ้าดิน ก็มีอำเภอขาวพิสุทธิ์…ถ้าจะพูดให้ถูกคือมี ‘ค่ายกลกดาราพิฆาต’ ในอาณาเขตที่ว่าการเก่าเป็นศูนย์กลาง คอยรวบรวมพลังชีพจรมังกรและพลังแห่งเทือกเขาในอาณาบริเวณเกือบพันลี้มา พลังที่อยู่ข้างในนั้นน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
หลี่มู่ใช้ ‘ตราประทับห้าธาตุพลิกนภา’ เป็นสื่อนำ ยืมพลังของค่ายกลฮวงจุ้ย ‘รวมมังกร’ มา ทำให้แข็งแกร่งไม่แพ้ขั้นเทวะเลย
ต่อให้ผู้แข็งแกร่งขั้นเทวะมา หลี่มู่ก็ไม่กลัว
นี่หมายถึงไร้พ่ายในความหมายอย่างหนึ่งแล้ว
จุดบอดอยู่ที่ หากออกจากเทือกเขาขาวพิสุทธิ์ไปยังโลกภายนอก เช่นนั้นหลี่มู่ก็ยืมพลังนี้ไม่ได้ กำลังรบจะคืนสู่ระดับของเดิมของตนคือขั้นฟ้าประทานสูงสุด อย่าว่าแต่เจอขั้นเทวะเลย ต่อให้เป็นขั้นเหนือมนุษย์ก้าวสองขึ้นไปก็คงต้องคุกเข่าให้ ณ ตรงนั้นเลย
แต่ว่าคนชั่วช้าอย่างหลี่มู่ หากไม่มั่นใจแล้วจะออกไปจากอำเภอขาวพิสุทธิ์ทำไมเล่า?
นี่ก็คือปัจจัยที่มั่นใจที่สุดซึ่งทำให้หลี่มู่กล้าสังหารหวงเหวินหย่วน
และเหตุที่วันนั้นสำแดงพลังเช่นนี้ออกมา จุดประสงค์ของหลี่มู่แน่นอนว่าการวางท่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่สุดคืออยากจะปลอบขวัญประชาชนในอำเภอขาวพิสุทธิ์ มิฉะนั้นต่อให้เป็นพวกเฝิงหยวนซิงหม่าจวินอู่ ก็เกรงว่ายากจะต้านรับความกดดันที่บุคคลยิ่งใหญ่จากทุ่งปิดภูผานำมาให้ แล้วนับประสาอะไรกับชาวบ้านธรรมดา?
อำเภอขาวพิสุทธิ์เป็นจุดยุทธศาสตร์ในแผนการของหลี่มู่
สะเก็ดไฟเล็กๆ หากอยากจะเผาป่าก็ต้องเก็บเชื้อไฟเอาไว้
หลี่มู่ยังต้องหาทางร้อยใจผู้คนเอาไว้
มิฉะนั้นหากใจคนกระจัดกระจาย กองทัพก็ควบคุมไว้ยาก
เวลาหลายวันนี้ สำหรับหลี่มู่แล้วสำคัญมาก
ครั้งแรกหลังจากใช้พลังค่ายกลฮวงจุ้ย ‘จุดรวมมังกร’ หลี่มู่ก็พบข้อบกพร่องต่างๆ ของค่ายกลที่ตนวางเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงแก้ไขปรับปรุงทั้งวันทั้งคืนมาโดยตลอด
ในเทือกเขาขาวพิสุทธิ์มีแขนงค่ายกลเล็กๆ ใหญ่ๆ หลายพันค่ายกล หลี่มู่เหมือนวิศวกรผู้ขยันขันแข็ง ตรวจแก้ค่ายกลทุกค่ายกลทีละรอบ ค่ายกลฮวงจุ้ย ‘จุดรวมมังกร’ อันซับซ้อนมีลำดับเหมือนกับการสร้างเครื่องจักรกลเครื่องหนึ่งขึ้นมาจริงๆ จำเป็นต้องตรวจแก้ ลองใช้ และตรวจแก้อีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา