ไม่เพียงแค่ความรู้สึกอ่อนแอจากการสูญเสียพลังฟ้าดินเท่านั้น
แทบจะในเวลาเดียวกัน พลังฟ้าดินทั่วทั้งเมืองคล้ายหยุดนิ่งลง ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างตรงเข้ามาบีบเขาเอาไว้
พลังแห่งฟ้าดินที่ยิ่งใหญ่มหาศาลนี้ราวกับบึงน้ำ ทำให้ ‘เทพมารเพลิง’ หวงเซิ่งอี้เป็นเหมือนมดที่อยู่กลางบึง ดิ้นรนขัดขืนไม่ได้เลย
ต่อให้เป็นครึ่งขั้นเทวะ ก็ยังตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบในพริบตาเดียว
“ยืนอยู่ตั้งสูงปานนั้น…ลงมาเถอะเจ้าน่ะ”
หลี่มู่กระโดดขึ้นมา ท่าทางบ้าคลั่งดุจลิงตัวผู้กระโดดขึ้นเด็ดลูกท้อ เพียงมือคว้า ก็ลาก ‘เทพมารเพลิง’ หวงเซิ่งอี้ที่ยืนนิ่งอยู่ลงมาจากกลางอากาศ
“เจ้า…บังอาจนัก”
หวงเซิ่งอี้สติหลุดไปชั่วขณะ ตั้งตัวไม่ทัน จึงถูกซัดร่วงลงมาบนพื้น ผิวดินถูกกระแทกเป็นหลุมลึก ล้มลงหน้าพังพาบ ถึงค่อยได้สติกลับคืนมา
แต่ว่าเขาก็ยังมีปฏิกิริยาที่ฉับไว ขณะตกใจและโกรธเกรี้ยว เขายังไม่ยอมลุกขึ้นมา ทว่าพลิกฝ่ามืดชกอัดอากาศ ระเบิดตรงเข้าใส่ขมับของหลี่มู่ที่กำลังก้มลงมาจับตน
ทั่วทั้งหมัดมีเปลวเพลิงสีแดงฉานลุกท่วม
หวงเซิ่งอี้ฝึกฝนวิชาเทพเพลิง นึกนิมิตออกมาได้เป็นปราณแท้อัคคี เสริมพลังให้กับร่างกายตนเอง ในบรรดาห้าธาตุ ไฟเป็นพลังที่มีอานุภาพทำลายแข็งแกร่งที่สุด
ครึ่งขั้นเทวะนั้นไม่เหมือนกับขั้นเหนือมนุษย์ ถึงแม้จะสูญเสียการควบคุมพลังฟ้าดิน ก็ยังมีพลังสังหารระยะประชิดที่น่ากลัว หมัดนี้ที่เสริมพลังไฟเข้าไป มีแรงทำลายระดับเบิกฟ้าทลายหิน
หากเป็นขั้นเหนือมนุษย์ก้าวสามลงมา เมื่อเจอกับหมัดนี้จะทำได้เพียงหลบฉากหรือถอยหนีเท่านั้น
ทว่าหลี่มู่กลับหาญกล้าผิดปกติ หัวเราะฮี่ๆ จากนั้นยกมือกำหมัดซัดออกไปตรงๆ
ตูม!
กลางอากาศ คลื่นพลังปราณที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าสาดออกมาพร้อมด้วยเปลวเพลิงสีแดงฉาน
กร๊อบ
เสียงกระดูกหักดังสนั่นขึ้นในพริบตา กำปั้นของหวงเซิ่งอี้มีเลือดสดสาดกระเซ็น ข้อมือหัก กระดูกชิ้นหนึ่งแทงทะลุเนื้อหนังออกมา
แต่เขาก็เพียงแค่เลิกคิ้วขึ้น ในดวงตามีประกายความตกใจ และออกหมัดต่อด้วยสีหน้าโหดเหี้ยมทันที ประหนึ่งว่ากำปั้นที่หักไปนั้นไม่ใช่ของตนเอง ห้าวหาญดุดัน ดุร้ายอย่างถึงที่สุด
“โอ้โห? ตาเฒ่าคนนี้กล้าหาญเสียจริง” หลี่มู่ก็ตกใจกับความอาจหาญของหวงเซิ่งอี้เช่นกัน
แต่ว่าเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าเด็กต้องเคารพคนแก่อะไร สำหรับผู้แข็งแกร่งที่ผ่านมาร้อยศึกเช่นนี้ ต้องรีบจัดการให้ราบคาบหลังจากอยู่ในจุดได้เปรียบ มิเช่นนั้นหากอีกฝ่ายตั้งสติกลับมาได้ แล้วยังมีไพ่เด็ดอะไรซ่อนเอาไว้อีกเล่า?
“สาดกระสุนปิดฉากนกกระจอกเฒ่า…เอ่อ ไม่สิ ต้องเป็นสาดหมัดปิดฉากอาจารย์เฒ่า” หลี่มู่ตะโกนขึ้นมา “จงดูหมัดสังหารต่อเนื่องร้อยแปดท่าของข้าเสีย”
เขาย่อตัวแล้วพุ่งเข้าไป ส่งหมัดราวฝนกระหน่ำซัดสาดออกไปอย่างบ้าคลั่ง
หลังผ่านการชำระล้างของ ‘หมัดยุทธ์แท้’ พลังกายของหลี่มู่ก็เป็นสิ่งพิสดารมาโดยตลอด เพียงแต่ในศึกใหญ่ช่วงนี้ ขณะที่ต่อสู้เขาล้วนใช้ดาบวัฏจักร วิชาดาบกับตราประทับห้าธาตุพลิกนภา ดังนั้นคนอื่นจึงค่อยๆ ลืมไปแล้วว่าพลังกายของหลี่มู่นั้นน่ากลัวขนาดไหน
ในตอนแรกสุด เขาก็ใช้เพียงหมัดคู่เดียวซัดเจียวที่กำลังจะกลายร่างเป็นมังกรจนกระเจิงไป
ในเมืองขาวพิสุทธิ์ พลังฟ้าดินหยุดนิ่งลงด้วยหนึ่งความคิดของเขา หวงเซิ่งอี้ไม่สามารถใช้งานพลังฟ้าดินได้ พลังฝึกถูกบั่นออกไปถึงเก้าส่วน ถึงแม้ ‘เทพมารเพลิง’ คนนี้จะมีประสบการณ์การต่อสู้โชกโชน ช่วงหลายสิบปีมีพลังขั้นเทวะคอยชุบเลี้ยงกายเนื้อ ร่างกายก็ยังอยู่ในขั้นแข็งแกร่งยิ่ง แต่ในสายตาของหลี่มู่ ยังห่างชั้นกันอยู่หลายขุม
ผัวะๆๆ
แขนทั้งสองของหวงเซิ่งอี้กระดูกหักจนยกไม่ขึ้น ใบหน้าถูกหมัดซัดอย่างหนักหน่วงหลายสิบที กลายเป็นตาหมีแพนด้า เลือกกำเดาไหลออกมาเป็นทาง…
“ย้ากๆๆ…” เขาโกรธจนร้องลั่น เลยคำว่าโมโหไปแล้ว
เมื่อไรกันที่คนสูงส่งอย่างเขา ต้องมาถูกคนใช้วิธีทะเลาะเช่นนักเลงข้างถนนเล่นงานจนน่วมขนาดนี้?
ผู้คนที่อยู่รอบๆ ต่างถูกภาพฉากนี้ทำให้นิ่งอึ้งกันไปหมด
เกิดอะไรขึ้น?
พวกเฝิงหยวนซิงยืนมองจนทึ่มทื่อไปหมด
ชะ…ชายชราหัวล้านหน้าปูดบวมคนนี้ เป็นรองเจ้าสำนักทุ่งปิดภูผาผู้สูงส่งนั่นจริงๆ หรือ? ทำไมมองดูแล้วเหมือนยาจกเฒ่าที่กำลังถูกรังแกอยู่อย่างไรอย่างนั้น?
กระทั่งพริบตาหนึ่ง คนมากมายต่างเริ่มเห็นใจชายชราคนนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว
เบื้องบนท้องฟ้าด้านนอกอำเภอขาวพิสุทธิ์
ดวงตาทั้งคู่ของหลี่กังจ้องมองจนตาแทบจะถลนอยู่รอมร่อ
คนที่ทำการสุขุมรอบคอบมาหลายปีเช่นเขา ยังยากจะควบคุมความตกตะลึงที่โหมกระหน่ำอยู่ภายในใจของตนเองได้ นี่ไม่ใช่ภาพที่เขาจินตนาการเอาไว้เลย เขาถึงกับกระทั่งต้องยกมือขึ้นขยี้ตา เพราะคิดว่าอาจจะตาฝาดไปเอง
และ ‘เทพกระบี่ขาวพิสุทธิ์’ จ้าวเสวี่ยที่อยู่อีกฝั่งก็ยืนค้างแข็งเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เขาเพียงคาดหวัง คิดว่าหลี่มู่จะสามารถรับมือกับ ‘เทพมารเพลิง’ หวงเซิ่งอี้ได้ระยะหนึ่ง ฝืนตนเองให้ยังไม่แพ้ไปได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาก็จะลงมือ คลี่คลายความแค้นนี้เสีย และปกป้องอัจฉริยะด้านยุทธ์หลี่มู่คนนี้เอาไว้ ถึงอย่างไรเมื่อพิจารณาจากด้านอื่นๆ หนุ่มน้อยคนนี้ก็ยังเป็นคนฉลาดที่มีจิตใจและปณิธานที่ยอดเยี่ยม ส่วนเรื่องคุณธรรมประจำตัวกับความสามารถไม่ต้องพูดถึงแล้ว
แต่ทว่า ผลงานของหลี่มู่เกินกว่าสิ่งที่เขาคาดหวังไว้มาก
จนกระทั่งในพริบตานี้ จ้าวเสวี่ยกำลังคิดว่าหลี่มู่คนนี้จะเป็นร่างจำแลงของปีศาจพันปีบางตนหรือไม่ก็ร่างเงาของเทพปีศาจนอกพิภพหรือไม่?
แข็งแกร่งจนไม่สอดคล้องกับหลักการแล้ว
ส่วนจ้าวอวี่ที่อยู่ด้านหลังจ้าวเสวี่ย ดวงตาทั้งคู่แทบถลนออกมา ปากอ้าค้าง ไม่รู้ว่าสูดลมเข้าไปมากเท่าใดแล้ว มุมปากแทบจะฉีกออกไปจนถึงติ่งหู เขาตกตะลึงเสียจนความคิดสับสนวุ่นวาย
……
ผัวะๆๆ
หลี่มู่ยังคงส่งหมัดเข้าใส่อีกชุด ไม่มีเรียงลำดับท่าทางอะไรทั้งสิ้น
หวงเซิ่งอี้ฝืนต้านทาน ร่างกายโงนเงน ดูราวกับคนเมาสุรา
“ข้ารีบจริงๆ…ท่านลุง ดาบวัฏจักรของข้ายังหลอมอยู่ในเตาอยู่เลย ต้องรีบกลับไปเติมไฟอีก…ขอโทษด้วยล่ะ” หลี่มู่ร้องขึ้น ‘หมัดยุทธ์แท้’ ท่าที่หนึ่งชกออกไป
ตูม!
หวงเซิ่งอี้ถูกหนึ่งหมัดระเบิดซัดเข้าที่ท้อง ร่างงอจนเหมือนกุ้งถูกตากแห้ง ก้มลงกุมท้องตนเอง จากนั้นก็ล้มพับลงไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา