การศึกสงครามของฉินตะวันตกย่อมไม่เกี่ยวกับหลี่มู่เท่าไหร่ และก็ไม่ใช่เรื่องที่มนุษย์ดาวอื่นอย่างเขาต้องไปกลัดกลุ้มด้วย เพราะที่เป็นอยู่ตอนนี้ดูเหมือนจะเฉิดฉาย แต่จริงๆ แล้วไม่ได้ดีไปกว่าเจิ้นซีอ๋องเท่าใดเลย
ลูกศิษย์คนโตของ ‘เก้าชั้นฟ้าปิดภูผา’ หลี่พั่วเยวี่ยมาถึงอำเภอขาวพิสุทธิ์แล้ว
ชิวอิ่นได้รับการขนานนามว่าเป็นบุคคลผู้ฝึกยุทธ์อันดับหนึ่งในหมู่คนรุ่นเยาว์แห่งจักรวรรดิฉินตะวันตก โดดเด่นกว่าหนึ่งในผู้สืบทอดสำนักกระบี่สวรรค์ฉู่หนานเทียนหรือองค์ชายสองมาก ชื่อเสี่ยงก้องไกลยิ่งกว่า ผลงานยิ่งโดดเด่นยิ่งกว่า ว่ากันว่านับจากที่เขาออกท่องยุทธภพฝึกฝน สู้รบครั้งใหญ่ครั้งเล็กหลายพันครั้งก็ไม่เคยแพ้เลยสักครั้ง แม้แต่บุคคลมีชื่อที่อายุมากกว่าชิวอิ่นหลายรุ่นยังต้องแพ้ในเงื้อมมือเขา
และสิ่งที่หาได้ยากคือ คนคนนี้ถึงแม้จะเอาชนะยอดยุทธ์ผู้แข็งแกร่งในฉินตะวันตกได้ไม่น้อย แต่คำวิจารณ์ของชิวอิ่นจากยุทธจักรหรือราชสำนักกลับสูงมาก ต่อให้เป็นคนที่เขาเคยเอาชนะ เมื่อพูดถึงคนคนนี้ก็ล้วนพูดด้วยน้ำเสียงเลื่อมใส ไม่ผูกใจเจ็บกับผลแพ้ของตัวเอง กระทั่งว่าอัจฉริยะผู้หยิ่งทะนงมากมายที่เขาเอาชนะได้ สุดท้ายกลับกลายเป็นสหายของเขา
เปิดตัวฝึกฝนสิบห้าปี ท่องยุทธภพสิบห้าปี
ชิวอิ่นที่ปีนี้เพิ่งจะอายุสามสิบ มือถือ ‘ดาบปิดภูผา’ ข้างหลังสะพายซอหัวม้า[1] ที่เอวแขวนเหล้าใบไผ่กาหนึ่ง ขี่ม้าสีน้ำตาลแดง จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของเขาเลยว่า ซอหัวม้าดังกังวาน ดาบปิดภูผาทอประกาย สุราใบไผ่หวานชุ่ม ฟังเสียงซอ เห็นเพลงดาบ ดื่มสุราร้อนแรงของเขา ก็จะกลายเป็นสหายของชิวอิ่น
เพื่อสหายแล้ว ชิวอิ่นยินดียอมทำทุกอย่าง บุกน้ำลุยไฟ
เขาไม่เคยใช้ชื่ออาจารย์ซึ่งเป็นบุคคลอันดับหนึ่งด้านการฝึกยุทธ์ของฉินตะวันตกท่องยุทธภพเลย เขาปลอมตัวหลากหลายท่องไปในยุทธจักร หลังจากกล้าหาญองอาจพิทักษ์คุณธรรมแล้ว ผู้คนถึงได้รู้จักชื่อของเขา
ฉายาของเขาในยุทธจักรน่าสนใจมาก….
จอมยุทธ์ดาบ
ใช่แล้ว ฉายาของเขามีแค่คำนี้
จอมยุทธ์ดาบเป็นนิยามเอาไว้เรียกผู้ที่ใช้ดาบ แต่นับจากดาบปิดภูผาของชิวอิ่นปรากฏขึ้น จอมยุทธ์ดาบที่ผู้คนเอ่ยถึงในอาณาจักรฉินตะวันตกหรือในยุทธภพก็ค่อยๆ หมายถึงคนคนเดียว นั่นก็คือชิวอิ่น
จอมยุทธ์ดาบชิวอิ่นแห่งฉินตะวันตก จอมยุทธ์กระบี่มู่หรงไป๋แห่งซ่งเหนือ และปรมาจารย์ทวนเหอผิงแห่งฉู่ใต้
ทั้งสามคนนี้คือบุคคลอันดับหนึ่งรุ่นเยาว์ที่ดินแดนจักรวรรดิทั้งสามต่างยอมรับ
แต่ว่าตอนนี้ เหตุเพราะการปรากฏตัวขึ้นของไท่ไป๋อ๋องหลี่มู่ ชื่อบุคคลอันดับหนึ่งรุ่นเยาว์ของชิวอิ่นก็เหมือนจะเริ่มสั่นคลอน
เพราะวีรกรรมของหลี่มู่โดดเด่นมาก
ทำให้ในช่วงนี้มีบางคนคาดเดา จอมยุทธ์ดาบชิวอิ่นกับไท่ไป๋อ๋องหลี่มู่ที่ขึ้นชื่อเรื่องวิชาดาบเหมือนกันจะเปิดศึกพยัคฆ์ปะทะมังกรให้รู้ดำรู้แดงกันไปหรือไม่
และตอนนี้ เรื่องนั้นเหมือนใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว
เพราะจอมยุทธ์ดาบชิวอิ่นถือดาบขี่ม้ามาถึงอำเภอขาวพิสุทธิ์แล้ว
สายตานับไม่ถ้วนล้วนจับตาดูเรือนดาบ
ชิวอิ่นนำเจตจำนงของเทพผู้อยู่ขั้นสูงสุดของการฝึกยุทธ์ในฉินตะวันตกมาพบปฐมเทพหลี่มู่ ฝ่ายหนึ่งคือแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักฉินตะวันตก อีกฝ่ายหนึ่งเป็นตำนานที่เพิ่งผงาดขึ้นมา ระหว่างทั้งสองจะพูดจากันอย่างไร?
……
“ฮ่าๆ เหล้าดียิ่งนัก”
หลี่มู่กระดกชามอย่างสะใจ เหล้าใบไผ่ร้อนแรงดั่งไฟไหลลงลำคอไปยังอวัยวะภายใน ทั้งตัวร้อนวูบวาบเหมือนมีไฟลุกไหม้ รู้สึกสบายไปทั้งร่าง
“ได้ยินว่าดื่มสุราของจอมยุทธ์ดาบก็จะเป็นสหายของจอมยุทธ์ดาบแล้ว” หลี่มู่วางชามใหญ่ในมืออย่างช้าเนิบ มองชายมีหนวดเคราใบหน้าแดงก่ำที่นั่งขัดสมาธิโดยมีดาบปิดภูผาวางนอนอยู่บนตักเบื้องหน้า
คนผู้นี้ก็คือจอมยุทธ์ดาบชิวอิ่นนั่นเอง
เสื้อผ้าป่านหยาบๆ รองเท้าขี่ม้ามีรอยปะ ผมดำหยิกเล็กน้อยโดยธรรมชาติ คิ้วเข้มตาโต ไว้หนวดเครา ยามยิ้มเห็นฟันขาววาววับ ร่างกายกำยำใหญ่โต เหมือนกับคนจากที่ราบทุ่งหญ้า ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายองอาจป่าเถื่อนที่มีเฉพาะชาวที่ราบทุ่งหญ้าออกมา
นี่ก็คือจอมยุทธ์ดาบชิวอิ่น
ไม่เหมือนกับที่หลี่มู่คิดไว้
เขาคิดไว้อีกแบบหนึ่ง
“ยังมีอีกสองชาม” ชิวอิ่นหัวเราะ ปลดกาเหล้าทองแดงโบราณที่เอวมาถือไว้แล้วตบเบาๆ เหล้าสีเขียวมรกตพุ่งออกมาจากปากกาเหล้าราวมังกรโบยบิน
“ดี”
ชามเหล้าในมือหลี่มู่ลอยออกไปรับเหล้ามรกตเอาไว้ได้พอดี
ชามกระเบื้องหมุนวน เหล้าไม่มีกระเด็นสักหยด รับน้ำจากกาเหล้าเสร็จเรียบร้อยก็บินกลับมาในมือของเขา
“ดื่ม” หลี่มู่ยกมือ จากนั้นกระดกรวดเดียวหมด
ชิวอิ่นหัวเราะลั่น “ใต้เท้าหลี่แห่งอำเภอขาวพิสุทธิ์ช่างตรงไปตรงมาดังคาด”
เขาตบกาเหล้าเบาๆ เช่นกัน เหล้าไหลรินออกมาเข้าปากเขา
ทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอม
“ชามที่สาม” ชิวอิ่นเทเหล้าอีกรอบ
หลี่มู่ก็ไม่เกรงใจ รับชามที่สามเอาไว้แล้วกระดกดื่มจนหมด
‘หมัดยุทธ์แท้’ และ ‘วิชาก่อนกำเนิด’ เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติกายของเขา ทำให้เขาถึงระดับดื่มเหล้าไม่เมามายนานแล้ว แต่เหล้าของชิวอิ่นเข้มข้นสูงมาก ในนั้นยังมีสรรพคุณวิเศษด้วย เห็นได้ชัดว่าใช้สมุนไพรวิเศษล้ำค่าหมักบ่ม จอมยุทธ์ทั่วไปรับไม่ไหว ขนาดหลี่มู่เองยังรู้สึกมึนๆ
“ตอนนี้พวกเรานับว่าเป็นสหายกันแล้วหรือไม่?” หลี่มู่วางชามเหล้าลง
ชิวอิ่นส่ายหน้า “ยังไม่ใช่”
“เอ๋? ยังไม่ใช่อีกรึ?”
“ไม่ใช่”
“เช่นนั้นทำอย่างไรถึงจะใช่?”
“เหล้า เจ้าดื่มแล้ว แต่ดาบของข้าเจ้ายังไม่ได้เห็น” ชิวอิ่นพูดพร้อมหัวเราะร่า
พูดแล้วฝ่ามือใหญ่หยาบหนาก็กำด้ามดาบเหล็กดำของดาบปิดภูผา
ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา
หากบอกว่าชิวอิ่นเมื่อก่อนหน้านี้เป็นภูเขาไฟร้อนแรงราวกับระเบิดความร้อนออกมา เช่นนั้นในเสี้ยวพริบตาที่กำดาบ เขาก็กลายเป็นผาน้ำแข็งหมื่นปีที่เย็นเยือกสุดขั้วอยู่ลึกที่สุดในนรก
ใจสงบ เย็นเยือก หนาวเหน็บ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา