“เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่”
ซ่างกวนอวี่ถิงมองเจียงชิวไป๋ที่หน้าขาวซีด ทั้งตัวโชกไปด้วยเลือด ถามขึ้นอย่างค่อนข้างเป็นกังวล
ศึกใหญ่เมื่อครู่ช่างน่ากลัวเหลือเกิน หากไม่ใช่ว่าด้านในวิหารเทพหมาป่ามีลายสลักดาวเทพมารช่วยเพิ่มพลังให้ เกรงว่าทั้งวิหารแห่งนี้คงถูกโจมตีจนเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว
“พวกเขาสาหัสกว่าข้า” ใบหน้าของเจียงชิวไป๋ฉายยิ้มอ่อนโยน
นี่ไม่เหมือนกับท่าทางดุดันบ้าคลั่งราวเทพสังหารมาเยือนและจิตสังหารน่าหวาดหวั่นอย่างตอนที่ต่อสู้เมื่อครู่แม้แต่น้อย ซ่างกวนอวี่ถิงจำได้ว่าเจียงชิวไป๋ก่อนหน้านี้โกรธเกรี้ยวยิ่งนัก แต่หลังจากพ้นจากการต่อสู้มา นอกจากอาการบาดเจ็บและเลือดบนร่างกายแล้ว ท่าทางของเขาก็สงบอบอุ่นเหมือนไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
ใช่แล้ว ผู้ใช้คลื่นวารีแห่งสำนักมหาวารีกับ ‘มารศักดิ์สิทธิ์กระบี่ภูต’ กู้ป้านเซิงแห่งสำนักฟ้าคราม คนหนึ่งถูกเจียงชิวไป๋กินขาไปข้างหนึ่ง อีกคนถูกทำลายวิชากระบี่ภูต กระอักเลือดราวน้ำตกก็ไม่ปาน สองในเก้ายอดคนใต้หล้า เจ้าสำนักวิหารเทพแห่งแผ่นดินสุดแดนใต้ทั้งสองร่วมมือกันโจมตีสังหารเจียงชิวไป๋ แต่สุดท้ายกลับบาดเจ็บพ่ายแพ้ไปทั้งคู่
“แฮ่กๆ…”
สุนัขประหลาดตาสองสีวิ่งส่ายก้นเข้ามา เอียงคอมองเจียงชิวไป๋ สีหน้าที่ปรากฏบนใบหน้าช่างหลากหลาย
ความเยือกเย็นและความสุขุมที่มีทั้งหมดของเจียงชิวไป๋หายไปหมดในพริบตานี้ เขาเหลือบมองสุนัขตัวนี้แล้วก็โมโห
ศึกใหญ่เมื่อครู่นั่น หากไม่ใช่ว่าสุนัขประหลาดตัวนี้จู่ๆ เข้ามากัดขากางเกงของเขาอย่างคิดไปเองว่าสนิทสนมกัน เขาก็ไม่มีทางถูกกระบี่วารีของผู้ใช้คลื่นวารีแทงเข้าที่แขน สิ่งที่ยิ่งน่าโมโหก็คือ หลังจากสุนัขตัวนี้รู้ตัวว่าตัวเองเหมือนก่อเรื่องอะไรแล้วก็สะบัดตูดหนีหาย ทั้งยังไม่สร้างความดีลบล้างความผิดด้วย…เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเจ้านี่มีพลังประหลาดที่เมินเฉยต่อสนามพลังทุกประเภทของผู้แข็งแกร่งได้ หากมันไปกัดขาของผู้ใช้คลื่นวารีหรือกู้ป้านเซิงแล้วละก็ เช่นนั้น…
“ไสหัวไป เจ้ามองอะไร?” เจียงชิวไป๋พูดอย่างโมโห
อย่างไรเสีย เจ้านี่ก็ตอบกลับไม่ได้อยู่แล้ว
ด่าก่อนค่อยว่ากัน
ผลสุดท้าย…
“มองเจ้าแล้วจะทำไม?” จู่ๆ สุนัขประหลาดก็อ้าปากพูดด้วย
เสียงค่อนข้างคุ้นหูทีเดียว
เจียงชิวไป๋มึนงง
ซ่างกวนอวี่ถิงนิ่งอึ้ง
ทั้งสองมองตากันแวบหนึ่ง ต่างมองเห็นอาการตะลึงงันในดวงตาของอีกฝ่าย
สุนัขประหลาดตัวนี้อ้าปากพูดอย่างนั้นรึ?
ดังนั้น มันพูดได้?
เช่นนั้นตลอดทางมานี่มันแกล้งโง่แกล้งเซ่ออย่างนั้นเรอะ?
เจียงชิวไป๋รู้สึกว่าจิตใจถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
แต่เดิมเขาคิดว่าสุนัขตัวนี้เป็นเจ้าโง่ที่มีพรสวรรค์แต่สมองมีปัญหา ตลอดทางที่ผ่านมาจึงมีท่าทีเหมือนกับคนโง่ไม่มีผิด ใครจะรู้ว่า…ที่แท้เจ้านี่มันกลับพูดได้ นี่มันเบิกปัญญาได้แล้วชัดๆ สุนัขที่เบิกปัญญาได้ก็เป็นเหมือนปีศาจ
ไม่มีปีศาจตนไหนโง่หรอกใช่ไหมเล่า?
สุนัขตัวนี้จงใจหยอกล้อข้ามาตลอดทาง?
เจียงชิวไป๋กัดฟันกรอด
ใจเขากลัดกลุ้มยิ่งนัก กำลังคิดอยู่ว่าจะตอบคำถามสุนัขประหลาดตัวนี้อย่างไร หากตอกกลับไปละก็ ก่อนหน้านี้ยามตนยังไม่ได้รับบาดเจ็บยังทำอะไรมันไม่ได้ ตอนนี้บาดเจ็บก็ยิ่งไม่มีทางแล้ว เหมือนว่าจะทำได้แค่แบกรับความอับอายเองเท่านั้น?
“เจ้าพูดได้ด้วย?” ซ่างกวนอวี่ถิงเอ่ยปากถามได้ถูกเวลามาก
สุนัขประหลาดตาสองสีตอบ “พูดได้ตอนดูเจ้าโง่สามคนนั่นสู้กันเมื่อครู่น่ะ”
เจ้าโง่สามคน?
เจียงชิวไป๋เหงื่อไหลพราก ไม่นึกว่าเก้ายอดคนใต้หล้าทั้งสามกลับถูกเรียกว่าเจ้าโง่…เจ้านี่มันฉลาด
ไม่ถูกสิ เสียงของเจ้านี่ทำไม…ค่อนข้างเหมือน…
“เสียงของเจ้าทำไมจึงเหมือนคนเลวเมื่อครู่นี้เล่า?” ซ่างกวนอวี่ถิงถาม นางพบว่าเสียงของสุนัขประหลาดคล้ายกับผู้ใช้คลื่นวารีแห่งสำนักมหาวารีทุกกระเบียดนิ้ว นี่ไม่ใช่เลียนแบบ แต่เป็นการเล่นเสียงซ้ำแล้ว
สุนัขประหลาดวิ่งตุบตุบมาข้างกายซ่างกวนอวี่ถิง และตอบว่า “โฮ่งๆ! เพิ่งพูดได้เมื่อกี้เอง ไม่น่าฟังหรือ? เช่นนั้นข้าเปลี่ยนใหม่…เสียงนี้เป็นอย่างไร?” มันเปลี่ยนเสียงจริงๆ แต่ว่าเสียงนี้…
“นี่ไม่ใช่เสียงของ ‘มารศักดิ์สิทธิ์กระบี่ภูต’ กู้ป้านเซิงหรอกหรือ?” ซ่างกวนอวี่ถิงยกมือกุมหน้าผากอย่างอดไม่ได้
เลียนแบบใครไม่เลียนแบบ
“ยังไม่ดีอีกหรือ เช่นนั้นข้าเปลี่ยนใหม่อีก” สุนัขประหลาดตาสองสีเอียงคอ หัวดุกดิกไปมา คิดอยู่ครู่หนึ่งก็มองไปยังเจียงชิวไป๋
เจียงชิวไป๋แค่นเสียงหยัน เขารู้ สุนัขตัวนี้น่าจะเลียนเสียงของเขาด้วยแล้ว
ทว่าสุนัขประหลาดกลับเอียงคอขบคิด ใบหน้าฉายแววรังเกียจ ก่อนจะเอ่ยปาก “เสียงนี้เป็นอย่างไร?” มันกลับเลียนเสียงของซ่างกวนอวี่ถิง เลียนแบบได้เหมือนมาก ไม่มีช่องโหว่เลยแม้แต่นิดเดียว
ซ่างกวนอวี่ถิงเบิกตากว้าง
เลียนแบบเสียงใครก็ได้จริงๆ ด้วย เสียงผู้หญิงก็ยังทำได้
ส่วนเจียงชิวไป๋ที่อยู่อีกด้านหนึ่งโมโหจนแทบกระอักเลือด เจ้าก็แค่สุนัขที่เลียนเสียงได้ตัวหนึ่ง แสดงสีหน้าแบบนี้หมายความว่าอย่างไรกันหา ยังจะมารังเกียจกันอีก…ไม่รู้ทำไม ขอแค่เป็นเรื่องเกี่ยวกับสุนัขตัวนี้ ก็ล้วนทำให้เขาเสียภาพลักษณ์ไปได้ในทันที
ครั้นเห็นท่าทางของทั้งสอง สุนัขประหลาดก็พูดขึ้นอีก “ยังไม่พอใจอีกรึ เช่นนั้นข้าเปลี่ยนเป็นอีกเสียงหนึ่งก็ได้…” ครึ่งประโยคหลังมันเปลี่ยนเป็นอีกเสียงหนึ่ง เป็นเสียงผู้ชายที่ฟังสบายหูมาก
ซ่างกวนอวี่ถิงอึ้งไปทันใด
ดวงตาของนางฉายแววไม่อยากจะเชื่อวาบผ่าน
เจียงชิวไป๋ที่อยู่ข้างๆ อึ้งไปครู่หนึ่ง รู้สึกว่าเสียงนี้คุ้นหูนัก เหมือนว่าเคยได้ยินที่ไหนมาแล้ว
“เจ้า…เจ้าทำไม…เสียงของพี่มู่ เจ้าเคยเจอเขาหรือ?” ซ่างกวนอวี่ถิงตาเบิกกว้างด้วยความดีใจ ย่อตัวลงจ้องสุนัขประหลาดตาสองสี
สุนัขประหลาดสะดุ้งตกใจ “พี่มู่ เจ้าหมายถึงหลี่มู่? เจ้ารู้จักไอ้หนูนั่นด้วย?”
นี่นับว่าคุยกันรู้เรื่องแล้ว
ซ่างกวนอวี่ถิงกำลังจะกล่าวอะไร จู่ๆ สีหน้าของเจียงชิวไป๋ก็เปลี่ยนไป ก่อนจะเอ่ยว่า “ไล่ตามมาแล้ว ไปที่อื่นกันก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา