นี่เป็นฉากที่ไม่น่าเชื่อ
รัชทายาทฉินตะวันตกที่ถูกปกป้องอยู่ด้านในโดยยอดฝีมือมากมาย ยามเห็นหลี่มู่ซัดหมัดใส่หน้าอิ้งซานเสวี่ยอิงก็สูดลมหายใจลึก รู้สึกเพียงปวดหัวไปหมด ราวกับหมัดนี้ซัดเข้าใส่หน้าตัวเองอย่างไรอย่างนั้น
บรรดายอดฝีมือฉินตะวันตกรวมถึงเหยียนหรูอวิ๋นตาถลนจนแทบหลุดลงพื้น
นี่ไม่ใช่ภาพที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้
นั่นเป็นถึงเทพสังหาร ‘ดาบจักรพรรดิ’ อิ้งซานเสวี่ยอิงเชียวนะ หากบอกว่าตอนเพิ่งเริ่มล้อมโจมตีสำนักขุนคีรียังมีคนไม่รู้ว่ากงกงผมเคราขาวท่าทางงกๆ เงิ่นๆ คนนี้เป็นใคร ในตอนนี้ ไม่ว่าจะก้งเฟิ่งของราชวงศ์หรือยอดฝีมือจากสำนักต่างๆ เมื่อเห็นร่างของอิ้งซานเสวี่ยอิงก็ล้วนอดเสียวสันหลังวาบไม่ได้
เทพสังหารที่ปลิดชีพมากว่าร้อยหมื่นชีวิต
ในสถานการณ์ปกติ ไม่ใช่ว่าควรจะเป็นหลี่มู่ที่ถูกอิ้งซานเสวี่ยอิงเล่นสนุก บดขยี้ ไล่สังหารอยู่ฝ่ายเดียวหรือ?
ทว่าตอนนี้?
ร่างของอิ้งซานเสวี่ยอิงเหมือนกับเสาไม้ ถูกซัดเสียกระเด็น
ร่างหลี่มู่ไหววูบไปปรากฏตรงซ้ายขวาหน้าหลังของอิ้งซานเสวี่ยอิงไม่หยุด ซัดหมัดแล้วหมัดเล่า จับห้อยแล้วโจมตีไม่ยั้ง ต่อยกลับไปกลับมา แต่ละหมัดประเคนใส่บนร่างอิ้งซานเสวี่ยอิงเสมือนอัดกระสอบทราย
“หึๆ…” อิ้งซานเสวี่ยอิงดิ้นรนอย่างเดือดดาล
เขายิ้มหยันอย่างติดปาก ดิ้นรนสุดชีวิต สุดท้ายจึงหลุดพ้นจากการถูกแขวนอัดของหลี่มู่มาได้
ร่างของเขาถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
หลี่มู่ก็ราวกับมังกรคลั่ง ตามกัดไม่ปล่อย
อิ้งซานเสวี่ยอิงเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง จมูกเขียวหน้าบวม ทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยหมัด เขาพุ่งตรงเข้าไปกลางกลุ่มกองทหารรักษาวัง ทั่วร่างมีละอองสีแดงจำนวนนับไม่ถ้วนแผ่กระจายออกมา พันรัดร่างของทหารรักษาวังทีละคนๆ ดุจหนวดสัมผัส…
“อ๊าก…”
“ไม่ ไว้ชีวิตข้าด้วย”
“ช่วยด้วย”
เสียงกรีดร้องดิ้นรนดังขึ้นมา
จากนั้นจึงเห็นเหล่าทหารรักษาวังที่ถูกรัดไว้โดนหนวดสัมผัสสีแดงบีบรัดแน่น ถูกสูบจนร่างแห้งในพริบตา พละกำลังและส่วนที่ดีที่สุดของเลือดเนื้อทั้งหมดในร่างกายล้วนถูกสูบจนเกลี้ยง
อิ้งซานเสวี่ยอิงดูดพลังชีวิตของคนเหล่านี้ไป
ต่อมาผิวหนังของเขาเปลี่ยนเป็นชุ่มชื้นขึ้นด้วยความเร็วที่ตาเห็น ขนคิ้วผมเพ้าสีขาวเปลี่ยนเป็นดำขลับและเป็นประกาย ราวกับหนุ่มขึ้นก็มิปาน กลายเป็นชายกลางคนร่างสูงใหญ่กำยำคนหนึ่ง
“เหอะๆ หลี่มู่ เจ้าจะได้รู้ว่าอะไรคือพละกำลังที่แท้จริง อะไรคือ…” เขาหัวเราะเสียงเย็น
ทว่า เสียงยังไม่ทันขาด
แสงสว่างวูบวาบ หลี่มู่พุ่งเข้ามาดั่งลำแสง หนึ่งหมัดกระแทกเข้าที่ปากจนเขาลอยปลิวออกไป
กลางอากาศ ซี่ฟันลอยกระจาย
“พลังบ้านย่าเจ้าสิ…” หลี่มู่สองตาแดงก่ำ ทั้งตัวเข้าสู่สภาวะระเบิดพลังที่น่าอัศจรรย์ พลังของหมัดยุทธ์แท้ราวกับแม่น้ำแยงซี พุ่งสาดซัดอยู่ระหว่างกล้ามเนื้อ ไขกระดูก และอวัยวะภายใน กระดูกสันหลังส่งเสียงปานมังกรร้องพยัคฆ์คำรามออกมาเป็นระลอก
อิ้งซานเสวี่ยอิงถูกหมัดนี้ซัดจนมึน
เขาฟื้นฟูกลับมาจุดที่สมบูรณ์ที่สุดแล้ว เพราะอะไร…
“ข้าจะให้เจ้าเหมือนตายทั้งเป็น” อิ้งซานเสวี่ยอิงคำรามด้วยความโกรธ หมอกสีดำโลหิตนับไม่ถ้วนแผ่กระจายออกมา ปกคลุมกองทหารรักษาวังไว้กว่าครึ่ง เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนามากมายของทหารรักษาวังดังขึ้น
ทุกจุดที่หมอกดำไปถึง ชีวิตขาดสะบั้นลง
ร่างไร้วิญญาณนอนกองบนพื้นทีละศพ กระทั่งยุทโธปกรณ์บนร่างกายยังถูกดูดเอาสติปัญญาไปด้วย บรรดาทหารรักษาวังกระทั่งตายไปก็ยังไม่อยากเชื่อว่าตนเองต้องมาจบชีวิตลงด้วยมือคนฝ่ายเดียวกัน ใบหน้าของพวกเขามีสีหน้าสิ้นหวังระคนโกรธแค้น
อิ้งซานเสวี่ยอิงดูดกลืนวิญญาณและเลือดเนื้อของสิ่งมีชีวิตอย่างตะกละตะกลาม
นี่เป็นวิชามารที่ชั่วร้ายและน่ากลัวอย่างหนึ่ง
รูปโฉมของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง เปลี่ยนไปเหมือนคนหนุ่มอายุราวยี่สิบต้นๆ ผมปลิวไสวดุจม่านน้ำตก หน้าตาหล่อเหลาเรือนร่างสูงใหญ่ รูปลักษณ์ชั่วร้ายทรงเสน่ห์ ถือเป็นชายรูปงามที่หาได้ยากคนหนึ่ง
“เจ้าบีบบังคับข้าเอง หลี่มู่ ข้าจะ…” เขายิ้มอย่างโหดเหี้ยม พลังก่อตัวขึ้น
ทว่า…
ฟิ้ว!
ลำแสงไหววูบ
ตูม
อิ้งซานเสวี่ยอิงถูกหมัดซัดปลิวออกไปอีกครั้ง
ฟันหลุดกระเด็น ข้างแก้มเละเทะ
บนหน้าที่เปลี่ยนไปในพริบตาของเขามาพร้อมกับความตะลึงงันอย่างไม่อาจเชื่อได้
เพราะอะไร…ถึงได้ถูกโจมตีอีก?
ข้า…ฟื้นฟูกลับไปภาวะที่เลือดลมเต็มเปี่ยมที่สุดแล้วชัดๆ ข้า…
ตูม!
อีกหนึ่งหมัดตามมา
ร่างของอิ้งซานเสวี่ยอิงถูกซัดจนกระจุย
ละอองเลือดตลบกระจาย กระดูกหักกระเด็นว่อน
แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้แข็งแกร่งขั้นมหาเทวะ ภายใต้การทำงานของกฎเกณฑ์ ละอองเลือดที่ตลบทั่วฟ้าและกระดูกที่หักประสานกันอีกครั้ง กลับมาประกอบเป็นร่างเดิมใหม่ เพียงแต่มีรอยหมัดช่วงท้อง มุมปากยังมีเลือดไหลอยู่
เป็นเลือดสดสีดำ
“เป็นไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้เจ้าซ่อนฝีมือเอาไว้หรือ?” ครานี้อิ้งซานเสวี่ยอิงเริ่มลนลานแล้วจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา