“คุกเข่า ขอขมา”
รอบกายหลี่มู่ตลบอบอวลไปด้วยไฟแท้แห่งเต๋า ตบไปหนึ่งฉาดที่หน้าของอิ้งซานเสวี่ยอิง เปลวไฟสีแดงแทรกเข้าไปในร่างกายเขา ราวกับกองทัพข้าศึกที่บุกเข้ามาและยากจะต้านทาน ก่อนอาละวาดทำลาย
ร่างของอิ้งซานเสวี่ยอิงสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง
ความรู้สึกที่โดนไฟแท้เต๋าแผดเผา ไม่เพียงมีผลกับกายเนื้อ แต่ยังตรงเข้าไปถึงจิตวิญญาณของคน ความเจ็บปวดเช่นนั้นเป็นดั่งโทษทัณฑ์ที่ไร้ใดเปรียบในโลกหล้านี้
“เจ้า…ข้าเป็นถึง…เทวะ เจ้า…ไม่ควรมาดูหมิ่นข้าเช่นนี้” อิ้งซานเสวี่ยอิงตัวสั่นเทา ชักกระตุก พลางพูดออกมาด้วยความโกรธ
“เทวะ?” หลี่มู่หัวเราะเย็นชา “เหอะๆ เจ้าในสายตาข้าเป็นแค่สุนัขยังไม่ได้เลย ไม่ ไม่ถูก ข้าพูดเช่นนี้ยังถือว่าลบหลู่สุนัขเสียด้วยซ้ำ”
“เจ้า…” อิ้งซานเสวี่ยอิงตัวสั่น
หลี่มู่หันกลับไปมองพวกองค์รัชทายาท เอ่ยขึ้นว่า “อะไรกัน? ต้องให้ข้าช่วยพวกเจ้าอีกหรือ? มานี่ คุกเข่าลง ขอขมาเสีย”
พวกองค์รัชทายาทหน้าถอดสี
“ข้าเป็นถึงรัชทายาทแห่งจักรวรรดิ คุกเข่าต่อจักรพรรดิและราชินีเท่านั้น ทำไมต้องคุกเขาต่อหน้าขุนนางสองคนด้วย” รัชทายาทถึงแม้ในใจจะหวาดกลัวเหลือคณา แต่ตอนนี้ยังแสดงออกถึงความหยิ่งในศักดิ์ศรีอยู่
สามีภรรยาหนิงจิ้งเป็นลูกชายและสะใภ้ของหนิงหรูซานขุนพลใหญ่แห่งเมืองฉางอัน ซึ่งเป็นขุนนางแห่งฉินตะวันตกอย่างแท้จริง คำพูดนี้ของเขาไม่ผิดอะไรเลย
หลี่มู่กล่าวต่อ “เจ้าก็รู้ว่าพวกเขาเป็นขุนนางของเจ้า? เจ้าจับตัวพวกเขามาเป็นตัวประกัน สังหารตามใจชอบ ข้าคิดว่าเจ้าเห็นพวกเขาเป็นโจรรุกรานฉินตะวันตกเสียอีก”
องค์รัชทายาทนิ่งเงียบไร้คำพูด
เพื่อที่จะบีบให้หลี่มู่ออกมา อิ้งซานเสวี่ยอิงไม่เลือกวิธีการจึงใช้อุบายโฉดเช่นนี้ ทว่าคนที่ดำเนินการก็เป็นเขาจริงๆ เป็นเขาที่สั่งให้คนไปจับตัวสามีภรรยาหนิงจิ้ง ไป๋เซวียน รวมถึงพวกของเหลยอินอินมา
“ข้าจะให้โอกาสสุดท้ายกับพวกเจ้า มาคุกเข่าเสีย” หลี่มู่เหยียบเท้าข้างหนึ่งบนหน้าอิ้งซานเสวี่ยอิง เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเคร่งขรึมเย็นชา
เหยียนหรูอวิ๋นแขนสั่น ตะโกนขึ้นว่า “องค์รัชทายาทจะอับอายมิได้ พวกเราบุกพร้อมกัน สังหารมัน มันทำศึกใหญ่กับอิ้งซานกงกงมาจนพลังลดแล้ว ตอนนี้จะต้องเหมือนลูกธนูแผ่วปลายเป็นแน่”
เมื่อเขากระตุ้นเช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งกลุ่มก้งเฟิ่งสิบกว่านายก็โคจรพลังปราณบุกเข้าไป ทั้งหมดเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นเหนือมนุษย์ พลังไม่ธรรมดา แสงจากกลวิชาและอาวุธต่างๆ ถาโถมเข้ามาตั้งแต่คนยังมาไม่ถึง
มุมปากหลี่มู่ยกขึ้นเป็นเส้นโค้ง “ไม่รู้จักกลัวตาย”
เขาใช้มือเป็นดาบ สะบัดไปครั้งหนึ่ง
คมดาบฟันเป็นเส้นโค้งออกไป
หนึ่งดาบทลายสรรพสิ่ง
ภายใต้คมดาบ แสงจากวิชาและอาวุธทั้งหมด…ทั้งหมดของทั้งหมดล้วนถูกดาบตัดจนไม่เหลือ และสิ่งที่ถูกตัดในเวลาเดียวกันยังมีผู้แข็งแกร่งกลุ่มก้งเฟิ่งด้านหลัง ร่างแข็งอยู่บนดาดฟ้าเรือ บนอากาศ ก่อนจะสลายกลายเป็นฝุ่นไปท่ามกลางเสียงเหมือนฟองสบู่แตกเป็นชุด
เหยียนหรูอวิ๋นและรัชทายาทตื่นตระหนกตกใจ
ผู้แข็งแกร่งจากสำนักใหญ่อื่นๆ ที่เหลืออยู่และกลุ่มก้งเฟิ่งของราชวงศ์หน้าเขียวคล้ำไปหมด
นี่เรียกธนูแผ่วปลายหรือ?
เมื่อครู่เจ้าเหยียนหรูอวิ๋นตะโกนขึ้นมา แล้วทำไมตัวเองไม่ยอมบุกด้วย?
หลี่มู่ยกแขนขึ้นช้าๆ ดาบมือทำท่าจะฟาดลงมาอีก “ในเมื่อไม่ยอมคุกเข่า ก็ตายเสียให้หมดแล้วกัน”
แสงดาบมาอีกสาย
ผู้แข็งแกร่งของฉินตะวันตกฝั่งตรงข้ามต้านทานสุดกำลัง แต่ยังคงบาดเจ็บล้มตายอย่างหนัก
“องค์รัชทายาทรีบหนีไปพ่ะย่ะค่ะ” เหยียนหรูอวิ๋นตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว กวัดแกว่งกระบี่ยาวพุ่งไปหาหลี่มู่ เขาเรียกอินทรีทองซึ่งตนชอบขี่มากที่สุดมารับตัวรัชทายาท หมายจะให้หนีไป
ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ เขาที่เป็นเพื่อนร่วมเรียนของรัชทายาทและผู้บังคับบัญชากองทหารรักษาวังกองหนึ่งยังแสดงถึงความมีศักดิ์ศรีให้เห็น ไม่ได้หนีไปเพราะรักตัวกลัวตาย
“คนนี้แหละที่สังหารสามีภรรยาหนิงจิ้ง…” ไป๋เซวียนเอ่ยขึ้นมา
หลี่มู่แววตาเย็นเฉียบทันที
จากนั้นจึงยกมือขึ้น พลังสูบอากาศที่น่ากลัวขุมหนึ่งรัดตัวเหยียนหรูอวิ๋นที่กำลังพุ่งเข้ามาไว้ พลังกึ่งโปร่งแสงบีบรัดคอหอยเขา เหยียนหรูอวิ๋นหน้าแดงเถือก สองมือกุมคอของตนเอง ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง แต่กลับไม่อาจสลัดหลุดได้
หลี่มู่ค่อยๆ ลากเขากลับมา
“ข้า…” เหยียนหรูอวิ๋นตื่นตกใจ สิ่งแรกที่รู้สึกได้คือกลิ่นอายแห่งความตายอยู่ใกล้ตัวถึงเพียงนี้
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ไปขอขมาพวกเขาสองคนที่ยมโลกเลยแล้วกัน” เปลวไฟลุกโชนขึ้นมาจากฝ่ามือของหลี่มู่ เพียงพริบตาก็กลืนร่างของเหยียนหรูอวิ๋นจนมิด
“อ๊าก…” เสียงร้องเหมือนหมูถูกเชือดของเหยียนหรูอวิ๋นดังขึ้น ไฟแท้เต๋าสีแดงพวยพุ่งออกจากปากจมูก ดวงตา และใบหู เผาไหม้ร่างกายและวิญญาณของเขา
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเพียงผู้แข็งแกร่งขั้นเหนือมนุษย์ ไม่เหมือนอิ้งซานเสวี่ยอิงขั้นมหาเทวะที่สามารถฝึกฝนกฎแห่งเต๋าแฝงไว้ในร่างตน จะต้านทานไฟแท้เต๋าได้อย่างไร ท่ามกลางความเจ็บปวดเหลือคณนาและความสำนึกเสียใจ ฆาตกรที่สังหารหนิงจิ้ง ดาวเด่นแห่งกองทัพที่มีอนาคตไกลในจักรวรรดิผู้นี้สลายกลายเป็นฝุ่นผงปลิวลอยไปตามลม
เขาคงไม่คิดไม่ฝันว่าตนเองจะถูกสังหารเพียงเพราะการตายของลูกอนุขุนพลเล็กจ้อยคนหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา