จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 377

“พี่ใหญ่” หลี่มู่พุ่งเข้ามากอดด้วยความยินดี

ถึงจะเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นสูงครึ่งขั้นทะลวงสวรรค์ หรือผู้ที่คนอื่นๆ ยังต้องเงยหน้ามอง แต่ว่าในสายตาหลี่มู่ นี่คือพี่ใหญ่ของเขา หลี่มู่ไม่ได้รู้สึกว่าพี่ใหญ่สูงส่งจนเกินเหตุ เช่นนั้นความสัมพันธ์พี่น้องก็ห่างเหินแล้ว

พี่น้องในใจของเขา ไม่ว่าจะจนรวยสูงต่ำอย่างไรก็คือพี่น้อง

ชิวอิ่นลังเลเล็กน้อย จากนั้นจึงเลียนแบบบ้าง

กัวอวี่ชิงตอนนี้ ใบหน้าเคร่งขรึมหายไปทันที

ยามมองน้องชายทั้งสองคน ใจของเขาผ่อนคลายลง เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ตอนเช้า จดหมายของน้องสามกับจดหมายเลือดของน้องสองแทบจะมาถึงวิหารเทพหมาป่าพร้อมกัน ข้ารีบตรงมาที่นี่เป็นอันดับแรก ดูท่าจะไม่ได้มาช้าไป”

ชิวอิ่นหัวเราะบอก “ไม่ถูก จริงๆ พี่ใหญ่มาช้าไปหน่อย”

“โอ้?” กัวอวี่ชิงมองชิวอิ่น มองออกว่าสิ่งที่น้องสองจะพูดไม่ใช่เรื่องไม่ดีแน่

ชิวอิ่นยิ้มกล่าว “ฮ่าๆ พี่ใหญ่ท่านไม่ทันได้เห็น น้องสามสำแดงพลังเทพ จัดการสังหาร ‘ดาบจักรพรรดิ’ อิ้งซานเสวี่ยอิงและรัชทายาทแห่งฉินตะวันตกที่หน้ายอดเขาหลักขุนคีรี” พูดแล้วก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เสียรอบหนึ่ง

กัวอวี่ชิงประหลาดใจ เอ่ยว่า “ดาบจักรพรรดิอิ้งซานเสวี่ยอิง? เขาเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง สมัยก่อนเข้าใจกันว่าเป็นหนึ่งในผู้ถูกเลือกที่มีหวังจะเข้าสู่ขั้นทะลวงสวรรค์ น่าเสียดายที่เดินทางผิด เข่นฆ่ามากเกินไป กรรมชั่วพัวพันกาย ต่อมาหลบลี้ปลีกตัวเลิกฆ่า เสาะหาวิธีปลดเปลื้อง มีคนบอกว่าเขาตายไปแล้ว แล้วทำไมถึงกลับสู่สังเวียนอีก ซ้ำยังมาตายด้วยน้ำมือของน้องสามด้วย? ฮ่าๆ ดูท่าพลังของน้องสามคงทะลวงขั้นอีกแล้ว”

หลี่มู่พยักหน้า รับคำชมของกัวอวี่ชิงมาอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นเอ่ยต่อ “พี่ใหญ่ต้องคิดไม่ถึงแน่ คนผู้นี้ไม่ใช่แค่กลับคืนสังเวียน ยังตอนไอ้นั่นทิ้งไปเป็นขันที ฝึกฝนวิชาชั่วร้าย ถูกพลังปีศาจนอกพิภพแทรกซึมสามจิตเจ็ดวิญญาณ ข้าคิดว่าเขาคงถูกใช้ประโยชน์ ให้ดวงวิญญาณเพาะเลี้ยงพลังปีศาจเหมือนกับไข่ใบหนึ่ง”

“ร่างกายไม่สมบูรณ์ ขาดแก่นพลังหยางไป แล้วจะเข้าสู่ขั้นทะลวงสวรรค์ได้อย่างไร? อิ้งซานเสวี่ยอิงไม่ใช่คนธรรมดา ไม่มีทางที่จะไม่รู้ถึงจุดสำคัญนี้” กัวอวี่ชิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็เข้าใจบางอย่าง เอ่ยต่อว่า “ข้าพอรู้แล้ว เขาตอนตัวเองเพื่อขจัดกรรมชั่ว ตัดหยางออกเก็บหยินไว้ จะสามารถตัดขาดจากการเหนี่ยวนำของมรรคอันยิ่งใหญ่ และการใช้วิญญาณเพาะเลี้ยงพลังปีศาจ เกรงว่าน่าจะเป็นวิชาเกิดใหม่ที่ชั่วร้ายมากประเภทหนึ่ง เขาต้องการจะหลุดพ้นจากกายเนื้อของตน เกิดใหม่เป็นคนที่ไม่ใช่ของโลกใบนี้ เช่นนี้ต่อให้ไม่ต้องทะลวงสวรรค์ก็เดินออกไปสู่นอกพิภพได้…ในเมื่อรู้วิชามารลึกล้ำระดับนี้ การร่วมมือกันของราชวงศ์ฉินตะวันตกกับปีศาจร้ายนอกพิภพน่าจะซับซ้อนกว่าที่ข้าคิดเอาไว้มาก”

หลี่มู่พูดขึ้นบ้าง “ความหมายของพี่ใหญ่คือ พลังที่จักรพรรดิฉินหมิงเผยออกมาเมื่อครู่ก็เป็น…”

กัวอวี่ชิงพยักหน้า ตอบกลับว่า “ถูกต้อง เป็นพลังปีศาจเช่นกัน หลังจากจักรพรรดิฉินหมิงสืบทอดตำแหน่งต่อจากจักรพรรดิกวงอู่ ก็ทำตามแนวคิดครองแผ่นดินของจักรพรรดิกวงอู่ ปราบปรามชนเผ่าทรายสยบที่ราบทุ่งหญ้า ต่อต้านซ่งเหนือปฏิเสธฉู่ใต้ ขณะที่เขายังไม่ปิดด่านฝึกตน จักรวรรดิฉินตะวันตกรุ่งเรืองเฟื่องฟู อำนาจจักรวรรดิเกรียงไกร ครั้นปิดด่านไปฉินตะวันตกจึงอ่อนแอเช่นทุกวันนี้ จะเห็นได้ถึงความทะเยอทะยานของเขา ทว่า ถึงแม้เขาจะนับได้ว่าเป็นผู้ทะยานอยาก มีพรสวรรค์เช่นเดียวกับคนสายยุทธ์ แต่ก็ไม่อาจนับเป็นอัจฉริยะไร้เทียมทาน ระดับพลังฝึกในปีนั้นยังสู้อิ้งซานเสวี่ยอิงไม่ได้เลย ปิดด่านสี่สิบปีเข้าสู่ครึ่งขั้นทะลวงสวรรค์ นี่ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะทำได้ ราชวงศ์ฉินตะวันตกก็ไม่มีไพ่ลับเช่นนี้อยู่ ข้าสัมผัสได้ถึงพลังชั่วร้ายที่ลึกล้ำจากพลังของเขา ยืนยันได้ว่าต้องฝึกฝนวิชาชั่วร้ายนอกพิภพที่เหนือชั้นบางอย่างมาแน่”

หลี่มู่เอ่ยขึ้น “เช่นนั้นก็อธิบายได้ง่ายแล้ว ว่าเพราะอะไรในร่างของรัชทายาทจึงมีตัวอ่อนพลังชั่วร้าย แทรกลึกเข้าสู่ดวงวิญญาณ ดูท่าจักรพรรดิฉินตะวันตกจะเป็นผู้ลงมือ และมีเพียงคนผู้นี้เท่านั้นถึงจะฝังพลังชั่วร้ายเข้าสู่วิญญาณของรัชทายาทได้โดยที่เขาไม่รู้ตัว”

ชิวอิ่นก็พูดเช่นกัน “ดูท่าทางเสียงเล่าลือน่าจะเป็นจริง ราชวงศ์ฉินตะวันตกเดิมทีอาจแตกสายสืบทอดมาจากปีศาจร้ายนอกพิภพ”

ตอนนี้เอง ผู้แข็งแกร่งสำนักขุนคีรีอย่างพวกสวีเซิ่งและสวีเยวี่ยเข้ามาคารวะกัวอวี่ชิง

พวกเขาตอนนี้ทราบตัวตนของกัวอวี่ชิงแล้วว่าเป็นจ้าววิหารเทพหมาป่า บุคคลที่เป็นหนึ่งในเก้ายอดคนใต้หล้าในอดีต แต่กลับไม่รู้เลย ความจริงแล้วจ้าวแห่งวิหารเทพหมาป่าที่นั่งตำแหน่งเก้ายอดคนเมื่อปีนั้นเป็นปีศาจอีกตนนามว่าเจียงชิวไป๋ต่างหาก

……

ฉินตะวันตก เมืองหลวงฉิน

ด้านในตำหนักใหญ่วังหลวงที่อยู่ส่วนลึก ชายกลางคนบนตำแหน่งจักรพรรดิค่อยๆ ลืมตาขึ้น

นี่คือจักรพรรดิฉินหมิง

สายเลือดราชวงศ์ฉินตะวันตกนั้นไม่เหมือนใคร แต่ไหนแต่ไรล้วนเป็นชายรูปงามสตรีพริ้มเพรา จักรพรรดิฉินหมิงก็ไม่เว้น ใบหน้าขาวราวหยก ใต้ขากรรไกรมีเคราดำ เครื่องหน้าทั้งห้างดงาม จมูกรั้นปากกว้าง แก้มทั้งสองอิ่มเอิบ มีเสน่ห์เหลือร้ายของชายวัยกลางคน เพียงแต่เวลานี้บนใบหน้าหล่อเหลาของเขากำลังฉายโทสะ

“เจ้าโง่อิ้งซานเสวี่ยอิง มาถูกพวกรุ่นหลังสังหารเอา ทำงานใหญ่ข้าพังเสียได้ ตัวอ่อนพลังปีศาจทั้งเก้าถูกทำลายไปหนึ่ง แผนของข้าก็จำต้องมาปรับเปลี่ยนอีก”

เบื้องหน้าบัลลังก์จักรพรรดิของเขา ป้ายชีวิตหยกขาวเก้าอันลอยอยู่

เพียงแต่หนึ่งในนั้น ป้ายชีวิตที่เขียนชื่ออิ้งซานเสวี่ยอิงแตกหักแล้ว ปรากฏเป็นรอยแยกหลายเส้น อยู่ในลักษณะจะระเบิดออก ในรอยแตกมีไอชั่วร้ายสีดำหลายสายทะลักออกมาและกระจัดกระจายหายไป

จักรพรรดิฉินหมิงอ้าปาก ไอชั่วร้ายสีดำทั้งหมดนั้นถูกดูดเข้าไปในปากเขา ราวกับเป็นรสชาติที่โอชาที่สุดบนโลกนี้

เขาเพียงแค้นใจเรื่องการตายของอิ้งซานเสวี่ยอิง ส่วนเรื่องของรัชทายาท…เขากระทั่งไม่นำมาใส่ใจ

ด้วยสภาพร่างกายและอายุขัยของเขา หากคิดจะมีลูกชายแล้วชุบเลี้ยงเพื่อรับไม้ต่อสักคนยังมีเวลาถมเถ กล่าวอย่างยอมให้สักหน่อยก็คือ ลูกชายวัยกลางคนมีตั้งมากมายเพียงนั้น สุ่มเลือกมาสักคนก็ปกครองจักรวรรดิได้ ผู้สืบทอดเป็นแค่เรื่องในหนึ่งความคิดเท่านั้น มรรคอันยิ่งใหญ่ไร้ซึ่งอารมณ์ใด อุปนิสัยเช่นผู้ฝึกตนอย่างเขา เรื่องบุตรสืบสายเลือดไม่ได้อยู่ในใจเลย

นี่ไม่เกี่ยวกับการสืบสายเลือด

เกี่ยวข้องกับพลังอำนาจของตนเองเท่านั้น

ลูกชายทั้งสองตายด้วยน้ำมือของหลี่มู่ติดต่อกัน จากที่จักรพรรดิฉินหมิงมอง นี่เป็นการท้าทายเกียรติของจักรพรรดิอย่างหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา