จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 400

สรุปบท บทที่ 400 เสื้อคลุมหนังมนุษย์: จอมศาสตราพลิกดารา

ตอน บทที่ 400 เสื้อคลุมหนังมนุษย์ จาก จอมศาสตราพลิกดารา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 400 เสื้อคลุมหนังมนุษย์ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน จอมศาสตราพลิกดารา ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ห​ลี่​มู่ตกใจ​เป็นอย่างมาก​

วิชา​ที่​หมิง​เยวี่ย​ใช้คือ​วิชา​เต๋า​ ไม่ใช่วิชา​วรยุทธ์​สังหาร​อย่าง​ใน​โลก​ใบ​นี้​ เมื่อ​ครู่​นาง​บอ​กว่า​ตัวเอง​เป็น​ผู้สืบทอด​ของ​ขอทาน​เฒ่าจั่ว​ลู่​อี้​ หรือ​ที่แท้​จั่ว​ลู่​อี้​จะเป็น​คน​จาก​นอก​พิภพ​?

มิฉะนั้น​จะถ่ายทอดวิชา​เต๋า​ให้​นาง​ได้​อย่างไร​

ส่วน​คน​พรรค​กระยาจก​คนอื่นๆ​ มอง​ไม่ค่อย​เข้าใจ​วิชา​ดอกบัว​ขาว​กลาง​ฟ้าคราม​ที่​ปรากฏ​เบื้องหลัง​หมิง​เย​วี่ย​ แต่กลับ​ตกตะลึง​ที่​คุณชาย​หน้า​ขาว​เหลียงจื้อ​พ่ายแพ้​เร็ว​ขนาด​นี้​

ครึ่ง​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​ เหลียงจื้อ​ผงาด​ขึ้น​มารวดเร็ว​มาก​ นอกจาก​จะมีการอบรม​ฝึกฝน​จาก​ประมุข​พรรค​ ‘ยาจก​เทพ​’ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​พละกำลัง​และ​พลัง​ฝึก​ก็​เป็น​เหตุผล​สำคัญ​อีก​ข้อ​หนึ่ง​ วรยุทธ์​ใน​กาย​แปรสภาพ​เข้าไป​ใน​พัด​ แต่ไหนแต่ไร​ไม่เคย​พ่ายแพ้​ ยาม​เผชิญหน้า​กับ​ศัตรู​ โดย​พื้นฐาน​แล้ว​คือ​บดขยี้​ผู้อื่น​ น้อย​ครั้ง​นัก​ที่จะ​มีคน​มอง​ตื้นลึกหนาบาง​ของ​เขา​ออก​ อีก​ทั้ง​ผลงาน​การต่อสู้​อยู่​เหนือกว่า​ห​ลี่​อวิ๋น​เทา​ คน​มมาก​มาย​เคารพ​ยำเกรง​

แต่​ใคร​จะรู้​ ไม่นึก​เลย​ว่า​จะแพ้​ให้​กับ​เด็กสาว​คน​หนึ่ง​ที่​จู่ๆ ก็​โผล่​มาเช่นนี้​

คน​ที่​มีปัญญา​ยิ่ง​มองออก​ว่า​นี่​ยัง​เป็น​เพราะ​เด็กสาว​ชื่อ​หมิง​เยวี่ย​หยั่งเชิง​เล็กน้อย​ด้วยซ้ำ​ หาก​นาง​สำแดง​ภาพ​เหตุการณ์​ประหลาด​ ‘บัว​ขาว​กลาง​ฟ้าคราม​’ ตั้งแต่​ทีแรก​ เกรง​ว่า​เหลียงจื้อคง​รับมือ​ได้​แค่​ไม่กี่​อึดใจ​

รู้​ผล​แพ้ชนะ​แล้ว​

หมิง​เยวี่ย​ชนะ​ ตาม​ข้อตกลง​ก่อนหน้านี้​ นาง​จะกลายเป็น​ประมุข​พรรค​คน​ใหม่​

แต่​พรรค​กระยาจก​หลาย​คน​ต่าง​มองหน้า​กัน​ไปมา​

จะให้​เด็กสาว​อายุ​สิบ​กว่า​ปี​คน​หนึ่ง​ปกครอง​ดูแล​พรรค​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ซ่งเหนือ​จริง​หรือ​ จะเป็น​เด็ก​เล่นขายของ​ไป​หน่อย​กระมัง​ ไม่ต้อง​พูดถึง​อย่าง​อื่น​ ดู​จาก​คำพูด​ของ​เด็ก​คน​นี้​เมื่อ​ครู่​ก็​พึ่งพา​ไม่ได้​สุด​ๆ แล้ว​

สีหน้า​ของ​เหลียงจื้อ​ย่ำแย่​ยิ่งนัก​

ตำแหน่ง​ประมุข​พรรค​ที่อยู่​ใน​กำมือ​กลายเป็น​ของ​คนอื่น​ไป​แล้ว​ เท่ากับ​เป็ด​ที่​ต้ม​สุก​บินหนี​ไป​ชัด​ๆ

แต่​เขา​ก็​หวาดหวั่น​นัก​

เพราะ​ตอนที่​คู่ต่อสู้​สำแดง​ภาพ​วิชา​เต๋า​ ใบ​บัว​นั้น​ขยับ​เพียง​เล็กน้อย​ พลัง​แห่ง​เต๋า​ก็​กด​อัด​เข้ามา​ราว​โม่หิน​ เขา​มั่นใจ​ว่า​ หาก​เมื่อ​ครู่​ตน​ถอย​มาช้าอีก​แค่​เล็กน้อย​ เกรง​ว่า​คงจะ​ถูก​บดขยี้​จน​เป็น​เศษผง​เหมือน​พัด​นั่น​ไป​แล้ว​

“ว่า​อย่างไร​?” หมิง​เยวี่ย​มอง​ไป​ยัง​ ‘ยาจก​เทพ​’ อย่าง​ระริกระรี้​

‘เคลื่อน​กาย​ไร้​เงา’ ซุน​ฉางเฟิงและ​ ‘หมัด​เท​วะ​ร้อย​ลี้​’ กัว​ปู๋เอ้อร์​ก็​มอง​ ‘ยาจก​เทพ​’ ด้วย​เช่นกัน​

‘ยาจก​เทพ​’ หน้า​เปลี่ยนสี​ แต่​สุดท้าย​ก็​ทำได้​แค่​ถอนหายใจ​ ยิ้ม​ขื่น​พลาง​เอ่ย​ว่า​ “ใน​เมื่อ​แม่นาง​หมิง​เยวี่ย​ชนะ​ เช่นนั้น​นับ​จาก​วันนี้​ไป​ ประมุข​พรรค​กระยาจก​ก็​คือ​แม่นาง​หมิง​เยวี่ย​แล้ว​ เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​แม่นาง​เตรียม​จะดูแล​พรรค​กระยาจก​อย่างไร​ และ​จะสู้กับ​ศัตรู​ภายนอก​อย่าง​พรรค​มาร​โลหิต​อย่างไร​?”

หมิง​เยวี่ย​กล่าว​เหมือน​เรื่อง​ย่อม​เป็น​เช่นนั้น​อยู่แล้ว​ “คำ​เดียว​ ฆ่า ไม่ฟังความ​ ฆ่า คัดค้าน​ข้า​ ฆ่า เป็นปฏิปักษ์​กับ​ข้า​ ฆ่า พรรค​จันทรา​โลหิต​ ฆ่ามัน​ให้​หมด​”

‘ยาจก​เทพ​’ เอ่ย​อัน​ใด​ไม่ออก​

ซุน​ฉางเฟิงกับ​กัว​ปู๋เอ้อร์​นิ่งงัน​

บ้าเลือด​เกินไป​กระมัง​?

โดยรอบ​เวที​หิน​ ผู้​แข็งแกร่ง​ยอด​ฝีมือ​พรรค​กระยาจก​หลาย​หมื่น​คน​ก็​ฮือฮา​กัน​ทั่ว​ทันที​ ประมุข​พรรค​คน​ใหม่​จะเรียบง่าย​และ​ป่าเถื่อน​ขนาด​นี้​เชียว​?

แต่ว่า​ หาก​สังหาร​ศัตรู​อย่าง​พรรค​จันทรา​โลหิต​ได้​หมด​จริง​ เช่นนั้น​…แค่​คิด​ก็​เลือดร้อน​ฮึกเหิม​แล้ว​

มีแค่​ห​ลี่​มู่กับ​ชิงเฟิงท่ามกลาง​ฝูงชน​เท่านั้น​ที่​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ใช้ได้​เลย​ นี่​ดู​เป็น​หมิง​เยวี่ย​มาก​ นางใน​ตอนนี้​ถึงจะนับว่า​มีท่าทาง​อย่าง​เด็ก​หน้า​มึน​โดยธรรมชาติ​ใน​ตอนนั้น​ เป็น​ตัวตน​ที่​แท้จริง​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

“ดี​ เช่นนั้น​ข้า​ขอ​ประกาศ​ นับ​จาก​วันนี้​เป็นต้นไป​ ประมุข​พรรค​กระยาจก​ก็​คือ​แม่นาง​หมิง​เย​วี่ย​ นี่​คือ​สัญลักษณ์​ของ​พรรค​เรา​ แม่นาง​โปรด​รับ​ไว้​ด้วย​” ‘ยาจก​เทพ​’ ยิ้ม​ขื่น​ พลิก​มือ​ดึง​ไม้เท้า​ที่​ปัก​อยู่​บน​เวที​หิน​ก่อนหน้านี้​ขึ้น​มา หลัง​ใช้วิชา​ลับ​กระตุ้น​ก็​เห็น​ผิวนอก​หลุด​ลอก​ออก​ไป​ เผย​ให้​เห็น​หยก​เขียว​ใสก้อน​หนึ่ง​ด้านใน​ ขนาด​ประมาณ​นิ้วมือ​ ยาว​ราว​สี่ฉื่อ​ ผิว​ด้านนอก​เป็น​ลวดลาย​ธรรมชาติ​ที่​ประหลาด​ อีก​ทั้ง​เหมือน​ลวดลาย​เต๋า​ที่​ใช้อิทธิฤทธิ์​วิชา​ประทับ​ลง​ไป​ ท่วงทำนอง​แห่ง​เต๋า​เดี๋ยว​ปรากฏ​เดี๋ยว​จางหาย​ พิสดาร​เป็น​ที่สุด​

ห​ลี่​มู่มอง​จาก​ไกลๆ​ ใน​ใจตื่น​ตะลึง​

หรือ​จะเป็น​ไม้เท้า​ตี​สุนัข​?

ไม่หรอก​ หาก​ไม้เท้า​นี่​ชื่อ​ไม้ตี​สุนัข​เหมือนกัน​จริง​ มัน​จะเหมือนกัน​เกินไป​หน่อย​แล้ว​

หมิง​เยวี่ย​รับ​ไม้เท้า​มาด้วย​รอยยิ้ม​กว้าง​ เมื่อ​สะบัด​ข้อมือ​ เส้น​เงานับไม่ถ้วน​ก็​สั่น​ไหว​ออกมา​เหมือน​งูเขียว​ อากาศ​ทลาย​ลง​ตรงหน้า​ไม้เท้า​ทันที​ เส้น​แสงราวกับ​บิดเบี้ยว​ จากนั้น​ปะทุ​เสียง​สายฟ้า​ฟาด​ ทว่า​ไม้เท้า​อ่อนนุ่ม​แข็งแรง​ยิ่ง​ ไม่หัก​พัง​แต่อย่างใด​

นาง​เอ่ย​อย่าง​แปลกใจ​ “โอ๊ะ​ ทนทาน​ดี​นี่​ นี่​คือ​ไม้เท้า​เทพ​แห่ง​สรรพสิ่ง​ที่​ตาแก่​หนังเหนียว​ตาย​ยาก​จั่ว​ลู่​อี้​บอก​อย่างนั้น​หรือ​”

แม่เด็ก​นี่​ เมื่อ​ครู่​มีความคิด​จะทำลาย​ไม้เท้า​นี้​

พรืด​

ห​ลี่​มู่เกือบ​หลุด​หัวเราะ​ออกมา​แล้ว​

ไม้เท้า​เทพ​แห่ง​สรรพสิ่ง​?

ชื่อ​นี้​…ถึงจะไม่เหมือนกับ​ไม้ตี​สุนัข​ แต่​ก็​น่า​ตกใจ​มาก​

เหล่า​บรรพชน​ของ​พรรค​กระยาจก​ไม่มีความรู้​ก็​เลย​ตั้งชื่อ​ซี้ซั้ว​แบบนี้​หรือ​?

‘ยาจก​เทพ​’ พยักหน้า​ตอบ​ “ใช่แล้ว​ นี่​ก็​คือ​ ‘ไม้เท้า​เทพ​แห่ง​สรรพสิ่ง​’ ที่​เป็น​สัญลักษณ์​แทน​อำนาจ​สูงสุด​ของ​พรรค​เรา​ ตอนนี้​มัน​เป็น​ของ​เจ้าแล้ว​ ทั้ง​พรรค​กระยาจก​ก็​เป็น​ของ​เจ้าแล้ว​เช่นกัน​ หวัง​ว่า​เจ้าจะนำพา​พรรค​ของ​เรา​ให้​เจริญรุ่งเรือง​ได้​ ข้า​…” พูด​แล้ว​สีหน้า​เขา​ก็​ค่อยๆ​ ซีดเผือด​ ร่องรอย​ความตาย​อัน​ราง​เลือน​ปรากฏ​บน​ใบหน้า​ เห็นได้ชัด​ว่า​ได้รับบาดเจ็บ​ภายใน​สาหัส​ เก็บอาการ​ไม่อยู่​อีกต่อไป​ ใกล้​จะทนไม่ไหว​แล้ว​เต็มที​

การเปลี่ยนแปลง​ทั้งหมด​นี้​เกิดขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​ฉับพลัน​ เร็ว​ประดุจ​ฟ้าฟาด​ไม่ทัน​ได้​อุด​หู​

ผู้​แข็งแกร่ง​ทั้งหลาย​รอบ​ๆ อึ้ง​ตะลึง​ไป​ทันใด​

เกิด​อะไร​ขึ้น​?

“ฮ่าๆๆๆ…ใน​เมื่อ​แผน​แรก​ดำเนินการ​ไม่ได้​ เช่นนั้น​ก็​ใช้แผน​ที่สอง​ นับ​จาก​วันนี้​ไป​ ซ่งเหนือ​ไม่มีพรรค​กระยาจก​อีกต่อไป​แล้ว​” ‘ยาจก​เทพ​’ หัวเราะ​ด้วย​ใบหน้า​เหี้ยมเกรียม​

เขา​ลงมา​บน​พื้น​ ฝีเท้า​ซวนเซ​ หน้าผาก​มีกระบี่​เล่ม​เล็ก​สีเงิน​แทง​ทะลุ​ ปลาย​กระบี่​โผล่​ออก​มาจาก​ท้ายทอย​ เลือด​ไหลริน​เป็น​สาย​ ส่วน​หน้าอก​นั้น​ยุบ​ลง​ไป​ อก​ซ้าย​ถูก​โจมตี​จน​แหลก​เห็น​กระดูก​ขาวโพลน​ นี่​คือ​อาการ​บาดเจ็บ​ที่​ ‘เคลื่อน​กาย​ไร้​เงา’ ซุน​ฉางเฟิงและ​ ‘หมัด​เท​วะ​ไร้​เงา’ กัว​ปู๋เอ้อร์​โจมตีกลับ​ตาม​สัญชาตญาณ​อย่าง​กะทันหัน​ แต่​พลัง​ชีวิต​ของ​เขา​พอกพูน​ เหมือน​ไม่ได้รับบาดเจ็บ​เลย​อย่างไร​อย่างนั้น​

“สารเลว​!”

“นี่​เจ้าสมคบ​กับ​ปีศาจร้าย​นอก​พิภพ​จริงๆ​?”

กัว​ปู๋เอ้อร์​และ​ซุน​ฉางเฟิงยอด​ผู้อาวุโส​ทั้งสอง​มอง​ ‘ยาจก​เทพ​’ สีหน้าตื่น​ตะลึง​ระคน​โกรธแค้น​

กระดูก​หน้าอก​ของ​ทั้งสอง​หัก​สิ้น​ อวัยวะภายใน​เสียหาย​ ละออง​พลัง​สีดำ​ที่​ประหลาด​ชั่วร้าย​เป็น​สาย​ๆ หลั่งไหล​ออกมา​ ราวกับ​เปลวไฟ​ประเภท​กัดกร่อน​ เผาไหม้​ร่างกาย​ของ​สอง​ขอทาน​เฒ่า

รอบ​เวที​หิน​ ยอด​ฝีมือ​พรรค​กระยาจก​ทั้งหลาย​รวมถึง​หลู่​ฉางฟู่ ตอนนี้​พอ​จะตั้งสติ​กลับมา​ได้​ เข้าใจ​ว่า​อะไร​เกิดขึ้น​ ต่าง​มอง​ ‘ยาจก​เทพ​’ อย่าง​ตะลึง​เป็น​อย่างยิ่ง​

ประมุข​พรรค​ของ​พวกเขา​หักหลัง​พรรค​?

นี่​มัน​ภาพ​อะไร​กัน​

“ชั่วช้า​ เจ้าเป็น​ประมุข​พรรค​แล้ว​ ยังมี​อะไร​ไม่พอใจ​อีก​ถึงได้​ไป​เข้ากับ​ปีศาจร้าย​นอก​พิภพ​?” ‘หมัด​เท​วะ​ร้อย​ลี้​’ กัว​ปู๋เอ้อร์​จับจ้อง​ ‘ยาจก​เทพ​’ อย่าง​โกรธแค้น​ ดูท่าทาง​จั่ว​ลู่​อี้​จะพูด​ถูก​ ความเสียหาย​ของ​พรรค​กระยาจก​ใน​ช่วงนี้​ล้วน​มีสาเหตุ​จาก​ประมุข​พรรค​ผู้​นี้​

“ฮ่าๆๆ ไอ้​แก่​ตาย​ยาก​ เจ้ายัง​มอง​ไม่ออก​อีก​หรือ​?” ‘ยาจก​เทพ​’ หัวเราะ​ร่า​เสียงดัง​ เขา​คว้า​หนัง​หัว​ของ​ตัวเอง​แล้ว​กระชาก​โดยพลัน​

เขา​ดึง​หนัง​หัว​ของ​ตัวเอง​ออกมา​ จากนั้น​ก็​ราวกับ​บ้าคลั่ง​ ฉีก​กระชาก​ไป​ยัง​หน้า​ ลำตัว​ แขน​ และ​เอว​ หนัง​มนุษย์​ถูก​ฉีก​ออกมา​เป็น​แผ่น​ใหญ่​ๆ และ​สิ่งที่​เผย​ให้​เห็น​ข้างใต้​กลับ​ไม่ใช่กล้าม​เนื้อที่​ชุ่มโชก​ไป​ด้วย​เลือด​ แต่​เป็น​สิ่งแปลก​พิลึก​เหมือน​หิน​ผา​สีดำ​

ไม่นาน​นัก​ ‘ยาจก​เทพ​’ ฉีก​ผิวหนัง​ของ​ตัวเอง​ออกมา​ทั้งหมด​ ร่าง​ขยาย​ใหญ่​ สุดท้าย​กลายเป็น​คน​ยักษ์​ศิลา​ดำ​สูงหนึ่ง​จั้งกว่า​ แสงเพลิง​สีแดงเข้ม​หมุน​วน​ไป​ตามรอย​หิน​ที่​คล้าย​กล้ามเนื้อ​ประดุจ​หินหนืด​ กลิ่นอาย​เหี้ยมโหด​หอบ​ม้วน​ไป​ทั่ว​หาด​กอง​หิน​

“ยาจก​เทพ​? มัน​ตาย​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​ เจ้าแก่​นั่น​กระดูกแข็ง​นัก​ ไม่ยอม​ก้มหัว​ให้​ ดังนั้น​ข้า​เลย​ถลก​หนัง​ทำเป็น​เสื้อคลุม​หนัง​มนุษย์​เสีย​ แต่​น่าเสียดาย​ คุณภาพ​หนัง​มนุษย์​แย่​นัก​ ใส่แค่​ปี​หนึ่ง​ก็​ขาด​เสียแล้ว​ ข้า​จึงมอบ​ตำแหน่ง​ประมุข​พรรค​ให้​กับ​คู่หู​ของ​มัน​ ใคร​จะรู้​…” ตัว​ประหลาด​หัวเราะ​ลั่น​ น้ำลาย​หินหนืด​ไหล​ย้อย​ออกจาก​ปาก​ เมื่อ​หยด​ลง​บน​พื้น​ก็​เกิด​เป็นไฟ​กอง​หนึ่ง​ทันที​ จากนั้น​หัวเราะ​ลากเสียง​ยาว​ “ใน​เมื่อ​ถูก​พวก​เจ้าบีบ​ให้​ร่าง​แท้จริง​ของ​ข้า​ออกมา​ เช่นนั้น​พวก​เจ้าก็​ตาย​เสียเถอะ​”

เปลวเพลิง​ที่​โหดเหี้ยม​น่ากลัว​ลุก​โหม​ไป​ทั้ง​สาขา​หลัก​ของ​พรรค​กระยาจก​

………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา