หลี่มู่ลุกพรวดขึ้นมา สาวก้าวยาวเดินไปที่ประตูโถงใหญ่
เขาเปิดเนตรสวรรค์ มองเห็นแสงเงินเส้นหนึ่งพุ่งตรงมายังจวนปาเสียนอ๋อง แฝงไว้ด้วยพลังแห่งการขัดเกลาเต๋าอันยิ่งใหญ่ ราวกับจะตัดความว่างเปล่าผืนนี้ทั้งหมดออกไปจากโลก ด้านในมีจิตสังหารมากล้น
“ใครกัน?”
เนตรสวรรค์ของหลี่มู่เกิดกระแสวนอัสนี แสงอัสนีสีม่วงสายหนึ่งพุ่งปะทุตรงไปยังแสงเงินนั้น
กลางอากาศ พลังแห่งวิถีฟ้าหมุนวน
“หือ สหายคนใดกัน?” ลำแสงสีเงินขยับวิบวับ เสียงโหดเหี้ยมเย็นชาดังขึ้นมา ท่าทางตกใจเป็นอย่างมาก
หลี่มู่ไม่พูดอะไร
กระแสวนอัสนีเทพเมฆาม่วงในเนตรสวรรค์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เสมือนเมฆดาราเคลื่อนไหว ก่อนที่อัสนีเทพอีกสายจะพุ่งออกไป
“เวทอัสนี? หรือว่าจะเป็นสหายจากวิหารอัสนี พวกเจ้าก็ลงมาเหมือนกันหรือ? ข้าน้อยเยวี่ยกั๋วเซียงจากวังประสานฟ้า เข้าใจผิดแล้วๆ” เสียงโหดเหี้ยมเย็นชานั้นถอยกลับอย่างรวดเร็ว ตรงไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
หลี่มู่แค่นเสียงหยัน กระแสวนอัสนีในเนตรสวรรค์บิดม้วนปั่นป่วน พลังสายฟ้าที่แข็งแกร่งเริ่มบิดอากาศและเส้นแสงรอบๆ ตัวเขา พวกปาเสียนอ๋องที่ยืนอยู่ข้างๆ ใจสั่นระรัวอย่างยากจะควบคุมได้ พากันถอยฉากไป
“ไม่ตอบแทนน้ำใจผู้อื่นนั้นเสียมารยาท”
ภายในเนตรสวรรค์ อัสนีม่วงสายหนึ่งพุ่งทะยานออกมาดุจมังกรเทพ มาทีหลังแต่ถึงก่อน ปะทะเข้ากับแสงเงินเส้นนั้นทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ บนท้องฟ้า แสงสว่างสีเงินบาดตาระเบิดออก ประหนึ่งมีอาทิตย์เพิ่มมาอีกดวง
“อา ข้าจดจำไว้แล้ว วันหลังจะมาขอคำชี้แนะแน่นอน”
ท่ามกลางเสียงร้องเจ็บปวด เสียงเหี้ยมโหดเย็นชานั้นแว่วมาหาอย่างเคียดแค้น
จากนั้น รัศมีสีเงินแสบตาก็ค่อยๆ เลือนหาย
“ไม่ตายแฮะ”
เนตรสวรรค์กลางหน้าผากหลี่มู่ค่อยๆ ปิดลง พลังอัสนีสีม่วงหายไป
หลังจากเขาฝึกเนตรอัสนีม่วงสำเร็จ นี่เป็นครั้งแรกที่นำมาใช้ต่อกรศัตรู พลังโจมตีครั้งที่สามเมื่อครู่ ต่อให้เป็นคนระดับ ‘ดาบจักรพรรดิ’ อิ้งซานเสวี่ยอิงก็อาจเจ็บหนักถึงตาย เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นวิชาเซียนที่แท้จริง แต่ไม่คิดเลยว่าร่างสีเงินนั้นจะแค่บาดเจ็บ
หลี่มู่ยืนยันได้ว่า ร่างสีเงินนั้นคือผู้ลงมาเยือนอย่างแท้จริงคนหนึ่ง
ไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งของโลกนี้ แต่มาจากห้วงดาราสมุทร
เยวี่ยกั๋วเซียงจากวังประสานฟ้า?
ชื่อนี้ เขาจดจำไว้แล้ว
“เทวะหลี่ นี่คือ…” พวกปาเสียนอ๋องเข้ามาอย่างระแวดระวัง ในใจยังผวาอยู่ พลังที่ตรงมาหาจวนอ๋องเมื่อครู่มีอานุภาพบดขยี้ทำลายล้าง หากไม่มีหลี่มู่มาต้านเอาไว้ละก็ ทั้งจวนอ๋องสลายกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว
“ข้าสงสัยว่า เรื่องประหลาดที่คนจำนวนมากหายตัวไปซึ่งท่านอ๋องบอกจะเกี่ยวข้องกับแสงสีเงินเมื่อครู่…” หลี่มู่เอ่ย
“เอ๋?” ปาเสียนอ๋องตกใจ “เช่นนั้นก็เป็นพวกปีศาจที่สร้างความวุ่นวายหรือ”
บนใบหน้าของปาเสียนอ๋อง หลี่มู่ไม่พบความเสแสร้งใดๆ
ความจริงแล้ว ด้วยพลังฝึกจิตวิญญาณขั้นที่สามในวิชาก่อนกำเนิดของหลี่มู่ยามนี้ ต่อให้เป็นขั้นเทวะ เพียงแค่ความคิดกระเพื่อมไหวขึ้นมาก็ยากจะปิดกั้นจากสัมผัสของเขาได้ ปาเสียนอ๋องไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยจริงๆ
“ข้าจะออกไปดูเสียหน่อย”
หลี่มู่คิดในใจ ก่อนกลายเป็นลำแสงสายหนึ่งไล่ตามไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ชัดเจนว่าร่างสีเงินนั้นเอาชีวิตทั้งหมดในพื้นที่รอบๆ จวนอ๋องไป ทำลายชีวิตทั้งหมดที่นี่ราวกับโม่แป้ง จิตสังหารเข้มข้น ไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน
ยิ่งกว่านั้น ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามเป็นแขกจากนอกพิภพ เช่นนั้นก็ต้องไปเจอเสียหน่อย
เอาชีวิตขณะที่เจ้าบาดเจ็บเสียเลย
ชั่วอึดใจเขาก็ไปไกลหลายพันลี้
หลี่มู่สัมผัสได้ถึงร่องรอยของกลิ่นอายพลังนั้น เมื่อตามรอยจนถึง ไม่นานก็พบวังศิลาขาวแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหน้า
ร่างสีเงินนั้นหายเข้าไปในวังสีขาวขนาดพื้นที่หลายร้อยหมู่นี้ รอบๆ มีทหารรักษาวังแห่งจักรวรรดิตั้งมั่นอยู่ ภายในกำแพงวังสีขาว กลิ่นอายวิถีฟ้าวนเวียนอยู่อย่างไร้รูปร่าง บนกำแพงวังและกำแพงสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ห่างออกไปล้วนมีกลิ่นอายของค่ายกลวิถีฟ้า
‘มีทหารรักษาวังมาตั้งฐานที่มั่น หรือว่าร่างสีเงินนั้นจะเป็นสมาชิกราชวงศ์ซ่งเหนือ?’
หลี่มู่ยืนอยู่บนอากาศสูงกว่าสามสิบจั้ง จ้องมองลงมา ลวดลายเต๋าหมุนรอบตัว ซ่อนอยู่ในความว่างเปล่า ด้านล่างไม่มีใครพบเห็นตัว
เอ๋?
วังประสานฟ้า?
หลี่มู่พลันเห็นว่าอักษรใหญ่สามตัวบนป้ายตำหนักศิลาขาวตรงใจกลางสุดก็คือวังประสานฟ้า เขานึกถึงคำพูดของหวางซืออวี่ก่อนหน้านี้ วัตถุโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์ของวิหารเต้าเต๋าในวัดซ่อนมรรคาบนเขาหัวโค ทั้งหมดถูกนำมาเก็บซ่อนไว้ที่วังประสานฟ้าแห่งเมืองหลินอัน และวังประสานฟ้าแห่งนี้ยังเป็นพื้นที่บรรพชนแห่งใหม่ของราชวงศ์ซ่งเหนือในปัจจุบันด้วย
‘ข้าในตอนนี้ฝึกฝนวิชาหมัดเซียนสำเร็จ จิตดาบไร้ลักษณ์ฟ้าประทานก้าวหน้าไปอีกขั้น และยังมีเนตรอัสนีม่วงอีก ใต้ฟ้ากว้างใหญ่นี้ยังมีที่ไหนไปไม่ได้?’
หลี่มู่ยิ้มเล็กน้อย เดินตรงเข้าไปยังวังศิลาขาว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา