จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 410

ทว่า​ สิ่งที่​ทำให้​ห​ลี่​มู่เกินคาด​ก็​คือ​ทั่ว​ทั้ง​วัง​ประสาน​ฟ้านี้​เขา​ไม่พบ​วัตถุ​โบราณ​ยุคก่อนประวัติศาสตร์​ใดๆ​ เลย​ และ​ก็​ไม่พบ​เบาะแส​เกี่ยวกับ​ ‘เต้า​เต๋อ​จิง’ ที่​เหล่า​จื่อ​ทิ้ง​ไว้​ด้วย​

‘แปลก​แล้ว​ ซืออวี่​เคย​บอก​ไว้​ว่า​วัตถุ​โบราณ​ยุคก่อนประวัติศาสตร์​ถูก​เก็บ​ซ่อน​ไว้​ใน​วัง​ประสาน​ฟ้า นี่​เธอ​จำผิด​ หรือ​สถานที่​เปลี่ยนไป​อีก​?’

ห​ลี่​มู่รู้สึก​ว่า​ไม่ชอบมาพากล​

ก่อนหน้านี้​ ร่าง​สีเงิน​บอ​กว่า​ตัวเอง​คือ​เยวี่ยกั๋วเซียง​ศิษย์​วัง​ประสาน​ฟ้า สำนัก​ใหญ่​ของ​ดารา​สมุทร​ จะต้อง​เกี่ยวข้อง​กับ​วัง​ประสาน​ฟ้านี้​แน่นอน​ เขา​ซ่อนตัว​อยู่​ที่นี่​ ไม่ได้​ทำ​สิ่งใด​ไร้​เป้าหมาย​ เพียง​ถูก​ตน​บีบ​ให้​หนี​ไป​เท่านั้น​

ห​ลี่​มู่ไม่สบายใจ​ จึงเปิด​ใช้งาน​เนตร​สวรรค์​ ตรวจสอบ​อย่าง​ละเอียด​อีกครั้ง​

ครั้งนี้​ เขา​ยิ่ง​พบ​จุด​ที่​ไม่ธรรมดา​ของ​ที่นี่​ เพราะ​ลวดลาย​เต๋า​จำนวนมาก​ผ่าน​ระยะเวลา​มายาวนาน​แล้ว​ ไม่ใช่สิ่งที่​จอม​ยุทธ์​ของ​โลก​นี้​สามารถ​จัดวาง​ได้​แน่นอน​ และ​นี่​คือ​ค่าย​กล​วิถี​ฟ้า อีก​ทั้ง​ใต้​พื้นดิน​ยังมี​ลวดลาย​เต๋า​ลึกลับ​ที่​ไม่สมบูรณ์​กำลัง​เคลื่อนไหว​อีก​ พลัง​เนตร​สวรรค์​ของ​ห​ลี่​มู่ไม่อาจ​มอง​ทะลุ​เข้าไป​

ห​ลี่​มู่ลอง​ใช้พลัง​จิตวิญญาณ​แทรกซึม​ลง​ไป​ใต้ดิน​ แต่​หลังจาก​ลง​ไป​เพียง​สามจั้ง ก็​มีพลัง​ที่​ลึกลับ​ยิ่ง​บางอย่าง​สัมผัส​ได้​ สิ่งนั้น​กว้างใหญ่​ไพศาล​ ราวกับ​จักรวาล​อัน​ไร้​ขอบเขต​ ลึกลับ​เหลือคณา​

เขา​ใช้วิธี​ต่างๆ​ มากมาย​ แต่​ก็​ไม่สามารถ​คลี่คลาย​ได้​

เรื่อง​นี้​แปลก​นัก​

ห​ลี่​มู่เดิน​วน​ใน​วัง​ประสาน​ฟ้าอีก​ครู่หนึ่ง​ หลังจาก​ลอบ​วาง​ค่าย​กล​ของ​ตัวเอง​ไว้​ใน​ห้องนอน​และ​สิ่งปลูกสร้าง​บางส่วน​แล้ว​ จึงค่อย​หัน​กาย​จาก​มา เขา​มีลางสังหรณ์​อย่างหนึ่ง​ว่า​ที่นี่​ซ่อน​ความลับ​ยิ่งใหญ่​เอาไว้​

ห่าง​ออก​ไป​ด้านนอก​หลาย​สิบ​ลี้​ บน​ชั้น​เมฆ เยวี่ยกั๋วเซียง​ศิษย์​วัง​ประสาน​ฟ้าผู้​มีเส้น​ผม​และ​ดวงตา​สีเงิน​คน​นั้น​สัมผัส​ได้​ว่า​ห​ลี่​มู่จากไป​แล้ว​ผ่าน​ค่าย​กล​สังหาร​หยก​ จึงพอ​โล่งอก​ได้​แล้ว​

“เขา​ไม่พบ​ความลับ​ด้านใน​…ฟู่ ครั้งนี้​ประมาทเลินเล่อ​จริงๆ​ ไม่คิด​ว่า​จะไป​ยั่วโมโห​คน​ที่​น่า​สะพรึง​เช่นนี้​เข้า​” เขา​มีสีหน้า​สับสน​

ก่อน​ลงมา​เยือน​ เขา​เต็มไปด้วย​ความทะเยอทะยาน​

บรรดา​ศิษย์​หลาย​พัน​ของ​วัง​ประสาน​ฟ้า ต้อง​ผ่าน​การคัดเลือก​และ​ทดสอบ​แสน​สาหัส​ ถึงจะเลือก​ออกมา​ได้​สี่คน​ ขณะ​ลงมา​เยือน​ อีก​สามคน​ที่​เหลือ​ถูก​พลัง​สะท้อน​กลับ​ของ​ดาว​ดวง​นี้​สังหาร​ มีเพียง​เขา​ที่​ลงมา​สำเร็จ​ ใน​ใจรู้สึก​ว่า​ชะตา​สวรรค์​คุ้มครอง​โดยแท้​ ต่อให้​ตนเอง​ต้อง​เสีย​พลัง​ฝึก​ไป​มาก​ ลดขั้น​พลัง​ของ​ตัวเอง​ลง​ เมื่อ​มาดาว​ดวง​นี้​ก็​ยังคง​ไร้​เทียมทาน​ได้​ ไม่คิด​ว่า​ลงมา​เพียงแค่​ครึ่ง​เดือน​กว่า​ ยัง​ไม่ทันกิน​เครื่องสังเวย​บำรุง​ตัวเอง​จน​เพียงพอ​ ก็​ต้อง​มาพบ​กับ​ตัว​อันตราย​เช่นนี้​ เกือบจะ​ถูก​สังหาร​เสียแล้ว​

โลก​ใบ​นี้​อันตราย​จริงๆ​

‘ต้อง​ไป​ตรวจสอบ​ที่มา​ของ​หนุ่ม​คน​นี้​เสียหน่อย​ น่ากลัว​ไป​แล้ว​’

เขา​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ สุดท้าย​จึงตัดสินใจ​ได้​

เดิมที​เขา​ไม่คิด​ที่จะ​ใช้ทาง​เส้น​นั้น​แล้ว​ แต่​ดู​จาก​ตอนนี้​ คง​ต้อง​ไป​พบ​ผู้สนับสนุน​บน​โลก​ใบ​นี้​ต่อหน้า​เสียหน่อย​

……

“เยวี่ยกั๋วเซียง​แพ้​แล้ว​?”

บุตร​เท​วะ​เสีย​ไห่​ที่​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​น่านน้ำ​สัมผัส​ได้​ถึงภาพ​ฉาก​นี้​

“ดูท่า​ข้า​จะเดา​ไม่ผิด​ ห​ลี่​มู่คน​นี้​เป็น​บุตร​ผู้​ถูก​สวรรค์​เลือก​ของ​ดาว​ดวง​นี้​ ดวงชะตา​ลึกล้ำ​ รับมือ​ด้วย​ยาก​ เยวี่ยกั๋วเซียง​เป็น​หัวกะทิ​ของ​ศิษย์​รุ่น​ห้า​แห่ง​วัง​ประสาน​ฟ้า เป็น​ผู้ฝึก​ที่​ข้าม​ผ่าน​สะพาน​เป็น​ตาย​แล้ว​ ถึงแม้ถูก​กด​พลัง​จาก​การ​ลงมา​เยือน​ แต่​ก็​ยัง​ควร​ไร้​เทียมทาน​กับ​พวก​ต่ำกว่า​กลั่น​ปราณ​สิบสอง​ระดับ​ ไม่คิด​ว่า​จะมาถูก​ห​ลี่​มู่ไล่ล่า​สังหาร​”

เขา​พูด​กับ​ตัวเอง​

จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​ที่อยู่​อีก​ด้าน​เหลือบมอง​ เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “บุตร​เท​วะ​ กลั่น​ปราณ​สิบสอง​ระดับ​คือ​ขั้น​พลัง​อะไร​? ชี้แนะ​แก่​ข้าน้อย​ได้​หรือไม่​ อย่าง​น้อย​ก็​ให้​ข้าน้อย​ได้​เปิด​โลกทัศน์​ และ​สามารถ​ช่วยเหลือ​ท่าน​บ้าง​”

บุตร​เท​วะ​เสีย​ไห่​มอง​เขา​แวบ​หนึ่ง​ ตอบ​ว่า​ “ครั้งนี้​เป็น​เจ้าที่​เข้ามา​เตือน​ข้า​ก่อน​ จึงยัง​ไม่ต้อง​ปะทะ​กับ​ห​ลี่​มู่ตรงๆ​ และ​ให้​ข้า​มาหลบ​อยู่​ใน​ที่ลับ​ สามารถ​ทำการ​ได้​สะดวก​ ดังนั้น​จะอธิบาย​ให้​เจ้าเข้าใจ​ก็​ไม่เสียหาย​

โลก​ใบ​นี้​ของ​พวก​เจ้าถือเป็น​พื้นที่​ห่างไกล​กันดาร​ เป็น​เพียง​ดาว​ขยะ​ดวง​หนึ่ง​…ช่างเถอะ​ พูด​เรื่อง​เหล่านี้​ไป​เจ้าก็​ไม่เข้าใจ​ เจ้ารู้​ไว้​แค่​ว่า​วิชา​วิถี​ยุทธ์​ของ​ดาว​ดวง​นี้​อยู่​ใน​ระดับ​ต่ำ​มาก​ การ​แบ่ง​ขั้น​พลัง​ก็ช่าง​น่าขัน​ ระดับ​ไร้​เทียมทาน​ที่​เรียกกันว่า​ขั้น​ทะลวง​สวรรค์​ ก็​เป็น​เพียง​ขั้น​ที่หนึ่ง​ของ​วิถี​การฝึกฝน​สำหรับ​ผู้ฝึก​ตน​ใน​ดารา​สมุทร​เท่านั้น​ ใน​ทางช้างเผือก​ พื้นฐาน​แรก​สุด​ของ​ผู้ฝึก​ตน​คือ​กลั่น​ปราณ​ ฝึกฝน​พลัง​วัตร​แห่ง​แม่น้ำ​ดารา​ จึงจะปลดเปลื้อง​พันธนาการ​แต่กำเนิด​ได้​ ขั้น​กลั่น​ปราณ​ แบ่ง​ออก​เป็น​สิบสอง​ระดับ​ กลั่น​ปราณ​ระดับ​ที่​สิบสอง​เทียบ​เท่ากับ​ขั้น​ทะลวง​สวรรค์​ของ​โลก​พวก​เจ้า สูงขึ้นไป​อีก​ เมื่อ​กลั่น​ปราณ​จน​ผ่าน​สะพาน​เป็น​ตาย​ใน​ร่างกาย​ ก็​จะเข้าสู่​ขั้น​ถัดไป​ พลัง​ของ​ขั้น​นี้​ไม่ใช่สิ่งที่​พวก​เจ้าจินตนาการ​ได้​”

จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​ฟังแล้ว​ ใน​ใจคล้าย​มีคลื่น​ซัด​ปั่นป่วน​ ที่แท้​เส้นทาง​แห่ง​วิถี​ยุทธ์​ยังมี​หนทาง​ยาว​ไกล​ไพศาล​เช่นนี้​อีก​ ก่อนหน้า​เข้าใจ​ว่า​ถึงขั้น​ทะลวง​สวรรค์​ก็​เป็น​ผู้​ไร้​เทียมทาน​ใต้​ฟ้าได้​ ทว่า​มาดู​ตอนนี้​…

ประตู​แห่ง​โลก​ใบ​ใหม่​บาน​หนึ่ง​กำลัง​เปิด​ออก​ช้าๆ

“เช่นนั้น​ ‘คัมภีร์​ทะเล​โลหิต​ฉือหัง​ตู้​’ ที่​ข้าน้อย​ฝึกฝน​ จะฝึก​จน​ข้าม​สะพาน​เป็น​ตาย​ได้​หรือไม่​?” เขา​อด​ถามไม่ได้​

บุตร​เท​วะ​เสีย​ไห่​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ตอบ​ว่า​ “คัมภีร์​นี้​เป็น​วิชาพื้นฐาน​ของ​ทะเล​โลหิต​ ทั้งหมด​แบ่ง​เป็น​สี่ขั้น​ หนึ่ง​ขั้น​มีกลั่น​ปราณ​สามระดับ​ เมื่อ​เจ้าฝึกฝน​ขั้น​ที่สี่​สมบูรณ์​ ก็​จะเทียบเท่า​กลั่น​ปราณ​ระดับ​ที่​สิบสอง​ ถ้าแบ่ง​ตาม​ขั้น​ของ​พวก​เจ้า เทียบเท่า​ได้​กับ​ขั้น​ทะลวง​สวรรค์​ แต่​คิด​จะข้าม​ผ่าน​สะพาน​เป็น​ตาย​นั้น​เป็นไปไม่ได้​”

จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​ฟังแล้ว​ ใน​ใจรู้สึก​ผิดหวัง​

เขา​ใน​ตอนนี้​ใช้วิธี​ต่างๆ​ สุดกำลัง​ จน​ฝึกฝน​ ‘คัมภีร์​ทะเล​โลหิต​ฉือหัง​ตู้​’ มาถึงช่วง​กลาง​ของ​ขั้น​ที่สี่​ เท่ากับ​อีก​ครึ่ง​ขั้น​ก็​ฝึก​จน​สมบูรณ์​ได้​ ตอนแรก​คิด​ว่า​หลังจาก​ขั้น​ที่สี่​สมบูรณ์​แล้​วจะ​ได้​เป็น​ผู้​ไร้​เทียมทาน​ใต้​ฟ้า ที่แท้​เป็น​เพียง​ระดับ​ผู้ฝึก​ตน​ธรรมดา​ของ​ดารา​สมุทร​เท่านั้น​

บุตร​เท​วะ​เสีย​ไห่​แค่​มอง​ก็​อ่านใจ​เขา​ออก​ เอ่ย​ต่อว่า​ “ตอนนี้​เจ้าไม่ต้อง​คิดมาก​ โลภมาก​ไป​มัก​เคี้ยว​ไม่หมด​ ขอ​แค่​เจ้ารับใช้​ข้า​ดี​ๆ ทุ่มเท​กาย​ใจ ข้า​จะถ่ายทอด​วิธี​ข้าม​ผ่าน​สะพาน​เป็น​ตาย​ให้​ เจ้าต้อง​เข้าใจ​ว่า​ต่อให้​มีวิชา​ที่​พอ​จะใช้ผ่าน​สะพาน​เป็น​ตาย​ได้​ ก็​เป็น​เพียง​วิชา​ระดับ​ต่ำ​บางส่วน​ของ​ทะเล​โลหิต​เท่านั้น​ หาก​อยากได้​วิชา​ที่​ดีกว่า​นี้​ จะต้อง​หมั่น​ฝึกฝน​ไม่ขาด​ สร้าง​ผลงาน​เข้า​ไว้​ถึงจะถูก​”

จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​ยินดี​ “ข้าน้อย​จะรับใช้​ท่าน​บุตร​เท​วะ​จนตาย​”

ส่วน​ที่ว่า​บุตร​เท​วะ​ผ่าน​สะพาน​เป็น​ตาย​หรือยัง​นั้น​ เขา​ไม่ได้​ถาม เพราะ​คำถาม​เช่นนี้​เป็น​คำถาม​ที่​โง่เง่านัก​

เหตุผล​นั้น​ง่าย​มาก​

เมื่อ​ข้าม​ผ่าน​สะพาน​เป็น​ตาย​ เหยียบ​ขั้น​ทะลวง​สวรรค์​ขึ้นไป​ จะสามารถ​พิชิต​โลก​นี้​ได้​ แต่​การ​ที่​บุตร​เท​วะ​หวาดกลัว​ห​ลี่​มู่ถึงเพียงนี้​ อย่าง​น้อย​ก็​อธิบาย​ได้​ว่า​กำลัง​รบ​ของ​เขา​ตอนนี้​สู้ห​ลี่​มู่ไม่ได้​…หรือ​อาจ​เพราะ​ระหว่าง​ลงมา​เยือน​ใช้พลัง​ฝึก​และ​กำลัง​ไป​มาก​ ไม่ว่า​อย่างไร​ หาก​ถามคำถาม​นี้​ไป​ก็​มีแต่​จะทำให้​บุตร​เท​วะ​รู้สึก​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​และ​ไม่สบายใจ​ นอกจากนี้​ยัง​ไม่มีความหมาย​อะไร​ด้วย​

“จับตัว​เครื่องสังเวย​ต่อไป​ การ​เปิด​สุสาน​เทพ​ยัง​ต้อง​ใช้เวลา​อีก​ระยะ​หนึ่ง​ ข้า​จำต้อง​เร่ง​ฟื้นฟู​พลัง​ฝึก​โดยเร็ว​ จะชักช้า​ไม่ได้​” บุตร​เท​วะ​เสีย​ไห่​เอ่ย​ “พวกเรา​จะออกจาก​เมือง​หลิน​อัน​ไป​พื้น​ที่อื่น​ เจ้าบอก​ที่อยู่​ของ​สำนัก​ต่ำกว่า​ระดับ​สามทั้งหมด​มา นับ​จาก​ตอนนี้​ไป​ พวกเรา​จะเริ่ม​ล่า​กัน​แล้ว​”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา