เดินไปไม่กี่ก้าว เขาพลันนึกถึงบางสิ่ง จึงหันกลับไปมองชายซึ่งพูดว่าหัวใจชาวอำเภอขาวพิสุทธิ์รสชาติยอดเยี่ยม และกล่าวถามว่า “หัวใจคนอร่อยหรือไม่?”
“ข้า…ข้า…” ชาวบ้านผู้นั้นรูปลักษณ์ดุร้าย กายราวเจดีย์เหล็ก บัดนี้กลับหวาดกลัวจนวิญญาณแทบหลุดลอย ฟันสั่นกระทบกัน พูดอะไรไม่ออกจนนิด
“เจ้าเคยกิน?” ศิษย์พี่ใหญ่ต้วนสุ่ยหลิวถามอีกครั้ง
“คะ…คะ…คะ…เคยกิน ข้าถูกบังคับ ข้า…” สีหน้าเขาดูไม่ได้ยิ่งกว่ายามร้องไห้
ชิ้ง!
แสงดาบฉายวาบ
ศิษย์พี่ใหญ่ต้วนสุ่ยหลิวเหวี่ยงดาบเป็นครั้งที่สี่
จากนั้นเขาจึงแกว่งตามอำเภอใจ ดาบคาดเอวส่งเสียงเคร้ง พุ่งเข้าไปในฝักดาบที่อยู่ในมือของหัวหน้ามือปราบ
“ครั้งต่อไปจงตรวจสอบให้แน่ใจ ห้ามไม่ให้มีปลาหลุดรอดจากตาข่ายอีก” ศิษย์พี่ใหญ่ต้วนสุ่ยหลิวมองไปยังเฝิงหยวนซิง
แม้จะรู้ว่าเทพมรณะผู้นี้เป็นนายของฝ่ายตน เขาก็ยังตระหนกตกใจ พยักหน้าติดกันแล้วตอบว่า “ขอรับๆ ข้าจดจำไว้แล้ว”
“ไปที่ต่อไปกันเถอะ”
ศิษย์พี่ใหญ่ต้วนสุ่ยหลิวออกไปจากถนนวารีหวน
เฝิงหยวนซิงรีบเร่งติดตามไปพร้อมกับทหารหลายสิบนาย เหลือทหารมือดีนับร้อยไว้ให้ล่ามคนค่ายลมโชยด้วยโซ่ตรวนที่ตระเตรียมรอไว้แล้ว จากนั้นกักตัวนักโทษทีละคนเคลื่อนย้ายไปยังคุกคุมขัง
ผู้คนจากค่ายลมโชยจบสิ้นแล้ว
…….
หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป
พรรควาฬแดงถูกศิษย์พี่ใหญ่ต้วนสุ่ยหลิวขวางไว้ที่ถนนธารน้ำ
เมื่อเฝิงหยวนซิงประกาศบทลงโทษ ลู่เซิ่งหัวหน้าพรรคร่วมมือกับผู้อาวุโสสี่คน แต่ไม่สามารถต้านทานการฟันเพียงสองดาบของต้วนสุ่ยหลิวได้ พวกเขาพ่ายแพ้ย่อยยับ
สมาชิกทั้งหมดห้าสิบเอ็ดคนถูกจับกุม
……..
ประมาณหนึ่งก้านธูปหลังจากนั้น
เขตถนนทางตอนใต้ของเมือง
เฝิงหยวนซิงประกาศบทลงโทษ
ศิษย์พี่ใหญ่ต้วนสุ่ยหลิวสังหารไป๋อวิ๋นเฟยหัวหน้าพรรคอาชาเหินในหนึ่งดาบ สมาชิกอีกสิบหกคนเสียชีวิตจากการต่อสู้ ไม่อาจต้านทานหกดาบของต้วนสุ่ยหลิวได้ แพ้ย่อยยับกันทั้งหมด
…….
ผ่านไปอีกหนึ่งถ้วยชา
จางเฝ่ยผู้นำกลุ่มโจรม้าเขียวถูกศิษย์พี่ใหญ่ต้วนสุ่ยหลิวฟันขาดสองท่อน แม้แต่ทวนสามแฉกปีกหงส์อาวุธมีชื่อเสียงที่หนักถึงห้าร้อยจินก็ถูกผ่าเป็นสองส่วน
……..
ข่าวการล่าสังหารวีรบุรุษจอมยุทธ์แพร่กระจายไปไม่หยุดหย่อน
บรรยากาศทั้งเมืองอำเภอขาวพิสุทธิ์ร้อนระอุและชวนอกสั่นขวัญแขวน
“หานเฟยจอมเด็ดบุปผาถูกสังหารแล้ว”
“ไม่จริงกระมัง…หานเฟยจัดว่าไร้เทียมทานในเรื่องวิชาตัวเบา… “
“แต่ดาบของต้วนสุ่ยหลิวเร็วกว่า… “
“นั่นมันดาบชนิดใดกัน ข้าไม่เคยเห็นวิชาดาบนี้มาก่อน”
“เจ้าสำนักทลายภพถามคำถามนี้ก่อนตาย แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ”
“อะไรนะ เจ้าสำนักทลายภพก็ถูกสังหารด้วยฝีมือของต้วนสุ่ยหลิว? ไม่น่าจะใช่ ‘ขวานทลายพิภพ’ ทั้งคู่ของมันเรียกว่าไร้เทียมทานเชียว เป็นยอดยุทธ์ระดับหนึ่งขั้นรวมจิตแล้วยังถูกสังหารอีกรึ…มันรับได้กี่กระบวนท่ากัน?”
“กี่กระบวนท่า? แน่นอนว่ากระบวนท่าเดียวเท่านั้น หนึ่งดาบสิ้นชีพ”
“มีข่าวใหม่มาอีกแล้ว ผู้อาวุโสของสำนักพยัคฆ์เหินก็ถูกสังหารเช่นกัน หนึ่งดาบสะบั้นคอ…”
“สวรรค์ ชายที่มีนามว่าต้วนสุ่ยหลิวคนนี้บ้าคลั่งเกินไปแล้ว เพียงครึ่งวันกว่าเขาก็กำจัดยอดฝีมือในทิศพายัพไปมากมาย เขาต้องการเป็นศัตรูกับคนทั้งยุทธภพอย่างนั้นรึ?”
“ใช่ เขาเป็นดาวพิฆาตและปีศาจโดยแท้ สามารถเข่นฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา หากปล่อยให้เขาสังหารไปเช่นนี้ พวกเราเหล่าชาวยุทธ์ในทิศพายัพจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“ฮ่าๆๆ น่าขันสิ้นดี กลุ่มเล็กๆ อย่างพรรคป่าไผ่ ค่ายลมโชย กับสำนักทลายภพจะเป็นตัวแทนของยุทธภพทิศพายัพได้อย่างไร? พวกมันเป็นแค่ตัวตลกที่กระโดดโลดเต้นไปมา ถือโอกาสที่ ‘จอมมารจันทราโลหิต’ ท้าประลองขุนนางเมืองอำเภอขาวพิสุทธิ์มาสร้างปัญหา พวกที่ตายไปล้วนเสพสุขในช่วงนี้จนหนำใจ ทั้งยังก่อคดีเลือดขึ้นในเขตเมือง ไม่ใช่พวกดีกันทั้งนั้น”
“ใช่แล้ว ม้วนบันทึกของนายทะเบียนอำเภอขาวพิสุทธิ์บันทึกบทลงโทษไว้อย่างชัดเจน ผู้ต้องโทษทุกคนล้วนมีหนทางตายของตัวเอง ศิษย์พี่ใหญ่ต้วนสุ่ยหลิวลงโทษตามกฎหมายบ้านเมืองนับเป็นเรื่องธรรมดา แม้เรื่องนี้สาวไปถึงสำนักเทพ ‘ทุ่งปิดภูผา’ ก็สมควรแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา