หลี่มู่ร่ายในใจ กระตุ้นวิชาดาบเหินหาว ดาบบินสิบเล่มสั่นคว้าง สร้างระลอกคลื่นอากาศชั้นหนึ่งบนท้องฟ้ากระเพื่อมออกไปราวคลื่นน้ำ ส่วนดาบบินพุ่งทะลวงเป็นสายรุ้งในพริบตา เส้นโค้งคล้ายเขาแพะตีวงโคจรจากมุมที่แตกต่างกัน ฟาดฟันสังหารไปยังจักรพรรดิฉินหมิง
ไม่จำเป็นต้องพูดมาก
เพียงสู้ศึกเท่านั้น
ด้วยวิชาดาบเหินหาวและจิตดาบ การกระตุ้นพลังของมิติเก็บดาบ ตัวดาบได้รับพลังไฟจักรพรรดิ ความแข็งแกร่งของอานุภาพโจมตีเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งไม่มีสอง องครักษ์มารเกราะดำสิบคนที่เฝ้าสิบทิศทางก่อนหน้านี้รวมตัวกันเป็นค่ายกลมารฟ้า แต่ยังถูกหลี่มู่โจมตีแตกพ่ายในคราเดียว นี่นับเป็นอภินิหารที่จัดการมหาเทวะได้ในพริบตา
“มีพลังฝึกเช่นนี้ได้ หายากจริงๆ สมแล้วที่กำเริบเสิบสานเช่นนี้” จักรพรรดิฉินหมิงยิ้มเรียบๆ เอ่ยต่อว่า “ถ้าหากในศึกที่ขุนคีรีเมื่อครั้งนั้นเจ้ามีพลังแบบนี้ ข้าต้องยอมถอยให้เป็นแน่ นี่เป็นเรื่องแรกที่คุ้มค่าให้เจ้าเสียใจภายหลัง”
เขาพูดพลางงอนิ้วดีดเบาๆ
เคร้งๆๆ!
พลังดัชนีมารฟ้าไร้ลักษณ์พลันดีดดาบบินซึ่งตีวงโค้งเป็นมุมอันน่าเหลือเชื่อกระเด็นออกไป พลังไฟจักรพรรดิที่เสริมอยู่บนตัวดาบก็สลายหายไปเช่นกัน
ดาบยาวหมุนคว้างกลับมาทางหลี่มู่
สีหน้าหลี่มู่ไม่แปรเปลี่ยน กระตุ้นมิติเก็บดาบเต็มกำลัง
ฟิ้วๆๆ
ดาบบินหนึ่งร้อยแปดเล่มพุ่งออกไปรวดเร็วยิ่ง เพียงพริบตาทั่วฟ้าก็เต็มไปด้วยจิตดาบที่ดุดัน แสงดาบระยิบระยับเดี๋ยวชัดเดี๋ยวเลือนหลายสายประดุจสายฟ้า พลังปีศาจสีหมึกที่ไหลเวียนถูกตัดแยกเป็นร่องๆ ในพื้นที่รัศมีสองลี้เสมือนโดนคมดาบฟันผ่าในฉับพลัน
จักรพรรดิฉินหมิงตกอยู่ในตาข่ายเขตแดนดาบอันไร้รูปร่างทันที
แสงดาบวูบวาบ วัตถุทั้งหมดรอบตัวเขาพลันกลายเป็นฝุ่น เปลี่ยนเป็นความว่างเปล่า
“สิ่งที่เจ้าพลาดลำดับที่สอง คือไม่ยอมบุกโจมตีจวนเจ้าเมืองตั้งแต่แรก มัวเสียเวลาอยู่นานสองนาน ข้าประมาทเลินเล่อจึงบาดเจ็บเพราะจิตกระบี่เทพที่เหลืออยู่ในร่างของอวี๋ฮว่าหลง ใช้เวลารักษาครึ่งชั่วยามเต็มถึงสามารถขับจิตกระบี่นั้นออกมาได้ หากเป็นช่วงหนึ่งถ้วยชาก่อนหน้า ขณะที่รักษาอาการบาดเจ็บอยู่ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้ น่าเสียดาย ตอนนี้ข้าฟื้นฟูกลับมาเต็มที่แล้ว…”
ระหว่างที่จักรพรรดิฉินหมิงยิ้มราบเรียบ นิ้วยังคงดีดออกมาไม่หยุด
กลางอากาศ ประกายไฟแสบตาระเบิดติดต่อกันประหนึ่งดอกไม้ไฟ จากนั้นเสียงโลหะกระทบกันโครมครามดังขึ้นมา ดาบบินหลายเล่มถูกดีดกลางอากาศ พลิกกลับพุ่งตรงกลับมา
ผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งใต้หล้า เพียงขยับแขนขาก็ทำลายวิชาดาบเหินหาวอาบไฟจักรพรรดิของหลี่มู่ได้
“พูดมากจริง รีบๆ ลงนรกไปเสีย” กลางหว่างคิ้วของหลี่มู่ เนตรสวรรค์เปิดออก สายฟ้าสีม่วงก่อตัวขึ้นในเนตรสวรรค์ ก่อนแสงอัสนีเทพสีม่วงสายหนึ่งจะถูกยิงออกไป
เนตรอัสนีม่วง
พลังอัสนีที่น่าสะพรึงกลัวหลอมละลายพลังปีศาจสีดำหนาหนัก ไหลเข้าไปด้านหน้าจักรพรรดิฉินหมิงในพริบตา เขาตะโกนลั่นภายใต้ความอึ้งงัน “กลยุทธ์มารฟ้า หมื่นเวทไร้พรมแดน”
พลังแห่งมารฟ้าซึ่งเข้มข้นราวน้ำหมึกระเบิดออกทันใด พริบตาเดียวในทั่วทั้งด่านเมืองมังกรมีมารฟ้าออกเริงระบำ ไอมารสีดำกลายเป็นร่างเงามารซ้อนทับกัน ทหารฉินตะวันตกนับแสนที่ตั้งมั่นอยู่ในเมืองถูกพลังปีศาจนี้ช่วงชิงชีวิตไปในพริบตา เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ที่หวงเซิ่งอี้และดาบจักรพรรดิอิ้งซานเสวี่ยอิงดูดกลืนชีวิตของทหารรักษาวังแล้วไม่มีอะไรต่างกันเลย พลังน่ากลัวเข้ามารวมกันที่ร่างของจักรพรรดิฉินหมิงในพริบตา ทั้งร่างของเขาจมหายไปกับหมอกสีดำข้นหนักราวหมึกนี้ แววตาทั้งสองสั่นไหว เปล่งแสงน่ากลัวปานเลือดสดออกมา
ตูม!
ร่างของจักรพรรดิฉินหมิงถูกอัสนีเทพสีม่วงกระแทก ไอมารหลอมละลาย ต้องถอยหลังไม่หยุด แต่ท้ายสุดก็ยังต้านทานการรุกรานของพลังอัสนีนี้ไว้ได้ ทั่วร่างมีไอมารสีหมึกพันรอบ ยืนนิ่งอยู่อย่างมั่นคง
“ไม่มีประโยชน์ ขั้นพลังของเจ้ายังไม่เพียงพอ แค่ก้าวที่สองขั้นเหนือมนุษย์เท่านั้น ถึงแม้จะสังหารมหาเทวะได้ในพริบตา แต่ขั้นพลังแตกต่างกันเกินไป คิดจะทำให้ข้าพ่ายแพ้คือเรื่องเพ้อฝัน” จักรพรรดิฉินหมิงยืนมั่นคง หัวเราะเยาะอย่างหยิ่งยโสและดูแคลน
เมื่อครู่เขาอาศัยพลังฝึกที่ลึกล้ำสูงส่ง แทบจะเป็นพลังที่เทียบเท่ากับขั้นทะลวงสวรรค์ สกัดกั้นเนตรอัสนีม่วงของหลี่มู่ไว้ หากหลี่มู่ฝึกจนเข้าขั้นทะลวงสวรรค์ ไม่สิ ต่อให้เข้าขั้นมหาเทวะ พลังเนตรอัสนีม่วงนี้ก็เพียงพอที่จะบดขยี้เขาให้พินาศกลายเป็นฝุ่นผงได้ ทว่าพลังฝึกหลี่มู่ไม่มากพอ มีแต่ต้องพลาดไปในขั้นสุดท้ายเท่านั้น
หลี่มู่ไม่ได้พูดอะไร
วิชาดาบเหินหาวอาบไฟจักรพรรดิบวกกับเนตรอัสนี โจมตีต่อเนื่องไม่หยุด
จักรพรรดิฉินหมิงสำแดงวิชาที่ไม่ใช่พลังของโลกใบนี้ วิชาเต๋ากับพลังจากไอมารสีดำเข้มกวาดปกคลุมทั่วเมือง และแปรเปลี่ยนเป็นอักขระนอกพิภพหลายตัวอย่างต่อเนื่อง เคลื่อนย้ายไปมาไม่หยุด แต่กลับสามารถเหนี่ยวนำพลังฟ้าดิน ขานรับดวงดารา สกัดกั้นดาบบินไฟจักรพรรดิและเนตรอัสนีของหลี่มู่ได้ทั้งหมด
หลี่มู่ใช้ไพ่ตายไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่อาจทำลายการป้องกันของจักรพรรดิฉินหมิงได้
“พอแค่นี้เถอะ เจ้าสังหารข้าไม่ได้หรอก” จักรพรรดิฉินหมิงยิ้มเย็น จ้องมองหลี่มู่ด้วยความเย้ยหยันและเวทนา “หากเจ้าฝึกมาอีกสักสิบปี อาจจะสามารถต่อกรข้าได้ ทว่าตอนนี้…นี่คือไพ่ตายของเจ้าทั้งหมดแล้วสินะ? ก็พอๆ กับอวี๋ฮว่าหลงเท่านั้น คิดจะสังหารข้ายังห่างไกลอีกหลายขุม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา