กลางท้องฟ้า พลังมารฟ้าสีดำหมุนวนปานน้ำเดือดในหม้อ เดือดพล่านอย่างบ้าคลั่ง แต่สุดท้ายก็กลับสู่ความสงบแล้วสลายไปช้าๆ เหมือนกับความไม่ยอมแพ้สุดท้ายในชีวิตของจักรพรรดิฉินหมิง ที่สุดท้ายก็หายไปอยู่ดี
หลี่มู่ลงมาบนพื้นอย่างเนิบช้า
ตอนนี้ด่านเมืองมังกรกลายเป็นเมืองผีไปแล้ว
เมื่อครู่ที่จักรพรรดิฉินหมิงสำแดงวิชากลยุทธ์มารฟ้า ก็ดูดกลืนเลือดและปราณของกองกำลังโองการฟ้าและทหารรักษาวังซึ่งตั้งมั่นอยู่ที่นี่จนกลายเป็นศพแห้งๆ หมดแล้ว เหมือนที่ ‘ดาบจักรพรรดิ’ อิ้งซานเสวี่ยอิงสำแดงวิชาปีศาจนอกพิภพสูบกลืนจากกองกำลังรักษาวังที่นำทัพไปในวันนั้น
ทั้งกองทัพพินาศย่อยยับ
วิชาลับมารฟ้าเป็นวิชาสังหาร ชั่วร้ายเหลือพรรณนา
หลี่มู่กำตราสะกดมารฟ้าเอาไว้ในมือ หายใจเหนื่อยหอบ ร่างกายสั่นสะท้านจนแทบยืนไม่อยู่
จักรพรรดิฉินหมิงพูดถูกอยู่เรื่องหนึ่ง
วิชาหมัด ‘พันคลื่นวารี’ ไม่ใช่จะกระตุ้นขึ้นมาได้โดยไร้ที่มาจริงๆ
กระบวนท่าใดๆ ก็ตามในหมัดยุทธ์แท้ล้วนมีเงื่อนไขด้านความแข็งแกร่งของกายเนื้อผู้ใช้สูงมาก ด้วยความแข็งแกร่งของกายเนื้อหลี่มู่ก่อนหน้านี้ พูดได้ว่าอยู่ในขั้นเทวะไร้พ่าย แต่ก็ยังไม่อาจรับพลังของ ‘พันคลื่นวารี’ ได้ มีเพียงผ่าน ‘วิชาก่อนกำเนิด’ ขั้นที่สามจึงจะสามารถรับพลังของกระบวนท่านี้ ฝึกฝนสำเร็จ และสำแดงพลังออกมา
พลังของ ‘พันคลื่นวารี’ มหาศาล แก่นแท้ในนั้นเป็นถึงวิชาสายเซียน ไม่ต้องสะสมพลังก่อน แค่ต้องสำแดงหมัดออกมาพอ พลังของทุกหมัดเพิ่มทบ ไม่ผลาญอายุขัย ไม่ต้องการเลือดลมปราณ เงื่อนไขเพียงอย่างเดียวคือกายเนื้อจะต้องแบกรับพลังของวิชาหมัดได้
ชามใบหนึ่งไม่อาจบรรจุธารน้ำทั้งสาย
บ่อน้ำบ่อหนึ่งไม่อาจกักเก็บน้ำทั้งมหาสมุทร
กายเนื้อหากเหมือนบ่อน้ำ แน่นอนว่าไม่อาจสำแดงพลังดั่งมหาสมุทรออกมาได้
ความแข็งแกร่งของกายเนื้อหลี่มู่ในตอนนี้ พูดได้ว่าไร้พ่ายเป็นรองแค่ขั้นทะลวงสวรรค์แล้ว จึงสำแดงหมัดสุดยอดสุดท้ายออกมาได้ แต่สำหรับหลี่มู่ พลังของหมัดสุดยอดนี้อยู่เหนือทะลวงสวรรค์ ทำให้กายเนื้อเขาแบกรับพลังกดดันมหาศาล และเกิดอาการบาดเจ็บ
“ใต้เท้า…”
“เทวะหลี่ชนะแล้ว”
“จักรพรรดิฉินหมิงตายแล้ว”
จางซาน มู่ชิง และกองกำลังที่เหลือของต้าเยวี่ยพุ่งเข้ามาจากนอกเมือง ส่งเสียงโห่ร้องยินดีอย่างบ้าคลั่ง
คิดไม่ถึงจริงๆ
พวกเขาล้วนตัดสินใจที่จะตาย กลับมาสู้เคียงบ่าเคียงไหล่หลี่มู่ ตัดสินใจจะสละชีพเพื่อความถูกต้องอย่างมุ่งมั่น ไม่คิดว่าจะมีชีวิตกลับไปได้เลย
มนุษย์มีเกิดมีตาย ก็เดินไปสู่ความตายอย่างเยือกเย็นในวันนี้
แต่ว่า ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นท่ามกลางความสิ้นหวังแล้ว
เทวะหลี่พลิกสถานการณ์ สังหารจักรพรรดิฉินหมิงที่ด่านเมืองมังกรได้จริงๆ
จักรพรรดิฉินหมิงนั่งอยู่บนตำแหน่งสุดยอดผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งในใต้หล้าอย่างกลายๆ
หลี่มู่สังหารเขาลงหมายถึงอะไร?
ที่หนึ่งในแผ่นดินคนใหม่ถือกำเนิดแล้ว?
พวกเขาพุ่งมาประหนึ่งคลื่น หยุดฝีเท้าลงห่างจากหลี่มู่หนึ่งจั้ง สายตาจ้องไปยังเด็กหนุ่มผมสั้นชุดขาวด้วยความเคารพบูชา ราวมองเทพเทวะอย่างไรอย่างนั้น
หลี่มู่สูดลมหายใจลึก โคจร ‘วิชาก่อนกำเนิด’ ปรับลมหายใจ ฝืนกดบาดแผลปริแตกของกายเนื้อลงไปก่อน จากนั้นเริ่มสำรวจตราประทับมารฟ้าในมือ อยากจะช่วยสามจิตเจ็ดวิญญาณของอวี๋ฮว่าหลงที่ถูกขังอยู่ในนั้นออกมา
ต้องยอมรับว่าวิชารวมวิญญาณของจักรพรรดิฉินหมิงเลิศล้ำนัก ในตราประทับมารฟ้า คนตัวเล็กซึ่งเหมือนอวี๋ฮว่าหลงนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงกลาง ดวงตาทั้งสองปิดสนิท บาดเจ็บไม่มีสติรับรู้ แต่คลื่นพลังวิญญาณชัดเจน วิญญาณรักษาไว้ได้ครบสมบูรณ์มาก
เพียงแต่จะดูถูกความลึกล้ำในตราประทับมารฟ้าไม่ได้เลย หลี่มู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสไม่กล้าลองคลายผนึกตอนนี้ ถึงอย่างไรข้างในก็เป็นวิญญาณของอวี๋ฮว่าหลง วิญญาณนั้นสุดแสนจะอ่อนแรง ทั้งยังพิเศษยิ่งกว่า ไม่หยาบเหมือนกายเนื้อ หากไม่ระวังเสียหายไปเพียงนิดเดียว ก็อาจทำให้เกิดผลร้ายที่คาดไม่ถึงในภายหลังได้
หลี่มู่คิดๆ ดูแล้ว พลันรู้สึกว่าตราประทับมารฟ้าอันนี้มอบให้เด็กรับใช้บัณฑิตน้อยชิงเฟิงจัดการจะเหมาะกว่า
ตอนนี้ตำแหน่งของชิงเฟิงในใจหลี่มู่สูงมากๆ แล้ว
“ใต้เท้า ต่อไปควรจะทำอะไรดี?” จางซานมองหลี่มู่ด้วยแววตาเคารพเลื่อมใส
หลี่มู่เก็บตราประทับเรียบร้อยแล้วจึงเอ่ยอย่างค่อนข้างอ่อนแรง “ได้วิญญาณกับกายเนื้อของรัชทายาทมาแล้ว บางทีอาจจะมีโอกาสฟื้นคืนชีพ แต่ต้องค่อยๆ วางแผนไป ใจร้อนไม่ได้ ตอนนี้จักรพรรดิฉินหมิงตายแล้ว สิบเมืองเก้าพื้นที่กลับมาเป็นของต้าเยวี่ย อาจต้องให้พวกท่านสร้างบ้านแปงเมืองขึ้นใหม่”
“เรื่องพวกนี้มอบให้พวกข้าน้อยจัดการเถิด” จางซานเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจ
ครั้นได้ยินว่าองค์รัชทายาทมีความหวังที่จะฟื้นคืนชีพ ในใจทุกคนก็ยากจะเก็บความลิงโลดยินดี
นี่เป็นข่าวที่น่ายินดียิ่งกว่าความตายของจักรพรรดิฉินหมิงเสียอีก
หลี่มู่พยักหน้า
น่าเสียดาย วันที่หนิงจิ้งกับตงเสวี่ยตาย เขาหาวิญญาณของทั้งสองในสนามรบไม่เจอ ดังนั้นจึงไม่อาจฟื้นคืนชีพได้ เรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับโอกาส และเป็นวาสนาของแต่ละคน
โชคชะตาของอวี๋ฮว่าหลงไม่เลวเลย
หากเขาถูกจักรพรรดิฉินหมิงสังหารจนร่างกายและจิตวิญญาณสลายสิ้น เช่นนั้นต่อให้หลี่มู่มีความสามารถเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่อาจฟื้นคนตายให้กลับมามีชีวิตได้
หลี่มู่ให้จางซานส่งคนไปรายงานเรื่องความปลอดภัยที่ซ่งเหนือ เมืองขาวพิสุทธิ์ และสำนักขุนคีรี จากนั้นเก็บตัวฝึกฝนในด่านเมืองมังกรเล็กน้อยเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของกายเนื้อ
สังหารจักรพรรดิฉินหมิงไปแล้ว ในใจของหลี่มู่ไม่ได้ยินดีอะไรเท่าไร
เพราะย่าหลานไช่ไช่ตายเสียแล้ว
สำหรับหลี่มู่ นี่คือเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจเรื่องที่สองนับจากความตายของหนิงจิ้งและตงเสวี่ย การจากไปของญาติสนิทมิตรสหาย ทำให้หลี่มู่ที่ตอนนี้พูดได้ว่าเป็นหนึ่งในใต้หล้าแล้วรู้สึกจนปัญญาและเศร้าสลดเช่นกัน
วันนั้นตอนบ่าย กองทัพต้าเยวี่ยหาศพของประชาชนในเมืองที่ถูกสังหารตรงเนินเขาสิบลี้เจอ
หลี่มู่มาด้วยตัวเอง
ชาวบ้านพวกนี้ตายอย่างน่าสังเวชนัก ทั้งหมดถูกคมดาบแยกร่าง ซากแขนขามีอยู่ทุกที่ ถูกม้าเหยียบแหลกเละเป็นโคลนเลือด ไม่อาจแยกแยะรูปร่างหน้าตาของพวกเขายามมีชีวิตได้อีก ซากศพหลายหมื่นร่างกองรวมอยู่ด้วยกัน ทุกคนมีความรู้สึกร่วมกัน ผู้พบเห็นล้วนน้ำตานอง
“กองทัพฉินตะวันตกพวกนี้สมควรตายเป็นหมื่นครั้ง”
“ไม่มีความเป็นคนแม้แต่น้อย”
ทหารกองทัพเยวี่ยมากมายน้ำตาไหล กัดฟันกรอด
หลี่มู่หาอยู่นานมาก แต่สุดท้ายก็หาศพของย่าหลานไช่ไช่ไม่เจอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา