ชื่อของหลี่มู่ทำให้คนนับไม่ถ้วนหนาวสะท้าน
ขั้วอำนาจ บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ และผู้เยี่ยมยุทธ์มากมายมองหลี่มู่คนผู้นี้ไม่ค่อยออกแล้ว
นับจากเด็กหนุ่มคนนี้ผงาดขึ้นที่อำเภอขาวพิสุทธิ์ ศึกเล็กศึกใหญ่แทบจะไม่พ่ายแพ้ ทุกครั้งที่สู้กับคนมีชื่อเสียง ตำแหน่งอยู่เหนือเขา คนนอกต่างคิดว่าเขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าผลสุดท้ายล้วนเกิดปาฏิหาริย์…
ใครก็ตามที่เป็นศัตรูกับหลี่มู่ ทั้งหมดตายสิ้น
เขาคือตำนานไร้พ่าย
ชั่วขณะที่ไม่รู้ตัว หลายคนเหมือนมองเห็นตำนานใหม่แห่งยุคกำลังก่อร่างขึ้นช้าๆ ประหนึ่งดวงอาทิตย์ในทิศตะวันออกเริ่มเปล่งแสงประกายร้อนแรงของตัวเอง สว่างพร่างพรายจนคนอื่นไม่อาจลืมตาได้
ในสายลมเคล้ากลิ่นคาวเลือด
ภายในเมืองร้างที่คนตายหมดสิ้นเมืองหนึ่ง เลือดไหลนอง เยวี่ยกั๋วเซียงเลียคราบเลือดตรงมุมปาก หลังจากได้รับข่าวหนึ่งมา เมื่ออ่านจบเหงื่อเย็นก็ผุดซึมทั้งร่าง
“หลี่มู่คนนี้ แข็งแกร่งถึงระดับนี้เชียวรึ จักรพรรดิฉินหมิงสืบทอดวิชาจากสำนักมารฟ้า แม้แต่วังประสานฟ้ายังต้องหลีกให้ เขากลับสังหารจักรพรรดิฉินหมิงที่ได้รับกลยุทธ์มารฟ้ามาโดยตรงได้…แผนของข้าในวันนั้นนับว่าหลักแหลม ออกจากเมืองหลินอันมาเลย หากสู้กับเขาจริงๆ เกรงว่าตอนนี้คงถูกฆ่าตายไปแล้ว”
เมื่อนึกถึงวันนั้นที่โดนหลี่มู่ไล่สังหารจนจำต้องใช้ ‘ธงเหลืองประตูสวรรค์’ หลบหนี ในใจของเยวี่ยกั๋วเซียงก็พลันไม่พะว้าพะวงอีกต่อไป
อย่างไรเสียจักรพรรดิฉินหมิงที่สำเร็จกลยุทธ์มารฟ้าขั้นที่หนึ่งสมบูรณ์ยังตาย เทียบกันแล้ว ตัวเองหนีรอดมาได้นับว่าเป็นความสามารถอย่างหนึ่งด้วยซ้ำ
“ต้องรีบฟื้นฟูพลังแล้ว”
เขายืนอยู่บนท้องฟ้าเหนือเมืองร้างนองเลือด ในใจคิดวางแผน
“เมืองเล็กๆ แบบนี้มีคนแค่หลายแสน กลืนกินหมดแล้วยังชดเชยเลือดลมได้ไม่เท่าไร ต้องไปเมืองที่ใหญ่ขึ้นอีกหน่อย อืม ข้าจำได้ บนแผนที่บอกว่าห่างจากที่นี่ไปพันลี้มีสำนักยุทธ์ระดับสามชื่อ ‘หอกระบี่คลื่นมรกต’ อยู่ เลือดของจอมยุทธ์มีพลังงานมากกว่านี่ ฮี่ๆๆ…ถึงอย่างไรสิ่งมีชีวิตในโลกชั้นต่ำแบบนี้ก็ไร้ค่าเหมือนมดปลวก ฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไร”
ร่างของเขาแปลงเป็นแสงสีเงิน บินมุ่งไปยังสำนักหอกระบี่คลื่นมรกต
ข้างหลังเขา ในอาณาบริเวณหลายแสนลี้รวมถึงเมืองร้างที่ถูกกัดกินเมื่อครู่ เมืองมนุษย์ขนาดเล็กทั้งหมดกลายเป็นนรกโลหิต แต่ละเมืองตายหมดสิ้น กลายเป็นทางอาบเลือดมรณะยาวเหยียดสายหนึ่ง
ในขณะเดียวกัน
ในหุบเขาร้อยบุปผาสำนักระดับสองของซ่งเหนือ บุตรบุตรเทวะเสียไห่บีบคอของหญิงขั้นเหนือมนุษย์ที่ร่างยังคงกระตุกคนหนึ่ง พลางอ้าปากสูบเลือดนางไปจนสิ้น
หญิงขั้นเหนือมนุษย์ที่หน้าตางดงามคนนั้น ดวงตามีความเคียดแค้นและไม่ยอมจำนน ค่อยๆ กลายเป็นซากศพแห้งๆ ด้วยความเร็วระดับตาเปล่าเห็น
“อา เลือดของหญิงพรหมจรรย์ขั้นเหนือมนุษย์ยังเลิศรสเสมอเลย”
เขาโยนซากศพแห้งทิ้งไปด้านหนึ่ง
สายลมพัดมา กลิ่นคาวเลือดชวนขนลุก
สำนักจอมยุทธ์หญิงหุบเขาร้อยบุปผาตายไม่มีเหลือ
ลูกศิษย์สาวเกือบหมื่นคนกลายเป็นซากแห้งประดุจดอกไม้งามพลันแห้งเหี่ยว ไม่หลงเหลือน้ำหนักใดๆ เมื่อลมพัดต้อง แต่ละร่างกลิ้งหลุนๆ ไปบนพื้นปานดอกไม้แห้ง เสื้อผ้าอาภรณ์งดงามที่หุ้มซากแห้งปลิวสะบัด ดูไปแล้ววิเวกวังเวงยิ่งนัก
“ฝ่าบาท เกรงว่าหลี่มู่จะร่วมชิงสมบัติในสุสานเทพด้วย อย่างไรเขาก็มีคนรู้จักในเมืองหลินอัน น่ากลัวว่าคงจะรู้ข่าวอะไรบ้างแล้ว” ‘จอมมารจันทราโลหิต’ ยืนอยู่ข้างๆ
บุตรเทวะเสียไห่หัวเราะ พลันเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าว่า เสือสองตัวสู้กัน ตัวหนึ่งตาย อีกตัวหนึ่งจะเป็นเช่นไร?”
ดวงตาของ ‘จอมมารจันทราโลหิต’ วาววับ “บาดเจ็บ?”
เสือสองตัวสู้กัน ต้องมีตัวหนึ่งบาดเจ็บแน่นอน
จักรพรรดิฉินหมิงตายแล้ว เช่นนั้นหลี่มู่จะไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อยหรือ?
ดังนั้น อย่ามองว่ายามนี้ชื่อเสียงและบารมีของหลี่มู่จะเลื่องลือไปทั่วแผ่นดิน ใกล้ระดับไร้พ่าย บางทีตอนนี้อาจเป็นช่วงที่เขาอ่อนแอที่สุดก็เป็นได้
“ฝ่าบาท พวกเราควรไปหยั่งเชิงสักหน่อยหรือไม่?” ‘จอมมารจันทราโลหิต’ อยากลองดูเต็มที
บุตรเทวะเสียไห่มองเขาแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ย “เรื่องที่ไม่มีประโยชน์ไม่ต้องทำ”
จอมมารจันทราโลหิตชะงัก “เช่นนั้นเล่า?”
“ปล่อยข่าวออกไป ใต้ฟ้านี้มีคนมากมายอยากเคลื่อนไหว ถึงอย่างไรก็ยิ่งสูงยิ่งหนาว มีใครบ้างไม่อยากนั่งบัลลังก์ที่หนึ่งในแผ่นดินสักหน่อย? ต่อให้แตะๆ รองเท้าของที่หนึ่งนี้ได้ก็ยังดี” บุตรเทวะเสียไห่กล่าว
คราวนี้จอมมารจันทราโลหิตเข้าใจในทันที
ยืมดาบฆ่าคนนี่เอง
“เอาละ พวกเราต้องออกเดินทางแล้ว ไปสำนักต่อไป ตอนนี้ข้าเพิ่งฟื้นพลังไปได้ไม่ถึงครึ่ง ยังต้องใช้เลือดพิสุทธิ์ของขั้นเหนือมนุษย์อย่างน้อยพันคนจึงจะฟื้นฟูโดยสมบูรณ์ ตอนนั้นถึงค่อยมีคุณสมบัติเข้าชิงสมบัติในสุสานเซียน”
บุตรเทวะเสียไห่ลอยจากไป
ไม่เหมือนกับเยวี่ยกั๋วเซียงแห่งวังประสานฟ้า
เขาเลือกอาหาร จะไม่มีทางกินคนธรรมดา
……
หลี่มู่แห่งขาวพิสุทธิ์บาดเจ็บสาหัสเกือบตาย
ข่าวที่เปรียบดั่งสายฟ้าฟาดนี้แพร่ไปในสามจักรวรรดิอย่างบ้าคลั่ง
ไม่ต้องสงสัยเลย ด้วยกระแสของข่าวที่หลี่มู่สังหารจักรพรรดิฉินหมิงก้าวขึ้นบัลลังก์ผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่ง ความร้อนแรงของข่าวนี้ถึงขั้นเล่าลือกันไปบ้าคลั่งกว่าข่าวก่อนหน้าเสียอีก
ถึงแม้ข้อเท็จจริงของข่าวนี้จะไม่มีหลักฐานใดพิสูจน์ได้ก็ตาม
แต่ว่าหลายคนก็เลือกที่จะเชื่อทันที
อย่างไรเสียเสือสองตัวสู้กัน ต้องมีตัวหนึ่งบาดเจ็บแน่
จักรพรรดิฉินหมิงเป็นถึงสุดยอดผู้แข็งแกร่งที่สังหารบุคคลในเก้ายอดคน เป็นข้อได้เปรียบของจักรวรรดิ ผู้แข็งแกร่งฝ่ายทหารรักษาวังใต้บังคับบัญชามีนับไม่ถ้วน หลี่มู่ต่อให้แข็งแกร่งทรงพลัง แต่หลังจากสังหารผู้แข็งแกร่งแบบนี้ไป คงไม่มีทางถอยหนีได้โดยสมบูรณ์และไม่บาดเจ็บเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา