ดวงตาของทารกหญิงดำขลับดั่งนิล ไม่มีสิ่งปลอมปนแม้แต่น้อย บริสุทธิ์ปานน้ำพุยามสารทฤดูในเขาร้อยปี ทำให้จิตใจที่ร้อนรุ่มเป็นอย่างยิ่งของหลี่มู่สงบลงโดยไม่รู้ตัว
นับจากที่เจอเจ้าตัวน้อยใต้หอที่พังถล่มในเมืองพยัคฆ์หมอบ หลี่มู่ก็กอดไว้กับอกไม่ปล่อย
ส่วนมารดาของทารกหญิงฝังศพแล้วเรียบร้อย
เจ้าตัวน้อยก็ติดหลี่มู่เป็นพิเศษ
โดยเฉพาะเมื่อหลี่มู่ใช้พลังธาตุไม้จักรพรรดิเขียวแดนตะวันออกปรับสมดุลร่างกาย เพิ่มเลือดลมให้แล้ว นางก็สนิทชิดเชื้อว่าง่ายยิ่งนักอยู่ในอ้อมแขนของเขา ยามมองเห็นหลี่มู่ก็ส่งเสียงหัวเราะใสบริสุทธิ์อย่างที่มีเฉพาะในเด็กทารก
“ใต้เท้า จวนเจ้าเมืองเกิดเรื่องแล้ว” เพิ่งเข้าเมืองมา ผู้บัญชาการกองทัพต้าเยวี่ยคนหนึ่งก็พุ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน
หลี่มู่ฟังจบ ความหงุดหงิดในใจก็ผุดขึ้นมาอีก
“ไปดูสักหน่อยเถิด” เขาอุ้มเด็กทารกหญิงเอาไว้ หยอกล้อปลอบประโลมพลางเดินไปทางจวนเจ้าเมืองอย่างไม่รีบไม่ร้อน
ไม่นานนัก ด้านหน้าก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น ประตูใหญ่ของจวนเจ้าเมืองปรากฏอยู่เบื้องหน้า
“ฆ่าเจ้าสารเลวหลี่”
“ให้หลี่มู่ออกมา”
“ฆ่ากากเดนที่เหลือของต้าเยวี่ยพวกนี้เสีย ดูซิว่าเจ้าชั่วหลี่มู่จะปรากฏตัวขึ้นหรือไม่”
เสียงตะโกนต่างๆ ทำให้หลี่มู่คิดว่าตัวเองเหมือนมาห้องสอบสวนอย่างไรอย่างนั้น เขาเห็นจางซานและมู่ชิงสองคนกำลังรักษาความเรียบร้อยอย่างสุดกำลัง แต่กลับต้านทานคนอารมณ์พลุ่งพล่านพวกนี้ไม่ได้
ใบหน้าแต่ละดวงที่คิดไปเองว่าผดุงความยุติธรรมแต่ความจริงกลับตื่นเต้นจนค่อนข้างเหี้ยมเกรียมขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในสายตาหลี่มู่
“หลี่มู่ กลัวแล้วหรือไร? ฮ่าๆ ไม่เป็นไร ขอแค่เจ้าส่งตำราลับวิชาเทพ มอบของล้ำค่ามาให้ พวกข้าจะไว้ชีวิตเจ้าก็ได้”
“ไม่ ยังต้องมอบเมืองขาวพิสุทธิ์มาด้วย ผู้สังหารจักรพรรดิไม่มีสิทธิ์จะอาศัยในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้”
“ผนึกพลังฝึกด้วยตัวเอง ปลีกวิเวกห้าร้อยปี”
“ฮ่าๆ หลี่มู่ก็มีวันนี้ด้วยเหมือนกัน”
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดมากอย่างหนึ่ง คนส่วนมากยามอยู่ตัวคนเดียวมักจะใจเย็นและสงบนิ่งนัก คิดหน้าคิดหลัง คิดให้รอบคอบแล้วจึงทำ แต่เมื่อคนมากมายรวมตัวอยู่ด้วยกันจะอยู่ในสภาวะคึกคะนองและหัวรุนแรง คนที่ต่อให้มีเหตุผลเพียงใดก็จะมีอารมณ์คล้อยตาม และเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมา
หลี่มู่มองคนเบื้องหน้าพวกนี้ พลันรู้สึกว่าค่อนข้างน่าหัวเราะ
คนพวกนี้พลังฝึกล้วนไม่ธรรมดา ไม่คุ้นหน้า ก่อนนี้ไม่เคยได้เห็นหน้าสักเท่าไหร่ แต่ดูจากเสื้อผ้าอาภรณ์ก็ล้วนแต่เป็นสำนักสืบทอดเก่าแก่และบุคคลยิ่งใหญ่ในตระกูลสูงส่ง มีมารยาท บุคลิกไม่ธรรมดา บ้างสูงส่ง บ้างดุดัน เมื่อเห็นแวบแรกก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา
แต่ความเหี้ยมเกรียมของผู้ยิ่งใหญ่พวกนี้ ในตอนนี้กลับอุจาดตาเสียยิ่งกว่าท่าทางกินอาหารของขอทานข้างถนนเสียอีก
เรื่องราววุ่นวายถึงขั้นนี้เชียวหรือ?
หลี่มู่ได้ยินคำร้องตะโกนของพวกเขา สีหน้าก็แปลกประหลาด
คนพวกนี้ถือสิทธิ์อะไรคิดว่าเขากลัวพวกเขา?
อาศัยอะไรมาคิดว่าตนถูกพวกเขาบีบอยู่ในมือ?
เพียงแค่เพราะหลายวันมานี้ตนไม่สนใจพวกเขา?
พวกเขาปัญญาอ่อนแล้วกระมัง
หรือสมองถูกลาถีบเข้าให้?
อ้อมแขนของหลี่มู่อุ้มเด็กทารกหญิงเอาไว้ เขารู้สึกว่าค่อนข้างน่าขบขัน กระนั้นแล้วจึงโบกมือให้เหล่าทหารหยุดลง ยืนอยู่รอบนอก ดูอยู่เงียบๆ เป็นเพื่อนเขา
หน้าประตูจวนเจ้าเมือง จางซานและมู่ชิงผู้แข็งแกร่งที่ยังเหลือรอดของกองกำลังต้าเยวี่ยทั้งสองสะบักสะบอมยิ่งนัก อีกทั้งทหารต้าเยวี่ยหลายสิบคนที่เดิมรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย ก็ถูกโจมตีลอยกระแทกเข้าไปจวนเจ้าเมือง กระอักเลือด บาดเจ็บสาหัส
ผู้ยิ่งใหญ่ที่ว่าทั้งหลายประชิดจวนเจ้าเมืองมาทีละก้าวๆ
“หลี่มู่ฆ่าฟันจนเป็นสันดาน สมควรตายเป็นหมื่นครั้ง”
“อายุน้อยๆ ก็ฆ่าคนไปมากมายขนาดนี้ แม้แต่องค์จักรพรรดิยังไม่อยู่ในสายตา โตขึ้นจะมิแย่เอาหรือ?”
มีคนเอ่ยเสียงดัง
ความเย็นยะเยือกในดวงตาหลี่มู่แผ่วนออกมาราวเกล็ดน้ำแข็ง
เข่นฆ่า?
เขาหัวเราะหึๆ ขึ้นมาทันที
จักรพรรดิฉินหมิงแค่บัญชาออกมาคำเดียว กองกำลังฉินตะวันตกก็ฆ่าล้างสิบเมืองเกาดินแดนนับล้าน ล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งสิ้น การเข่นฆ่าราวเขาซากศพทะเลเลือดเช่นนี้ ตอนนั้นคนพวกนี้หดหัวอยู่ในป่าลึก ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ไม่กล้าแม้แต่จะผายลม ดูดาย ไม่ตำหนิจักรพรรดิฉินหมิง
แต่ตอนนี้กลับกระโดดออกมาตำหนิตน?
หลี่มู่พลันรู้สึกว่าความหงุดหงิดของตนในหลายวันนี้เป็นเพราะค่อนข้างจะ…เบื่อ?
ความละโมบ ปรารถนา บ้าคลั่ง เหี้ยมเกรียม ชั่วช้า เยาะหยัน บ้าระห่ำ เหี้ยมโหด และหัวเราะยินดีบนใบหน้าของคนพวกนี้…สีหน้าทั้งหมดในสายตาหลี่มู่รวมเป็นคำอย่างช้าๆ
กล้ากับคนอ่อนแอ กลัวคนแข็งแกร่ง
จากนั้นเขาก็ก้มลงมองเด็กทารกในอ้อมอก
ทารกหญิงหลับไปแล้ว ใบหน้ายังอมด้วยรอยยิ้ม มีลักยิ้มอันอบอุ่นเล็กๆ สองข้าง ขนตายาว สีหน้าหวาดหยด มือเล็กๆ ข้างหนึ่งกำเสื้อหลี่มู่เอาไว้แน่น...เป็นภาพที่สงบนิ่งชวนให้คนเคลิ้บเคลิ้มนัก
ความหงุดหงิดในใจของเขาหายไปอย่างรวดเร็ว
ในมังกรหยก ความสับสนและความคิดของก๊วยเจ๋งนั้นเกี่ยวกับความสงสัยเรื่อง ‘ประเด็นวรยุทธ์สังหารคน’ สุดท้ายยาจกเก้านิ้วอั้งฉิกกงเป็นผู้ไขปัญหาให้
ชั่วชีวิตยาจกอุดรสังหารคนไปไม่น้อย แต่ทุกคนสมควรตายทั้งสิ้น เขาใจคอกว้างขวาง ตรงไปตรงมา ไร้มลทิน เผชิญหน้ากับการซักไซ้ของพวกฮิ้วโชยยิ่ม มารบูรพา พิษประจิมและอึ้งย้งก็ต่างจนคำพูด มีเพียงคำอธิบายอันทรงคุณธรรมของอั้งฉิกกงเท่านั้น สุดท้ายก็ทำให้ฮิ้วโชยยิ่มไม่อาจโต้แย้งอะไรได้อีก
หลี่มู่นั้นรู้คำตอบนี้
คำตอบที่ท่านกิมย้งให้เอาไว้ก็คือทำอะไรต้องไม่ละอายใจตน
ก่อนนี้หลี่มู่เสียใจเพราะการตายของไช่ไช่ย่าหลานและคู่สามีภรรยาหนิงจิ้ง นั่นก็เพราะละอายใจตน รู้สึกว่าตัวเองไปไม่ทันเวลา ช่วยพวกเขาเอาไว้ไม่ได้ จึงรู้สึกหงุดหงิดและสับสน
ดังนั้นเขาจึงลืมคำตอบนี้ไปเสียแล้ว
แต่ตอนนี้ เมื่อมองความงดงามของเด็กทารกในอ้อมแขน แล้วมองความชั่วช้าของพวกบุคคลยิ่งใหญ่ในยุทธจักรแต่ละคนหน้าประตู หลี่มู่ก็พลันเกิดความคิดว่าฆ่าคนชั่วพวกนี้ให้หมด เช่นนั้นคนดีก็จะได้รับความช่วยเหลือแล้วใช่หรือไม่?
ก่อนหน้านี้เขาห่วงหน้าพะวงหลัง มีเมตตาเกินไปใช่หรือไม่?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา