ผู้ฝึกตนชุดดำสี่คนที่ถูกหลี่มู่อัดจนน่วมสงบเสงี่ยมในที่สุด สายตาที่มองหลี่มู่เหมือนเด็กประถมบนโลกสอบได้อันดับสุดท้ายมองหน้าพ่อที่อารมณ์ไม่ดี ไม่กล้าแม้แต่จะผายลมด้วยซ้ำ
หลี่มู่ถามอะไร พวกเขาก็ตอบเรื่องนั้น
“พวกเราเป็นลูกศิษย์ของสำนักกำเนิดฟ้า มาถึงเมื่อสามวันก่อนเพื่อชิงโอกาสวาสนา คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะเข้ามาในสุสานเทพก็ได้พบกับผู้สูงส่งทั้งสอง…” คนจมูกงุ้มทำหน้าตาประจบประแจง ใบหน้าฝืนยิ้ม เหมือนยิ้มให้หลานอย่างไรอย่างนั้น
สำนักกำเนิดฟ้า?
ไม่เคยได้ยิน
มิน่าเล่าเมื่อเห็นหลี่มู่ก็ยังกล้าตรงมาวางท่าใส่ ที่แท้ก็ยังไม่ทันรู้สถานการณ์ ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของหลี่มู่นี่เอง
แต่ว่าครั้งนี้จับผู้ฝึกตนนอกพิภพที่ยังเป็นๆ เอาไว้ได้ หลี่มู่มีคำถามมากมาย ในที่สุดก็ถามได้แล้ว
“พวกเจ้ารู้เรื่องสุสานเทพมากน้อยแค่ไหน?” หลี่มู่ถาม “มีแผนที่สุสานเทพหรือไม่?”
เขาเชื่อว่า สำนักนอกพิภพมาเยือนโดยไม่เสียดายว่าจ่ายสิ่งใดเพื่อชิงสมบัติในสุสานเทพก็จะต้องรู้อะไรแน่นอน มิฉะนั้นหากรู้แค่ผิวเผิน ก็คงไม่แห่กันมาแบบนี้
จะต้องมีอะไรที่ทำให้พวกเขาตาร้อนอยากได้มา
“นี่…” คนจมูกเหยี่ยวลังเลเล็กน้อย
หลี่มู่ก้าวขึ้นไปทันที จากนั้นส่งไปอีกหมัดจนจมูกของคนจมูกงุ้มเบี้ยว ก่อนเอ่ยอย่างเหี้ยมโหด “มารดาเจ้าสิ หากยังไม่ยอมพูดอีก เชื่อหรือไม่ว่าข้าเยวี่ยกั๋วเซียงแห่งวังประสานฟ้าคนนี้จะอัดเจ้าให้ตายในหมัดเดียว”
สีหน้าของคนจมูกงุ้มค่อนข้างกระอักกระอ่วน เอ่ยว่า “ผู้สูงส่งท่านนี้ ข้ากับสหายเยวี่ยแห่งวังประสานฟ้า พวกเราเคยพบหน้ากันมาก่อน...”
กัวอวี่ชิงที่อยู่ข้างๆ เกือบหลุดขำออกมา
หลี่มู่หน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที จากนั้นก็กดคนจมูกงุ้มเอาไว้แล้วอัดไม่ยั้ง “มารดาเจ้าสิ แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก หา?”
“อย่าๆ พอแล้ว ข้าพูด ข้าพูดแล้ว…” คนจมูกงุ้มใกล้จะบ้าเต็มทีแล้ว เจอกับบรรพชนที่ไม่เล่นตามบทคนนี้ ซวยไปเป็นแปดชาติจริงๆ ตอนที่ลงมาเยือนครั้งนี้ ทางสำนักไม่ดูฤกษ์ดูยามหรือไร ทำไมถึงได้อนาถขนาดนี้
“แผนที่อยู่ในหัวของพวกเรา” ชายผอมสูงเอ่ยอย่างขลาดกลัว
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ พอเขาพูดจบ สายตาของหลี่มู่จ้องเขม็งไปที่ศีรษะของเขา เหมือนว่าจะแหวกออกดูให้รู้ เขาจึงตกใจฉี่แทบราดในทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน “หากข้าตาย แผนที่ก็จะไม่มีแล้ว ข้านำทางท่านเข้าไปในจุดลึกของสุสานเทพได้”
สุดท้าย ลูกศิษย์หัวกะทิของสำนักกำเนิดฟ้าที่ดวงซวยทั้งสี่ก็ถูกหลี่มู่ลงยันต์เต๋าไว้ในกาย กลายเป็นเชลย ใบหน้าประดับรอยยิ้มประจบประแจงพลางนำทางไปแต่โดยดี
“เดี๋ยวก่อน ไม่รีบ ค้นที่นี่ก่อน” หลี่มู่ชี้ไปยังที่รกร้างรอบๆ “ไปรวบรวมค้นหาเกราะ อาวุธ และสมบัติมาให้หมด ห้ามแอบอู้”
ไม่นานเขาก็หาวิธีที่จะใช้ประโยชน์ของเชลยทั้งสี่ได้แล้ว
สมบูรณ์แบบสุดๆ
เร็วกว่าค้นหาตัวคนเดียวเยอะนัก
หลี่มู่มองรอบๆ ในใจเฝ้ารอว่าหากมีลูกศิษย์สำนักนอกพิภพไม่ดูตาม้าตาเรือมาชิงสมบัติอีก เช่นนั้นจะดีเพียงใด จะจับเอามาใช้แรงงานให้หมด
กัวอวี่ชิงหัวเราะอยู่ข้างๆ ไม่หยุด
น้องสามของตนคนนี้เป็นราชาปีศาจระดับตัวตลกจริงๆ
อันที่จริง ตัวกัวอวี่ชิงเองก็ไม่ใช่คนเงียบน่าอึดอัดไม่รู้จักการเปลี่ยนแปลง
มิฉะนั้นแล้วตอนนั้นเขาจะเกี้ยวพาธิดาเทพแห่งสำนักบัณฑิตถามเต๋าที่งดงามเป็นเลิศสำเร็จได้อย่างไร? นั่นเป็นสาวงามที่ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วหล้าเลยเชียว รูปโฉมความสามารถล้วนยอดเยี่ยม หน้าตาของกัวอวี่ชิงค่อนไปทางกลางๆ ล่างๆ จะไปถูกใจสาวงามได้อย่างไร
เขาเป็นคนตลกหน้าตายเช่นกัน
ดังนั้น เขากับหลี่มู่จึงจัดการเชลยสามสี่คนนี้ด้วยกัน
……
“น้องสาว พวกเราอยู่ที่นี่แบบนี้ไม่เบื่อหรือ?” หวางซืออวี่นั่งเท้าคางอยู่ข้างๆ หมิงเยวี่ย
“พี่สาว น่าเบื่อสุดๆ ไปเลย” หมิงเยวี่ยพูดอย่างน่าสงสาร
ตอนที่พูดประโยคนี้ เด็กน้อยมองตาปริบๆ ไปทางเมืองหลินอันที่มีแสงดำเดือดพล่าน นางชอบเรื่องครึกครื้นนัก ทั้งที่รู้ว่าในเมืองมีละครฉากใหญ่ แต่กลับทำได้แค่รออยู่ที่นี่ วันเวลาดุจผ่านพ้นไปแรมปี
“อยากเข้าไปดูในสุสานเทพหรือไม่?” หวางซืออวี่ถาม
หมิงเยวี่ยตาวาววับ “อยากสิๆ” แต่ก็ห่อเหี่ยวไปทันที “คุณชายไม่อนุญาตให้ข้าไป อีกทั้งยังต้องดูแลพี่ชิงเฟิงด้วย” นางลั่นวาจาไว้แล้ว
หวางซืออวี่ยิ้มพลางเอ่ย “ไม่เป็นไร เจ้าก็ให้ผู้แข็งแกร่งพรรคกระยาจกคุ้มกันชิงเฟิงกลับไป พวกเราแอบเข้าไปดู หากมีอันตรายแค่ถอยออกมาก็ได้แล้ว”
ตาของหมิงเยวี่ยลุกวาวอีกครั้ง
แต่สุดท้ายนางก็ส่ายหน้า “ไม่ได้ ข้าต้องคุ้มครองพี่ชิงเฟิงด้วยตัวเอง” นางไม่ไว้ใจคนอื่น
“ข้าจะไปกับพวกเจ้าด้วย” เสียงหนึ่งดังมา เป็นชิงเฟิงที่มาอยู่ข้างหลังพวกนางตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ สีหน้าของเขาราบเรียบ นั่งอยู่บนเก้าอี้โดยมีหยวนโหว่เป็นคนเข็น
“พี่ชิงเฟิง?” หมิงเยวี่ยอึ้ง
ครั้งนี้ทำไมชิงเฟิงจึงไม่ฟังคำคุณชายเสียแล้ว?
……
“สหายน้อย พวกเราจะค้นหาของในซากปรักหักพังนี้ไปตลอดหรือไร?” คนจมูกงุ้มยิ้มประจบพลางมองหลี่มู่ เขากลัวจะถูกอัดจนหลอนแล้ว
“ใครเป็นสหายของเจ้า เรียกข้าว่ายอดฝีมือ” หลี่มู่ถลึงตา
คนจมูกงุ้มนิ่งไป
ตอนนี้บนตัวหลี่มู่รวมหมวกและชุดเกราะได้ครบชุดแล้ว ถึงแม้จะรวมกันอย่างจับฉ่าย สีไม่เหมือนกัน รูปแบบต่างกันมาก แต่อย่างน้อยก็ครบถ้วน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา