จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 436

“นั่น​ใคร​?”

“รนหาที่​ตาย​”

คน​ตัว​เตี้ย​กับ​สตรี​ชุด​ดำ​ผ้า​โปร่ง​ตั้งตัว​กลับมา​ทันควัน​ โมโห​เป็นอย่างมาก​ พวกเขา​สู้กัน​ถึงตาย​ที่นี่​ ทุ่ม​ชีวิต​เข้า​ช่วงชิง​ กลับ​มีเฉิงเหย่า​จิน​[1]โผล่​ออกมา​กลางทาง​ คิด​จะชุบมือเปิบ​อย่างนั้น​รึ​?

ทั้งสอง​สมาน​สามัคคี​ ลงมือ​พร้อมกัน​ในทันที​ โจมตี​สังหาร​มายัง​ห​ลี่​มู่

เขต​ใจกลาง​สุสาน​มี ‘ยอด​ค่าย​กล​สยบ​มาร​สูงสุด​’ พลัง​ฝึก​ของ​ทุกคน​ล้วน​โดน​สะกด​ไว้​ โดย​พื้นฐาน​แล้ว​ได้​แค่​อาศัย​การสู้​กัน​ด้วย​กาย​เนื้อ​ ร่าง​ของ​คน​ตัว​เตี้ย​เปลี่ยน​รูปร่าง​เป็นเงา​ ไหล​วน​ราว​ละออง​หมอก​สีดำ​หลาย​เส้น​ ถนัด​สาย​นักฆ่า​ ส่วน​ดาบ​โค้ง​คู่​ของ​สตรี​ชุด​ดำ​ก็​ร้ายกาจ​เป็น​อย่างยิ่ง​ กระบวนท่า​ดุดัน​รุนแรง​ ถนัด​สาย​สู้ระยะ​ประชิด​

ทว่า​ไม่ว่า​จะเป็น​สาย​ไหน​ เมื่อ​อยู่​ใต้​หมัด​เหล็ก​ของ​จอม​มาร​ห​ลี่​มู่ล้วน​ต้อง​คุกเข่า​ให้​ทั้งสิ้น​

ภายใต้​การ​สะกด​ของ​ ‘ยอด​ค่าย​กล​สยบ​มาร​สูงสุด​’ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​กาย​เนื้อที่​น่ากลัว​ถึงขั้น​พิสดาร​และ​พลัง​ต่อสู้​ระยะ​ประชิด​อัน​น่า​ครั่นคร้าม​ของ​ห​ลี่​มู่อยู่​ใน​ระดับ​บดขยี้​ทำลาย​ หนึ่ง​หมัด​จัดการ​หนึ่ง​คน​ คน​ตัว​เตี้ย​และ​สตรี​ชุด​ดำ​ลอย​ตีลังกา​ออก​ไป​

จากนั้น​ห​ลี่​มู่ก็​ดึง​ตะบอง​หิน​ที่อยู่​บน​ถาด​สมบัติ​นั้น​ออกมา​ถือ​ไว้​

“สมควร​ตาย​” คน​ร่าง​เตี้ย​ลอย​ตีลังกา​ออก​ไป​หลาย​จั้ง กระแทก​เข้ากับ​เสาหิน​แล้ว​ร่วง​ครูด​ลงมา​ โมโห​จน​กระอัก​เลือด​ จ้อง​ห​ลี่​มู่ด้วย​แววตา​ประดุจ​ดาบ​ ทั้ง​เคียดแค้น​และ​ชวน​ขนลุก​

“เจ้าเป็น​ใคร​?” สตรี​ชุด​ผ้า​โปร่ง​สีดำ​พลิก​มือจับ​ดาบ​โค้ง​ ตั้งท่า​โจมตี​ประหลาด​ท่า​หนึ่ง​ ทว่า​ข้อมือ​ที่​สั่นสะท้าน​เผย​ให้​เห็น​ว่า​นาง​ถูก​หมัด​ของ​ห​ลี่​มู่เมื่อ​ครู่​จน​บาดเจ็บ​ไม่น้อย​

ห​ลี่​มู่มอง​ประเมิน​ตะบอง​หิน​ด้วย​ใบ​หน้าบาน​แฉ่ง

พื้น​ผิวขาว​เรียบ​เนียน​ละเอียด​ รูปทรง​โค้ง​มน​ไม่มีเหลี่ยม​ เหมือน​สาก​ที่​สาว​ชาวบ้าน​ใช้ตำ​ข้าว​แต่​หนัก​มาก​ ห​ลี่​มู่ประเมิน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ตะบอง​นี้​หนัก​ประมาณ​แสน​จิน​ เห็นได้ชัด​ว่า​วัสดุ​พิเศษ​เป็นอย่างมาก​ อีก​ทั้ง​ข้างใน​ตะบอง​ยัง​แฝงลาย​อาคม​วิชา​เต๋า​ที่​ลึกลับ​และ​จิตวิญญาณ​ไว้​ ไม่ว่า​จะเป็น​วัสดุ​หรือ​ความ​ซับซ้อน​มากมาย​ของ​ลาย​อาคม​ล้วนแต่​อยู่​เหนือ​พวก​อาวุธ​ เสื้อเกราะ​ที่เก็บ​ได้​ใน​เมือง​รกร้าง​ก่อนหน้านี้​มาก​นัก​

เป็น​สมบัติ​ล้ำค่า​จริงๆ​ ด้วย​

ห​ลี่​มู่ส่งสายตา​ชื่นชม​ไป​ให้​พวก​ชาย​จมูก​งุ้มและ​ชาย​คิ้ว​ติดกัน​

ดีมาก​ ไม่ได้​หลอก​ข้า​ผู้​เป็นยอด​ฝีมือ​คน​นี้​

“เจ้าเป็น​ใคร​กัน​แน่​?” คน​ตัว​เตี้ย​ถามอย่าง​ปากกล้า​ขา​สั่น​

ห​ลี่​มู่ตอนนี้​ทั่ว​ร่าง​เต็มไปด้วย​ชิ้นส่วน​เกราะ​จาก​หลาย​ๆ ชุด​ ทั้ง​ยัง​สวม​หมวก​เกราะ​สีดำ​ รูปทรง​พูด​ได้​ว่า​แปลกประหลาด​เกิน​ปกติ​ ท่าทาง​ไม่เหมือน​พระเอก​สักนิด​ เป็น​พวก​ตัวประกอบ​เดนตาย​ชัด​ๆ ดังนั้น​ไม่ว่า​จะเป็น​คน​ตัว​เตี้ย​สำนัก​แสงเงาหรือ​สตรี​ชุด​ดำ​ผ้า​โปร่ง​คน​นั้น​จึงล้วน​ไม่รู้​ที่มา​ที่​ไป​ของ​เขา​

ห​ลี่​มู่หัวเราะ​ พูด​กับ​คน​จมูก​งุ้มว่า​ “บอก​พวกเขา​ไป​สิว่า​ข้า​เป็น​ใคร​”

ชาย​จมูก​งุ้มคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​เอ่ย​อย่าง​ลังเล​ “เขา​เป็นยอด​ฝีมือ​”

คน​ตัว​เตี้ย​และ​สตรี​ชุด​ผ้า​โปร่งบาง​มึนงง​

พวกเขา​ทั้งสอง​รู้สึก​เหมือน​โดน​หยอกล้อ​ในทันที​ อยาก​จะบีบ​คอ​เจ้าคน​จมูก​งุ้มนี่​ให้​ตาย​นัก​

มารดา​มัน​สิ ใคร​บ้าง​ดู​ไม่ออ​กว่า​เจ้านี่​เป็นยอด​ฝีมือ​?

หาก​ไม่ใช่ยอด​ฝีมือ​จะซัด​พวกเขา​ลอย​กระเด็น​คนละ​หมัด​ได้​หรือ​

พวก​ข้า​ถามถึงที่มา​ที่​ไป​และ​ชื่อ​ต่างหาก​เล่า​

“คน​ของ​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าใช่หรือไม่​? ได้​ ‘ตะบอง​จู่โจมใจ’ เป็น​ของ​พวก​เจ้า แต่​บัญชี​แค้น​ใน​วันนี้​ข้า​จดจำ​เอาไว้​แล้ว​ หอ​สังหาร​อาภรณ์​ดำ​ไม่มีทาง​รามือ​ไป​เช่นนี้​แน่​” สตรี​ชุด​ดำ​กัดฟัน​กล่าว​

นาง​จำสัญลักษณ์​บน​ชุด​เวท​ของ​พวก​ชาย​จมูก​งุ้มได้​ เมื่อ​ชั่งน้ำหนัก​ดู​แล้วก็​รู้​ว่า​ไม่มีทาง​ชิง ‘ตะบอง​จู่โจมใจ’ มาจาก​มือ​ของ​ ‘ยอด​ฝีมือ​’ ผู้​นี้​ได้​ จึงตัดสินใจ​ล่าถอย​ทันที​

ก่อน​จาก​ยัง​ถลึงตา​มอง​ห​ลี่​มู่อย่าง​เคียดแค้น​ ราวกับ​จะจำหน้าตา​ของ​ห​ลี่​มู่เอาไว้​ให้​แม่น​

คน​ร่าง​เตี้ย​จาก​สำนัก​แสงเงาเห็น​แล้ว​แม้จะเจ็บใจ​เป็น​นักหนา​ แต่​ก็ได้​แต่​ยอมแพ้​ หัวเราะ​เยือกเย็น​น่าขนลุก​พลาง​เอ่ย​ “หึๆ​ ก็ได้​ พวก​เจ้าสำนัก​กำเนิด​ฟ้าช่างใจกล้า​ กล้า​ชิงเนื้อ​ไป​จาก​ปาก​เสือ​ หึๆ​ เก็บ​ตะบอง​เทพ​เอาไว้​ให้​ดี​ หวัง​ว่า​พวก​เจ้าจะมีชีวิต​เอา​มัน​ไป​ได้​ และ​มีปัญญา​รักษา​ชีวิต​ไว้​ใช้มัน​”

ขณะ​พูด​ร่าง​ก็​เริ่ม​เลือนราง​พลาง​ถอยหลัง​ไป​

“เหอะ​ๆ สำนัก​กำเนิด​ฟ้าจะกลัว​พวก​เจ้าหรือ​ไร​?” ห​ลี่​มู่หัวเราะเยาะ​ดังลั่น​ไป​ยัง​ทิศ​ที่สอง​คน​นั้น​จากไป​ “หาก​พวก​เจ้ามีปัญญา​ รอ​ให้​สุสาน​เทพ​จบ​ลง​แล้วก็​พา​คน​มาเจรจา​ที่​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าของ​ข้า​ ถึงตอนนั้น​ดู​ซิว่า​ข้า​จะทุบ​พวก​เจ้าให้​ขี้​แตก​เลย​หรือไม่​”

“เจ้ากล้า​นัก​”

“คำพูด​นี้​ข้า​จำเอาไว้​แล้ว​”

เสียง​อาฆาต​โกรธแค้น​ดัง​มาจาก​นอก​ตำหนัก​ใหญ่​ จากนั้น​ก็​ห่าง​ออก​ไป​ไกล​

พวก​ลูกศิษย์​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าสามสี่คน​รวม​ชาย​จมูก​งุ้มกับ​ชาย​คิ้ว​ติดกัน​ต่าง​จะสติแตก​

รู้สึก​เหมือน​ถูก​ปั่นหัว​

สำนัก​แสงเงาเป็น​สำนัก​นัก​ลอบสังหาร​ ป้องกัน​ได้​ยาก​ ส่วน​หอ​สังหาร​อาภรณ์​ดำ​เป็น​กลุ่ม​นักฆ่า​ มีชื่อเสียง​ฉาวโฉ่​ อยู่​ใน​เขต​ดารา​เทพ​วีรชน​ เป็น​พวก​จัดการ​ยาก​ทั้งสิ้น​ ต่อให้​เป็น​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าก็​ยัง​ต้อง​ยำเกรง​สอง​สำนัก​นี้​มาก​

นี่​มัน​เนื้อ​ไม่ได้​กิน​หนัง​ไม่ได้​รอง​นั่ง​ แถมเอา​กระดูก​มาแขวนคอ​ชัด​ๆ

หาก​พวกเขา​ได้​ ‘ตะบอง​จู่โจมใจ’ มาจริง​ยัง​พอ​ว่า​ แต่​ปัญหา​คือ​คนบ้า​พื้นเมือง​สอง​คน​นี้​ได้​ผลประโยชน์​ไป​ชัด​ๆ สุดท้าย​กระโถน​กลับ​ครอบ​บน​หัว​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าแทน​ นี่​จะไป​เรียกร้อง​ที่ไหนได้​?

“ที่แท้​ของ​ชิ้น​นี้​ชื่อว่า​ ‘ตะบอง​จู่โจมใจ’ นี่เอง​ ฟังแล้ว​เจ๋งไม่เบา​” ห​ลี่​มู่มอง​ประเมิน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ สัมผัส​ได้​ถึงลาย​อาคม​เต๋า​ข้างใน​ รู้สึก​เพียง​ว่า​ลึกล้ำ​มหาศาล​ เวลา​แค่​ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว​ไม่มีทาง​ตรวจสอบ​ครบถ้วน​แน่​

เขา​ไม่รอ​ช้า ตีตรา​มัน​ด้วย​พลัง​จิตวิญญาณ​ทันใด​

พริบตา​ต่อมา​ ระหว่าง​ห​ลี่​มู่กับ​ตะบอง​หิน​ก็​เกิด​ความสัมพันธ์​อัน​น่ามหัศจรรย์​ขึ้น​ เพียง​เกิด​ความคิด​ตะบอง​หิน​ก็​แปลง​เป็น​ลำแสง​หาย​ไป​จาก​มือ​ของ​ห​ลี่​มู่ เข้าไป​หล่อเลี้ยง​อยู่​ใน​จุด​หนี​หวาน​กง​ของ​เขา​

“ไป​ รีบ​เดินทาง​ไป​ชิงสมบัติ​กัน​”

ห​ลี่​มู่สบตา​กับ​กัว​อวี่​ชิงแวบ​หนึ่ง​ ต่าง​ตื่นเต้น​ขึ้น​มาทั้งคู่​

สุสาน​เทพ​เป็นที่​ที่​ดี​จริงๆ​

มีสมบัติ​เต็มไปหมด​ เก็บ​มาก็​ใช้ได้​เลย​ นี่​มัน​ช่างสมบูรณ์แบบ​นัก​

เสี้ยว​ขณะนี้​ ห​ลี่​มู่พลัน​นึกถึง​ ‘PUBG’ เกม​ออนไลน์​ซึ่งเป็นที่นิยม​สุด​ๆ บน​โลก​ก่อนที่​ตน​จะจาก​มา กระโดดร่ม​ลง​ไป​บน​เกาะ​ร้าง​ หา​ปืน​ อาวุธ​ ชุด​ เสื้อผ้า​ใน​บ้าน​ร้าง​ต่างๆ​ จากนั้น​ก็​ออก​ไป​จัดการ​คนอื่น​ คน​ที่​รอด​คน​สุดท้าย​จะได้​กิน​ไก่​…

อืม​ ทำไม​รู้สึก​ว่า​ศึก​ชิงสมบัติ​ใน​สุสาน​เทพ​นี่​เหมือน​เป็นการ​กิน​ไก่​ฉบับ​คน​จริงๆ​?

“ฮ่าๆ โชคดี​ร่ำรวย​ ครั้งนี้​พวกเรา​จะกิน​ไก่​”

ห​ลี่​มู่ตะโกน​ลั่น​

สายตา​ของ​ศิษย์​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าทั้ง​สี่ที่​มอง​ห​ลี่​มู่ยิ่ง​เหมือน​มอง​คนบ้า​เข้าไป​ใหญ่​

โยง​มาที่​กิน​ไก่​ได้​อย่างไร​กัน​?

จะกิน​ไก่​เจ้าก็​ไป​กิน​ข้างนอก​เอา​สิ มาสร้าง​หายนะ​ใน​สุสาน​เทพ​ทำไม​? ต่อให้​เจ้าออก​ไป​กิน​ไก่​จริง​ก็​ไม่เป็นไร​

ใน​วัง​เมฆา นอกจาก​ ‘ตะบอง​จู่โจมใจ’ แล้วก็​ไม่มีสมบัติ​อื่น​อีก​ แต่​ถาด​หยก​ที่​ตะบอง​หิน​ตั้งอยู่​ดู​แล้ว​วัสดุ​ก็​ไม่ธรรมดา​เช่นกัน​ ดังนั้น​กัว​อวี่​ชิงจึงเก็บ​มาโดย​ไม่เกรงใจ​

ลูกศิษย์​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าทั้ง​สี่ไม่ได้​แม้แต่​ขน​เส้น​เดียว​ อยาก​จะร้องไห้​แต่​ก็​ไม่มีน้ำตา​

ทั้ง​หก​คน​มุ่งหน้า​ต่อไป​

เดิน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ห​ลี่​มู่ถึงพบ​ว่า​ที่แท้​ไม่ใช่ว่า​ตำหนัก​วัง​จะเปิด​ออก​ทั้งหมด​ ตลอดทาง​พวกเขา​เจอ​ ‘ตำหนัก​เคล็ด​สวรรค์​’ ‘ตำหนัก​พิรุณ​อัสนี​’ ‘ตำหนัก​ดา​ริ​กา​’ อื่นๆ​ รวม​หก​ตำหนัก​ แต่​ประตู​ปิด​สนิท​ทั้งสิ้น​

บน​บานประตู​หิน​สีดำ​ของ​ทุก​ตำหนัก​ล้วน​มีลาย​เต๋า​ผนึก​ไว้​ ไม่สามารถ​เปิด​ได้​เลย​ หาก​ดันทุรัง​โจมตี​จะถูก​พลัง​สะท้อน​กระเด็น​จน​ได้รับบาดเจ็บ​

ตลอดทาง​ ลูกศิษย์​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าทั้ง​สี่อธิบาย​เรื่อง​วงใน​บาง​เรื่อง​ให้​ห​ลี่​มู่และ​กัว​อวี่​ชิงฟังอย่าง​ระริกระรี้​

ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​สำนัก​นอก​พิภพ​ ข้อมูล​ที่​พวกเขา​รู้​มีมากกว่า​พวก​ห​ลี่​มู่มากมาย​นัก​ มีค่า​ให้​ใช้อ้างอิง​ยิ่ง​

“ที่นี่​มีตำหนัก​เทพ​กว่า​ร้อย​ตำหนัก​ ทุก​ตำหนัก​มีสมบัติ​ที่​ขุนพล​สวรรค์​คน​หนึ่ง​ซึ่งตาย​ไป​แล้ว​ทิ้ง​ไว้​ เท่ากับ​เป็น​สุสาน​ของ​พวกเขา​ บางครั้ง​เปิด​ บางครั้ง​ไม่เปิด​ ไม่มีกฎเกณฑ์​ใด​ ทำได้​แค่​อาศัย​โชค​เท่านั้น​”

ชาย​จมูก​งุ้มกล่าว​อธิบาย​

คน​คิ้ว​ติดกัน​เอ่ย​ “มีผู้​สูงส่งใน​เขต​ดารา​เทพ​วีรชน​คำนวณ​เอาไว้​ การ​เปิด​ของ​สุสาน​เทพ​ครั้งนี้​มีจำนวน​ตำหนัก​เทพ​ที่จะ​เปิด​มาก​ที่สุด​ สมบัติ​ที่​ชิงได้​ก็​มาก​ที่สุด​เหมือนกัน​ ดังนั้น​สำนัก​ต่างๆ​ จึงส่งลูกศิษย์​ลงมา​ช่วงชิง​โดย​ไม่คำนึง​สิ่งใด​”

“ทำไม​ถึงไม่ให้​ผู้อาวุโส​หรือ​ผู้​แข็งแกร่ง​ของ​สำนัก​พวก​เจ้าลงมา​เอง​?” ห​ลี่​มู่มอง​พวกเขา​พลาง​เอ่ย​ด้วย​ใบหน้า​เหยียดหยาม​ “เจ้าว่า​ พวก​หน้าตา​อัปลักษณ์​อย่าง​พวก​เจ้าลงมา​จะทำ​อะไร​ได้​? ไม่ใช่ลงมา​เป็น​เครื่องเซ่น​หรือไง​”

ใจของ​ลูกศิษย์​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าทั้ง​สี่ถูก​โจมตี​อย่าง​หนักหน่วง​

‘พวกเรา​อยู่​ใน​สำนัก​ ก็​เป็น​อัจฉริยะ​ที่​ได้รับ​ความรัก​ความ​โปรดปราน​จาก​อาจารย์​และ​มีลูกศิษย์​ร่วม​สำนัก​อิจฉา​เข้าใจ​ไหม​? ภายใน​เขต​ดารา​เทพ​วีรชน​ก็​มีชื่อเสียง​อยู่​บ้าง​ ผู้ฝึก​ตน​หญิง​ไม่รู้​เท่าไร​อยาก​จะเป็น​คู่​ฝึก​กับ​พวกเรา​ อัปลักษณ์​ที่ไหน​กัน​?’

“การ​สกัดกั้น​จาก​วิถี​ฟ้าของ​ดาว​นี้​ยัง​ไม่สลาย​ไป​หมดสิ้น​ หาก​ผู้อาวุโส​มาเยือน​ละ​ก็​จะถูก​สวรรค์​ลงทัณฑ์​ นำ​เคราะห์ร้าย​มาสู่ตน​ ยาก​จะเอาตัวรอด​เอง​ได้​” ชาย​จมูก​งุ้มตอบ​อย่าง​ซื่อตรง​

ห​ลี่​มู่ดวงตา​วาววับ​ “เช่นนั้น​ พวก​ที่​ลงมา​เยือน​ก็​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​สำนัก​ใหญ่​ต่างๆ​ ทั้งนั้น​ใช่ไหม​ อย่างนั้น​ข้า​คนเดียว​ก็​จัดการ​ได้​สิบ​คน​ อีก​ประเดี๋ยว​เจอ​เข้า​ก็​จัดการ​ไป​เลย​ คน​หนึ่ง​หมัด​หนึ่ง​ทุบ​ให้​หมอบ​ สมบัติ​ทั้งหมด​จะเป็น​ของ​พวก​ข้า​สอง​พี่น้อง​”

กัว​อวี่​ชิงก็​ตื่นเต้น​ขึ้น​มาเช่นกัน​

ลูกศิษย์​ร่าง​ผอม​สูงเอ่ย​อึกอัก​ “แต่​ก็​มีสำนัก​ที่​พลัง​อำนาจ​ลึกล้ำ​บางแห่ง​ ใช้สมบัติ​ลับ​สลาย​วรยุทธ์​ของ​ยอด​ฝีมือ​ผู้อาวุโส​ใน​สำนัก​ ฝืน​สะกด​พลัง​ฝึก​ของ​พวกเขา​ แล้ว​ให้​ลงมา​เยือน​เพื่อ​เป็น​ผู้คุ้มกัน​ให้​กับ​ลูกศิษย์​ที่​ลงมา​ พวกเขา​ร้ายกาจ​มาก​”

พูด​จบ​เขา​ก็​นึก​เสียใจ​ภายหลัง​

บ้า​เอ๊ย​ ข้า​พูด​เรื่อง​นี้​ทำไม​กัน​ จริงๆ​ ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​นี้​เลย​ด้วยซ้ำ​ ปล่อย​ให้​คนบ้า​สอง​คน​นี้​ไป​จัดการ​สำนัก​มาร​ฟ้าหรือ​วัง​ประสาน​ฟ้าสิ หาก​ผู้สืบทอด​และ​ผู้คุม​กัน​ของ​สำนัก​พวก​นี้​ถูก​ฆ่าตาย​หมด​ เช่นนั้น​พวกเขา​ก็​หลุดพ้น​แล้ว​ไม่ใช่หรือ​?

ลูกศิษย์​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าอีก​สามคน​มอง​เขา​ด้วย​สายตา​เคียดแค้น​

ห​ลี่​มู่สายตา​เฉียบแหลม​ ทำไม​จะมอง​ไม่ออก​ จึงเอ่ย​พร้อม​หัวเราะ​เจ้าเล่ห์​ “เจ้าเด็ก​เหลือขอ​ทั้ง​สี่ อย่า​อัดอั้นตันใจ​จน​ป่วย​เล่า​ หาก​ข้า​ถูก​คน​ฆ่าตาย​ ไม่ได้​แก้​ยันต์​เต๋า​ใน​กาย​พวก​เจ้า ช้าเร็ว​อย่างไร​ก็​ต้อง​ตาย​เหมือนกัน​”

พวก​คน​จมูก​งุ้มและ​คน​คิ้ว​ติดกัน​เหมือน​ลูกโป่ง​ที่​ถูก​ปล่อย​ลม​ทันที​

หลังจากนั้น​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ห้า​หก​คน​นี้​ก็​มาถึงนอก​ตำหนัก​ชื่อว่า​ ‘ดารา​สวรรค์​’ ประตู​ตำหนัก​เปิด​อ้า​อยู่​ ทว่า​เมื่อ​พวกเขา​พุ่ง​เข้าไป​อย่าง​ลิงโลด​ก็​พบ​ว่า​ใน​ตำหนัก​มีร่องรอย​การต่อสู้​ที่​เพิ่ง​จบ​ลง​ไป​ไม่นาน​ แต่​ไม่มีเงาคน​ และ​ไม่มีสมบัติ​อะไร​เช่นกัน​…

“ถูก​คน​แย่ง​ไป​แล้ว​” ห​ลี่​มู่เอ่ย​อย่าง​ปวดใจ​ “คนอื่น​เอา​สมบัติ​ของ​ข้า​ไป​แล้ว​”

พวก​คน​จมูก​งุ้มหมด​คำ​จะพูด​โดยพลัน​

สมบัติ​ที่นี่​ล้วน​ไม่มีเจ้าของ​ ผู้​ที่​มีวาสนา​จะได้​ไป​ เป็น​ของ​เจ้าตั้งแต่​เมื่อไร​กัน​

ผ่าน​ไป​อีก​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​

ข้าง​หน้าเป็น​ตำหนัก​สุสาน​ชื่อว่า​ ‘ตำหนัก​เซียน​เหิน​’ ประตู​ตำหนัก​เปิด​อ้า​กว้าง​ ข้างใน​มีคลื่น​การต่อสู้​แผ่​ระลอก​ออกมา​ อีก​ทั้ง​ไม่ใช่แค่​สอง​คน​ แต่​มีถึงสี่คน​กำลัง​ประจันหน้า​กัน​อยู่​ภายใน​

ห​ลี่​มู่ส่งสัญญาณให้​

กัว​อวี่​ชิงรับรู้​

ทั้งสอง​เก็บ​กลิ่นอาย​ แอบ​ย่อง​เข้าไป​อย่าง​เงียบๆ​

ชาย​คิ้ว​ติดกัน​และ​พวก​ศิษย์​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าเห็น​แล้ว​ ก็​คิด​ว่า​เจ้ายอด​ฝีมือ​กับ​ผู้​แข็งแกร่ง​สอง​คน​นี้​ใจสื่อ​ถึงกัน​ได้​หรือ​ไร​ นี่​จะแอบ​แฝงตัว​เข้าไป​เล่นงาน​คนอื่น​ชัด​ๆ ท่าทาง​คุ้นเคย​ดี​แบบนี้​ ก่อนหน้านี้​พวกเขา​สอง​คน​คง​ทำ​เรื่อง​แบบนี้​มาไม่น้อย​แล้ว​กระมัง​?

เจ้าตัว​ชั่วร้าย​ทั้งสอง​นี่​

ดังนั้น​พวกเขา​ทั้ง​สี่จึงเก็บ​กลิ่นอาย​อย่าง​เงียบเชียบ​แล้ว​ตาม​ไป​เช่นกัน​

ภายใน​ตำหนัก​ใหญ่​ การต่อสู้​ดำเนิน​ไป​อย่าง​ดุเดือด​นัก​

……………………………………………………

[1] เฉิงเหย่า​จิน​ แม่ทัพ​ผู้จงรักภักดี​แห่ง​ราชวงศ์​ถัง ตำนาน​เล่า​ว่า​เมื่อใด​ทำสงคราม​แล้ว​ใกล้​จะพ่ายแพ้​ ขอ​แค่​เฉิงเหย่า​จิน​ลงมือ​ก็​จะพลิก​สถานการณ์​ได้​ทันที​ ภายหลัง​จึงใช้สุภาษิต​เฉิงเหย่า​จิน​โผล่​ออกมา​กลางทาง​เปรียบเปรย​ว่า​เกิด​เรื่องราว​ที่​ไม่คาดคิด​ขึ้น​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา