“วะฮ่าๆๆ บอกแล้วว่าให้ร่วมมืออย่างว่าง่ายหน่อย แบบนั้นก็ไม่ต้องทรมานแล้ว ไม่ฟังกันเอง…” หลี่มู่ทำท่าทางได้ใจ
‘ระฆังสะท้านวิญญาณ’ นี่เป็นของดีจริงๆ ด้วย แค่เสียงระฆังดังคู่ต่อสู้ก็ล้มลงหมด สังหารคนโดยไม่เห็นเลือดอย่างที่หาได้ยาก ระฆังที่มีเมตตาแบบนี้ เป็นของจำเป็นเอาไว้พกติดตัวป้องกันร่างกายซึ่งต้องแย่งชิงมาทุกวิถีทาง
“พวกเจ้าสามสี่คนรีบมาเร็วเข้า ค้นตัวแล้วเอาสมบัติทั้งหมดมา” หลี่มู่พูดกับพวกศิษย์สำนักกำเนิดฟ้าทั้งสี่โดยไม่แม้แต่จะหันไปมอง
แต่ไม่มีใครขยับเขยื้อน
“ไม่ได้ยินรึ อยากเจ็บตัวใช่ไหม?” หลี่มู่หันกลับไปมองก็ตกใจสะดุ้ง สี่คนนี้ตัวอ่อนย้วยลงไปชักกระตุกเหมือนเป็นลมบ้าหมูเช่นกัน
เกิดอะไรขึ้น?
มองไปอีกครั้ง กัวอวี่ชิงที่อยู่ตรงประตูหน้าตำหนักก็เหมือนดื่มไปเยอะ จับเสาพยายามประคองตัวพลางโอนเอนไปมา…
“เอ่อ ขอโทษที ทำร้ายผิดคนๆ”
หลี่มู่ทำหน้าตากระอักกระอ่วน
‘ระฆังสะท้านวิญญาณ’ นี้เขายังไม่มีเวลากำราบ ยังไม่อาจควบคุมพลังของมันได้โดยสมบูรณ์ ไม่ใช่แค่สะกดคนอื่นๆ ที่อยู่ที่นั่น แม้แต่คนของตัวเองก็โดนหางเลขด้วยเช่นกัน
ดูท่าทาง ศิษย์สำนักกำเนิดฟ้าทั้งสี่กับพี่กัวคงจะฟื้นกลับมาในทันทีไม่ได้
กัวอวี่ชิงส่งสายตาว่าวางใจเถอะให้หลี่มู่ จากนั้นนั่งขัดสมาธิลงตรงเสา โคจรพลังฟื้นฟู เมื่อครู่เขารู้ตัวเร็วจึงถอยออกมาจากตำหนัก ทำให้ได้รับคลื่นพลังเบาที่สุด ฟื้นตัวเร็วที่สุด
หลี่มู่พยักหน้าให้
ช่วยไม่ได้
ต้องลงมือเองแล้ว
เขามายังเบื้องหน้าหญิงชราไม้เท้าดำก่อน ไม่สนใจสายตาเคียดแค้นเหี้ยมโหดของฝ่ายตรงข้าม แค่ใช้เนตรสวรรค์มองก็กวาดเอามิติเก็บของในตัวนางทั้งหมดมา จากนั้นพูดขึ้นว่า “บอกมาเสียดีๆ ยังมีสมบัติอะไรอีกหรือไม่ อย่ารักของไม่รักชีวิตเลย ข้าไม่กลัวที่จะบอกเจ้า ข้าอู๋โหย่วเหรินแห่งสำนักมารฟ้าเหี้ยมโหดสุดๆ…”
หญิงชราไม้เท้าดำทั้งร้อนรนทั้งโมโห สลบเหมือดไปแล้ว
ทรัพย์สมบัติที่นางรวบรวมมาตลอดทั้งชีวิตอยู่ในมิติเก็บของทั้งหมดนั้น หลี่มู่ก็ไร้คุณธรรมนัก แม้แต่ปิ่นปักผม ต่างหูอะไรพวกนี้ของหญิงชราก็ยังเอาไปหมด นางจะยังมีสมบัติอะไรที่ไหนอีก
“แกล้งตาย?” หลี่มู่โมโหแล้ว แต่สำรวจให้ละเอียดก็พบว่าหญิงชราโมโหจนสลบไปจริงๆ จึงปล่อยผ่านไป
เขาหัวเราะคิกคักมาที่เบื้องหน้าชาวเผ่าผู้วิเศษ
คนอื่นๆ ล้วนอึ้งตะลึง มีเพียงเด็กน้อยในอ้อมกอดหญิงสาวสวยคนนั้นที่กัดฟันกรอด แขนขาขยับไม่ได้ มองหลี่มู่พลางเอ่ยอย่างเหี้ยมโหดว่า “สำนักมารฟ้าอู๋โหย่วเหรินใช่ไหม? ดีมาก ข้าจำเจ้าไว้แล้ว รอหลังจากนี้ ข้าจะ…”
เพียะ!
“เด็กเมื่อวานซืน” หลี่มู่ยกมือดีดหน้าผากเด็กน้อย ก่อนจะชิง ‘ถาดหยกนำโชค’ ในมือของเขามาอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
ของนี่มองแวบแรกก็รู้แล้วว่าเป็นของดี ก่อนหน้านี้หลี่มู่สังเกตเห็นแล้ว
“ข้าจะสู้ตายกับเจ้า…” เด็กน้อยกระสับกระส่าย ดิ้นรนจะยืนขึ้น
“เด็กดี อย่าดื้อสิ” หลี่มู่ยกมือดีดไปอีกที หน้าผากของเด็กน้อยปูดเป็นลูกทันทีสองลูก เหมือนมีเขางอกขึ้นมาสองเขาอย่างไรอย่างนั้น
เด็กน้อยเจ็บจนน้ำตาไหล ดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่งก็โกรธจนเป็นลมไปเช่นกัน
“เฮ้อ ขี้โมโหเสียจริง เป็นลมไปอีกหนึ่งอีก”
หลี่มู่มาตรงหน้าคู่พี่น้องสาวงาม
“น้องชาย บนตัวพี่สาวมีแค่ต่างหูเท่านั้นที่มีค่าที่สุด เจ้าเอาไปเถอะ” คนพี่ปู้เฟยเหยียนร่างกายขยับไม่ได้ กล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ
“เช่นนั้นก็ขอบคุณพี่สาวมาก” หลี่มู่ถอดต่างหูของปู้เฟยเหยียนมาอย่างไม่เกรงใจ
“ไอ้โจรชั่ว เจ้ากล้าแตะต้องพี่สาวข้า…” น้องสาวจอมแก่แดดโมโหเดือดดาล “ข้าจะฟันเจ้าให้ตายแน่”
หลี่มู่ไม่สนใจนางเลย มองปู้เฟยเหยียนพลางเอ่ย “พี่สาว ตัวท่านยังมีของมีค่าอะไรอีก มิสู้ส่งมาทีเดียวเลยจะดีกว่า”
ปู้เฟยเหยียนหมดคำจะพูด เจ้าเด็กนี่ก็อยู่ในช่วงวัยฮึกเหิมเปี่ยมกำลัง ทำไมถึงไม่ทะนุถนอมสาวงามเอาเสียเลย “สมบัติของพี่สาว ให้เจ้าไปหมดแล้ว…”
“ข้าไม่เชื่อ พี่สาวหน้าตางดงามขนาดนี้ สมบัติติดตัวจะต้องมีไม่น้อยแน่…” หลี่มู่ลูบคาง “ข้าจะคลำหาเอง”
“เจ้า…เจ้าอย่าทำซี้ซั้ว” สีหน้าปู้เฟยเหยียนค่อนข้างลนลาน นางมั่นใจในความงามของตัวเองมาก จึงกลัวว่าเจ้าคนไร้มารยาทนี่จับๆ คลำๆ แล้วจะทนไม่ไหว ทำเรื่องที่ทั้งคนทั้งเทพโกรธแค้นขึ้นมา
ต่อให้ไม่ทำอะไร ร่างกายบริสุทธิ์ของนางถูกเจ้าเด็กเวรนี่จับคลำ ชื่อเสียงก็เสียหายแล้ว วันข้างหน้าจะมีหน้าไปพบใครได้?
สุดท้าย นางจำต้องเอ่ยปาก และมอบสมบัติหลายสิบชิ้นในตัวให้หลี่มู่แต่โดยดี
“ฮ่าๆ พี่สาวเป็นคนหน้าตาดีจิตใจงดงาม มีคุณธรรมสูงส่งเทียมฟ้าดังคาดไว้ มอบสมบัติให้ข้ามากมายขนาดนี้ เช่นนั้นข้าไม่คลำหาแล้ว” ในใจหลี่มู่สุขสมยิ่ง
“โจรชั่ว ไม่ช้าก็เร็วข้าต้องฟันเจ้าให้ตาย” น้องสาวจอมแก่แดดพ่นไฟผ่านนัยน์ตา
หลี่มู่ยกมือดีดหน้าผากของสาวน้อย “เด็กน้อย อายุน้อยแค่นี้ยังโหดขนาดนี้ ระวังโตแล้วแต่งออกไปไม่ได้ไม่มีใครเอา กลายเป็นหญิงขึ้นคาน (เซิ่งหนี่ว์) ล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา