ชิงเฟิงมองหวางซืออวี่ด้วยสายตาแปลกประหลาด สตรีผู้นี้เป็นใครกันแน่ ขนาดว่าฟ้าดินและกฎแห่งธรรมชาติต่อต้านถึงขนาดนี้?
“พวกเราไปจากที่นี่กันเถอะ” หวางซืออวี่ลุกขึ้น หมุนตัวออกไปจากสวนผลไม้อย่างเด็ดเดี่ยว
สีหน้าของนางกลับสู่ความสงบราบเรียบ เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น
ชิงเฟิงถอนหายใจยาวและไม่พูดอะไรอีก
เขามองต้นสายปลายเหตุบางอย่างออก แต่ว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาเปลี่ยนแปลงได้ ทำได้แค่ค่อยๆ ขบคิด ถึงแม้เขาจะไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมาอย่างรุนแรงแบบหมิงเยวี่ยแบบนั้น แต่ในใจเขาก็เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจและโมโหเช่นกัน
สวรรค์ไยจึงต้องกลั่นแกล้งให้กับเด็กสาวที่ฉลาดและจิตใจดีเช่นนี้ด้วย?
เรื่องราวของท่านหญิงหวนจูในเมืองหลินอัน เขานั้นได้ยินมาบ้าง นางช่วยประชาชนยากจน ผู้อพยพไว้มากมาย ต่างจากพวกชนชั้นสูงฟอนเฟะโดยสิ้นเชิง เป็นคนดีจริงๆ คนหนึ่ง
หยวนโห่วก็ไม่รู้ควรจะพูดอะไรดีเช่นกัน
มันเชี่ยวชาญเล่นงานคน แต่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องปลอบคน
ทั้งสี่เดินออกจากสวนผลไม้ ชิงเฟิงพลันเอ่ยขึ้น “ท่านหญิง กระบองทองนี่ไม่ต่อต้านท่าน บางทีอาจจะเป็นโอกาสส่วนหนึ่งของท่าน”
หวางซืออวี่หยุดฝีเท้า มองไปยังกระบองทองที่หยวนโห่วยื่นมา
กระบองทองในไซอิ๋วก็ไม่นับว่าเป็นของวิเศษมีค่าอะไรจริงๆ นั่นแหละ เพียงแต่เป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้เก็บผลทารกน้อย แต่ก็มีการใช้งานอย่างยอดเยี่ยมบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่นต่อให้เป็นซุนหงอคงก็ไม่อาจใช้พลองทองเด็ดผลทารกน้อยได้ แต่ต้องไปขโมยกระบองทองนี่ถึงจะเก็บมันได้
หวางซืออวี่รับกระบองทองมาไว้ในมือ มุมปากพลันยกยิ้ม
“ของที่นี่ไม่ใช่ของของข้า โอกาสของข้าไม่อยู่ที่นี่” นางพลันโยนกระบองทองกลับไป “ของในอารามอู่จวง ข้าไม่เอาทั้งสิ้น”
หยวนโห่วรับกระบองทองไว้พลางมองเด็กสาวที่อยู่ข้างหน้า ในใจพลันรู้สึกสู้ไม่ได้
ช่างเป็นเด็กสาวที่เด็ดเดี่ยวยิ่งนัก
หมิงเยวี่ยก็ช่วยอยู่ข้างๆ “ใช่แล้ว อารามเก่าๆ พรรค์นี้” นางยื่นมือล้วงเข้าไปในคอ อาเจียนออกมา “ผลทารกน้อยบ้าบออะไร ข้าก็ไม่เอาแล้วเหมือนกัน ข้าจะอ้วกเอามันออกมา…”
ใช่แล้ว เด็กสาวหน้ามึนมีคุณธรรมอย่างนี้แหละ
หวางซืออวี่หัวเราะ กำลังจะพูดอะไร
“โอ๊ะ โอ๊ะๆๆ…ไม่ไหว ปวดท้อง” หมิงเยวี่ยพลันกุมท้องร้องขึ้นมา หน้าตาขาวซีดในทันที พุ่งไปยังที่ที่ไม่มีคน “ข้าท้องเสีย…”
“โอ๊ะ ข้าก็เหมือนว่า…” หยวนโห่วจู่ๆ ก็กุมท้อง หน้าตากลั้นเอาไว้ไม่อยู่แล้ว “ไม่ไหว ข้าก็ท้องเสียเหมือนกัน ข้า…” ท้องของมันส่งเสียงราวฟ้าคำราม มันหมุนตัววิ่งจากไป
หวางซืออวี่มองชิงเฟิงอย่างสงสัย
ชิงเฟิงสงบเยือกเย็นอยู่ตลอด
เพียงแต่หยดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่ผุดบนหน้าผากหักหลังเขา ไม่นานท้องก็ส่งเสียงคำรามครืนครานลั่นเช่นกัน เขาใช้พลังจิตวิญญาณเข็นรถเข็นอย่างไม่ลนลาน ตรงไปยังหลังต้นไม้ใหญ่อย่างไม่รีบร้อน
หรือกินผลทารกน้อยแล้วท้องจะเสีย?
หวางซืออวี่แปลกใจ
นางจำได้ว่า ในไซอิ๋ว หงอคง โป๊ยก่ายและซัวเจ๋งกินผลทารกน้อยก็ไม่มีอาการผิดปกติอะไรนี่นา ทำไมสามคนนี้…
แต่ว่าหวางซืออวี่กลับลืมไปว่า สามท่านนั้นเป็นผู้พลังแข็งแกร่งมหาศาลปานใด บุคคลดุจเทพเซียนบนดิน ส่วนพวกชิงเฟิงหมิงเยวี่ยสามคน ตอนนี้ก็เป็นเพียงคนธรรมดา ผลทารกน้อยปรับเสริมร่างกาย ชะล้างเปลี่ยนแปลงร่างกาย แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่ต้องเผชิญ
ผ่านไปครู่หนึ่ง หมิงเยวี่ยก็วิ่งออกมาด้วยใบหน้าพึงพอใจ “สบาย ฮ่าๆ ในที่สุดก็เอาออกมาหมด…”
พูดยังไม่ทันจบ ก็หน้าเปลี่ยนสี จู่ๆ ก็วิ่งกลับไปเหมือนไฟลนก้น
เป็นซ้ำๆ กลับไปกลับมาเช่นนี้
หลังจากทรมานอยู่หนึ่งชั่วยามเต็มๆ ทั้งสามถึงได้จบขั้นตอนการท้องเสียนี่อย่างหมดเรี่ยวหมดแรง หมิงเยวี่ยนั่งหมดสภาพบนบ่าของหยวนโห่ว ส่วนชิงเฟิงหน้าเหลือง
แต่แววตา พลังชีวิต เลือดลมปราณของทั้งสามกลับพอกพูน ผิวก็เหมือนเปลี่ยนไป ใสเปล่งประกาย ความอัศจรรย์ต่างๆ ในนั้นมีเพียงพวกเขาที่รับรู้
“เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งฟ้าดินจริงๆ ด้วย” ชิงเฟิงเอ่ยชื่นชม “ฤทธิ์ยาของผลไม้นี่นับว่าอ่อนโยนแล้ว หากเปลี่ยนของล้ำค่าฟ้าดินอื่นๆ เกรงว่าพวกเราในตอนนี้คงตัวระเบิดจากพลังอันบ้าคลั่งแล้ว ก่อนหน้านี้กินผลไม้นั่นเข้าไปเลยนับว่าบุ่มบ่ามแล้วจริงๆ”
นี่เป็นเหตุผลที่เขาเข้าใจในตอนที่ท้องเสีย
“ฤทธิ์ยายังอยู่ในร่างกาย จะค่อยๆ ผสานกับร่างของพวกเรา น่าจะดีกับพลังฝึกตนของพวกเรามหาศาล” ชิงเฟิงเอ่ยเสริมอีกประโยค
นี่คือประสบการณ์ตรงของเขา
พูดกันว่าเมื่อป่วยนานก็กลายเป็นหมอ สองขาของชิงเฟิงไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีก ทำให้เขาเข้าใจต่อตัวเองและอาการของโรคเหนือกว่าใครๆ สัมผัสได้ว่า ในกายของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยพลังอันน่าประหลาดแผ่ไปทุกที่ทั่วร่าง เหมือนว่าตัวเองกลายเป็นผลทารกน้อยลูกยักษ์ใบหนึ่ง
พลังของผลทารกมากมายมหาศาลนัก ไม่ใช่พลังที่จะสามารถซึมซับได้ในเวลาชั่วประเดี๋ยวประด๋าว ดังนั้นต้องใช้เวลาอย่างยาวนาน ค่อยๆ ฝึกฝนเปลี่ยนสรรพคุณยาเป็นพลังฝึกตน
หวางซืออวี่ที่รออยู่ข้างๆ หัวเราะ “ดีที่ข้าไม่ได้กิน ไม่อย่างนั้นท้องเสีย…ยี้ สกปรกตายเลย”
นางกลับมาเป็นฝ่ายปลอบทั้งสามคน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา