จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 446

“ฮ่าๆ น้อง​สาม เจ้าพูด​ไว้​ไม่ผิด​จริงๆ​ เยวี่ยกั๋วเซียงคน​นี้​ เป็น​พวก​มัก​เกิล[​1]จริงๆ​ หลังจาก​ได้​อุปกรณ์​เต๋า​เทพ​มาไว้​ใน​มือ​ ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ต้อง​นำมา​อวด​ จน​ถูก​ ‘หอก​อัสนี​ทะยาน​’ ของ​ข้า​แทง​จน​พรุน​”

เสียงหัวเราะ​อย่าง​เบิกบาน​ดังลั่น​ ร่าง​เงาที่​สังหาร​เยวี่ยกั๋วเซียง​ปรากฏตัว​ขึ้น​ ชาย​รูปร่าง​สูงใหญ่​คาง​เหลี่ยม​ ทั่ว​ร่าง​ล้วน​มีกลิ่นอาย​อัน​องอาจ​ผึ่งผาย​ ราวกับ​เป็น​ราชา​หมาป่า​จาก​ที่ราบ​ทุ่งหญ้า​ ถ้าไม่ใช่กัว​อวี่​ชิงแล้​วจะ​เป็น​ใคร​กัน​

ห​ลี่​มู่ก็​หัวเราะ​ร่า​ขึ้น​มาด้วย​ เอ่ย​ว่า​ “ฮี่ๆ ข้า​พูด​ไว้​ไม่ผิด​เลย​ใช่ไหม​ หอก​อัสนี​ทะยาน​ไม่มีอะไร​ที่​แทง​ไม่ทะลุ​ รวดเร็ว​ดุจ​สายฟ้า​ กระทั่ง​อุปกรณ์​เต๋า​ระดับสูง​ก็​สามารถ​ทำลาย​ได้​ เหมาะสำหรับ​การ​ลอบ​โจมตี​ แล้ว​ตัว​พี่ใหญ่​ก็​พลัง​ไร้​เทียน​ทาน​อีก​ จัดการ​เยวี่ยกั๋วเซียง​ได้​อย่าง​ง่ายๆ​ ฮ่าๆๆ ต่อให้​ที่นี่​จะมีคน​มาก​ขนาด​นี้​ แต่​จะมีสัก​กี่​คน​ที่​สามารถ​ต้านทาน​หอก​ของ​พี่​ได้​”

ทั้งสอง​พูด​ชมตนเอง​กัน​ขึ้น​มาต่อหน้าธารกำนัล​

ทุกคน​ในที่นี้​ ล้วน​สีหน้า​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​

การตาย​ของ​เยวี่ยกั๋วเซียง​ รวดเร็ว​มาก​จริงๆ​ เขา​ที่​ผ่าน​การดูดกลืน​ชีวิต​เพื่อ​ฟื้น​คืน​พลัง​บำเพ็ญ​ส่วนใหญ่​มาแล้ว​ และ​ยังมี​ ‘เกราะ​คลุม​ไฟเก้า​มังกร​เทพ​’ ใน​มือ​ แทบจะ​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ไร้​พ่าย​ ทว่า​กลับ​ถูก​สังหาร​ใน​พริบตา​ วิญญาณ​แตกสลาย​กลายเป็น​ฝุ่น​ควัน​ ทำให้​พวกเขา​รู้สึก​สะเทือน​ขึ้น​ใน​ใจทันที​

บน​เส้นทาง​สาย​ใหญ่​แห่ง​การต่อสู้​ พลาด​เพียง​ก้าว​เดียว​ ก็​คือ​หายนะ​แห่ง​ความตาย​ ไม่เหลือ​หนทาง​ใดๆ​ ที่จะ​หันหลัง​ชดเชย​ได้​อีก​

โดย​เฉพาะที่​พวกเขา​เห็น​กัว​อวี่​ชิงที่​แบก​ชุด​เกราะ​ระเกะระกะ​มากมาย​ มือขวา​มีหอก​ยา​วสี​เงิน​เล่ม​หนึ่ง​ มือซ้าย​กำ​พัด​ห้า​สีอีก​ด้าม​ ใต้​วงแขน​หนีบ​เอา​ ‘เกราะ​ไฟเก้า​มังกร​เทพ​’ ใน​ใจก็​อด​เกิด​ความหวาดหวั่น​ขึ้น​มาไม่ได้​

หอก​ พัด​ เกราะ​ ล้วน​เป็น​สมบัติ​เต๋า​

บน​ร่าง​ของ​คน​หนึ่ง​คน​ มีถึงสามชิ้น​

อู้ฟู่​เสีย​เหลือเกิน​

โดยเฉพาะ​พลัง​ที่​กัว​อวี่​ชิงแสดง​ออกมา​เมื่อ​ครู่​ ทำเอา​พวกเขา​ตกตะลึง​และ​ระแวดระวัง​ขึ้น​มา

ทุกคน​ล้วน​คำนวณ​อยู่​ใน​ใจ หอก​ที่​แทง​เยวี่ยกั๋วเซียง​เมื่อ​ครู่​ ถ้าหาก​เปลี่ยนเป็น​พวกเขา​ จะสามารถ​รับได้​หรือไม่​? หลังจาก​ลอง​คิด​ สันหลัง​ก็​เย็นวาบ​ เพราะ​คำตอบ​ของ​คน​ส่วนใหญ่​คือ​ทาน​ไว้​ไม่อยู่​

เพียง​นักฆ่า​แทง​หอก​ น่ากลัว​สุด​แสน​

ด้วยเหตุนี้​ ใน​ฉาก​จึงแข็ง​นิ่ง​ชั่ว​ระยะ​หนึ่ง​

ห​ลี่​มู่หัวเราะ​ฮี่ๆ ไม่รอ​ให้​ทุกคน​ดึง​สติ​กลับมา​ ตรง​ไป​ยัง​กอง​ฝุ่น​สีดำ​ของ​ร่าง​เยวี่ยกั๋วเซียง​ที่​สลาย​ไป​ ขยับ​ไปมา​ ดึง​เอา​อุปกรณ์​บน​ตัว​ของ​เยวี่ยกั๋วเซียง​หลาย​ชิ้น​ เก็บ​มาไว้​กับ​ตัวอย่าง​ไม่มีเกรงใจ​แม้เพียง​น้อย​

ขั้นตอน​ทั้งหมด​ คล่องแคล่ว​ว่องไว​ เห็นได้ชัด​ว่า​ ‘แกะ​กล่อง​พัสดุ​’ มาเสีย​จน​ชิน​

ทุกคน​เมื่อ​เห็น​ฉาก​นี้​ ก็​อด​เกิด​ความรู้สึก​แปลกประหลาด​จาก​ส่วนลึก​ใน​จิตใจ​ไม่ได้​

“เจ้าทั้งสอง​?” จอม​มาร​ฟ้าที่​ได้สติ​กลับมา​เป็น​คน​แรก​ ยิ้ม​เย็นชา​เอ่ย​ขึ้น​ “แค่​พวก​เจ้าสอง​คน​กลับ​กล้า​ปล้น​คนอื่น​ต่อหน้า​ข้า​เช่นนี้​เลย​หรือ​?”

ห​ลี่​มู่ยิ้ม​แจ่มใส จากนั้น​จึงดีดนิ้ว​ดัง​ขึ้น​

ศิษย์​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าทั้ง​สี่ เดิน​เข้า​มาจาก​ประตู​วัด​ห้า​แผ่นดิน​ มายืน​อยู่​ด้านหลัง​ห​ลี่​มู่อย่าง​ตระหนัก​ได้​ถึงความ​เป็น​น้อง​เล็ก​ ขนาบ​ข้าง​ปกป้อง​หวา​งซืออวี่​ ชิงเฟิงหมิง​เยวี่ย​ทั้ง​สี่คน​ไว้​ตรงกลาง​ ถึงอย่างไร​ทั้ง​สี่คน​นี้​ก็​เป็น​ผู้​บำเพ็ญ​จาก​ทางช้างเผือก​ เรื่อง​พลัง​นั้น​ได้​อยู่​

“ตอนนี้​ไม่ใช่สอง​คน​แล้ว​สินะ​?” ห​ลี่​มู่เอ่ย​ขึ้น​

จอม​มาร​ฟ้าประหลาดใจ​ แต่​สายตา​ของ​เขา​ เมื่อ​กวาด​มายัง​ร่าง​ของ​ทั้ง​สี่คน​แล้ว​ ได้​เอ่ย​คำพูด​เหยียดหยาม​ขึ้น​ “ก็​แค่​แมลง​ตัว​จ้อย​จาก​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าสี่คน​ มีพวกเขา​เพิ่ม​เข้ามา​ก็​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​ไก่​สุนัข​”

บน​ร่าง​ของ​พวก​ชาย​จมูก​เหยี่ยว​งุ้มศิษย์​ทั้ง​สี่สำนัก​กำเนิด​ฟ้า ล้วน​มีอุปกรณ์​เต๋า​ชั้นยอด​ เสื้อเกราะ​ หมวก​ อาวุธ​มากมาย​ติด​เอาไว้​ เห็น​แล้ว​ประหลาด​อย่าง​มาก​ ราวกับ​เป็น​ทหาร​หนี​ทัพ​

ทว่า​อด​ยอมรับ​ไม่ได้​ เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ พลัง​การ​สู้รบ​ของ​ทั้ง​สี่คน​นั้น​ได้​เพิ่มขึ้น​เป็นอย่างมาก​

นี่​เป็น​ผลประโยชน์​จาก​การ​เปลี่ยนความคิด​ของ​ห​ลี่​มู่

ขณะ​ที่ทำการ​หา​สมบัติ​ก่อนหน้า​ ห​ลี่​มู่จู่ๆ คิด​ขึ้น​มาได้​ ว่า​ได้​ฝังยันต์​เต๋า​ไว้​ใน​ร่าง​ของ​คน​ทั้ง​สี่แล้ว​ ควบคุม​ได้​อย่าง​หมดจด​ จะเป็น​หรือ​ตาย​ก็​อยู่​ภายใต้​การ​ร่าย​ใน​ใจของ​เขา​ ดังนั้น​จึงมอบ​สมบัติ​บางส่วน​ให้​พวกเขา​ เมื่อ​ติด​ยุทโธปกรณ์​ พลัง​ก็ได้​เพิ่มขึ้น​ น่าจะ​ช่วยเหลือ​ตนเอง​ได้​มาก​พอควร​

“นี่​ เหมือน​มีคน​มาดูถูก​พวก​เจ้านะ​” ห​ลี่​มู่มอง​ไป​ยัง​ศิษย์​ทั้ง​สี่แห่ง​สำนัก​กำเนิด​ฟ้า

ใบหน้า​ของ​ศิษย์​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าทั้ง​สี่ปรากฏ​ความ​เดือดดาล​ขึ้น​จริงๆ​ เพียงแต่​ความ​เดือดดาล​นี้​สามส่วน​มาจาก​คำพูด​เหยียดหยาม​ของ​จอม​มาร​ฟ้า แต่​เจ็ด​ส่วนที่เหลือ​มาจาก​การ​ส่งเสริม​ยุยง​ของ​ห​ลี่​มู่

แสงหรี่​ระยิบระยับ​ ใน​มือ​ของ​พวกเขา​ทุกคน​ ได้​ปรากฏ​สมบัติ​เต๋า​คนละ​หนึ่ง​ชิ้น​ขึ้น​มาอย่าง​ไม่น่าเชื่อ​

“ดูถูก​พวกเรา​ ก็​เท่ากับ​ดูถูก​เจ้านาย​” ชาย​จมูก​เหยี่ยว​งุ้มเอ่ย​ขึ้น​

“คน​ที่​ดูถูก​เจ้านาย​ สมควร​ตาย​” ชาย​คิ้ว​ตรง​เสริม​มา

“ความตาย​มีหลาย​รูปแบบ​” ชาย​ผอม​สูงเอ่ย​ต่อ​

“พวกเรา​สามารถ​มอบ​ให้ได้​สี่ประเภท​” ปิดท้าย​ด้วย​ศิษย์​คน​สุดท้าย​

‘สาก​สะท้าน​ใจ’ ใน​มือ​ของ​ชาย​จมูก​เหยี่ยว​งุ้ม ชาย​คิ้ว​ตรง​ถือ​ ‘ระฆัง​สะท้าน​วิญญาณ​’ ศิษย์​ร่าง​ผอม​สูงถือ​กระบอง​สั้น​สีทอง​ เปล่งแสง​เต๋า​ เพียง​ดู​ก็​รู้​ว่า​เป็น​สมบัติ​เต๋า​ที่​ไม่ได้​ด้อย​ไป​กว่า​สาก​สะท้าน​ใจ ศิษย์​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าคน​สุดท้าย​ กลับ​ถือ​กระเป๋า​ห้า​สีไว้​ใบ​หนึ่ง​ ล้วง​เอา​หิน​ห้า​สีสิบ​แสงออก​มาจาก​ด้านใน​ มีคลื่น​พลัง​วิญญาณ​ไหลเวียน​…

คน​สี่คน​ สมบัติ​เต๋า​สี่ชิ้น​

คน​สี่คน​ สี่ประโยค​

เมื่อ​รวมกัน​แล้ว​ ดู​มีพลัง​อย่าง​มาก​

ตอนนี้​เอง​ สีหน้า​ของ​จอม​มาร​ฟ้าได้​เปลี่ยนไป​

เกิด​อะไร​ขึ้น​?

ได้รับ​สมบัติ​เต๋า​กัน​มาด้วย​?

นี่​มัน​…อู้ฟู่​เกินไป​หรือเปล่า​?

ไม่มีเหตุผล​เอา​เสีย​เลย​

ศิษย์​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าทั้ง​สี่ที่​ไม่มีสมบัติ​เต๋า​ ก็​เหมือน​ลูก​พลับ​นิ่ม​ที่​เขา​จะเด็ด​ทิ้ง​ตอน​ไหน​ก็ได้​ ทว่า​พอ​มีสมบัติ​เต๋า​แล้ว​…ใคร​จะรู้​ว่า​สมบัติ​เต๋า​ประหลาด​มากมาย​ที่​ได้รับ​จาก​วิหาร​สุสาน​เทพ​นี้​ มีพลัง​อานุภาพ​น่ากลัว​อะไร​บ้าง​ แพ้ชนะ​ก็​บอก​ได้​ยาก​แล้ว​

ห​ลี่​มู่คน​นี้​ ไป​เอา​ดวง​เอา​โชค​มาจาก​ไหน​ จึงได้รับ​สมบัติ​มากมาย​จาก​พื้นที่​สุสาน​เทพ​เช่นนี้​ กระทั่ง​คนรับใช้​ก็​ยัง​อู้ฟู่​เหลือ​ค​นา​ ถือ​สมบัติ​เต๋า​กัน​คนละ​ชิ้น​? นี่​มัน​สวนทาง​สวรรค์​เกินไป​แล้ว​

สถานการณ์​เช่นนี้​ ทำเอา​สอง​สาว​พี่น้อง​ เด็กชาย​เผ่า​ผู้วิเศษ​และ​หญิง​ชรา​ไม้เท้า​ดำ​ที่​แขนขา​ต่อกัน​แล้ว​ตกตะลึง​เป็นอย่างมาก​

พลานุภาพ​ของ​ ‘ระฆัง​สะท้าน​วิญญาณ​’ จาก​สมบัติ​เต๋า​ทั้ง​สี่ พวกเขา​ได้​เห็น​มาแล้ว​ มัน​ราวกับ​ฝันร้าย​ ทำเอา​พวกเขา​ต้อง​จ่าย​สิ่งที่​ต้อง​แลก​ไป​อย่าง​หนักหน่วง​

ทว่า​ห​ลี่​มู่กลับ​เอา​ระฆัง​ชิ้น​นี้​มอบให้​กับ​คนใช้​ข้าง​กาย​ตนเอง​?

คำอธิบาย​ที่​สมเหตุสมผล​ มีเพียง​อย่าง​เดียว​

นั่น​ก็​คือ​ห​ลี่​มู่มีสมบัติ​ที่​ร้ายกาจ​ยิ่งกว่า​

เช่นนั้น​ตอนนี้​ก็​เกิด​ปัญหา​แล้ว​

เมื่อ​มีสี่คน​นี้​ บวก​ห​ลี่​มู่และ​กัว​อวี่​ชิง รวม​แล้วก็​เป็นยอด​ฝีมือ​หก​คน​ เมื่อ​ครู่​ตอนที่​ช่วยเหลือ​คน​ ห​ลี่​มู่และ​กัว​อวี่​ชิงได้​แสดง​พลัง​ที่​เพียง​พอกับ​การ​ต่อกร​กับ​ใครก็ตาม​ได้​ออกมา​แล้ว​ เพียง​พอที่จะ​ทำให้​ผู้​บำเพ็ญ​ทุกคน​ในที่นี้​รู้สึก​หวาดกลัว​ ส่วน​ศิษย์​สำนัก​กำเนิด​ฟ้าถึงแม้จะมีพลัง​ที่​อ่อนแอ​ ทว่า​เมื่อ​มีสมบัติ​เต๋า​ใน​มือ​มัน​ก็​เป็น​อีก​เรื่อง​…

ดังนั้น​ นับ​จาก​จำนวน​คน​แล้ว​ ฝั่งห​ลี่​มู่ถือว่า​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ที่​ได้เปรียบ​กว่า​

ใบหน้า​ของ​หญิง​ชรา​ไม้เท้า​ดำ​ปรากฏ​แวว​ตกตะลึง​หวาดกลัว​ เกิด​ความรู้สึก​สั่น​ผวา​ด​ต่อ​ห​ลี่​มู่ ริมฝีปาก​ของ​นาง​ขยับ​ไร้​ซุ่มเสียง​ เหมือนกับ​กำลัง​พูด​อะไร​บางอย่าง​กับ​ชายหนุ่ม​ชุด​ดำ​สะพาย​ดาบ​

ครู่เดียว​สายตา​ของ​ชายหนุ่ม​ชุด​ดำ​สะพาย​ดาบ​ ที่​จ้องมอง​ระฆัง​สะท้าน​วิญญาณ​ของ​ชาย​คิ้ว​ตรง​ ใบหน้า​เคร่งขรึม​ราว​น้ำค้างแข็ง​ ได้​ปรากฏ​สีหน้า​เพ่ง​สมาธิเตรียมพร้อม​ขึ้น​

ดวงตา​ทั้งคู่​ของ​จอม​มาร​ฟ้าเปล่งประกาย​สีแดง​ ไม่พูดไม่จา​ อาจจะ​เพราะ​แก้ม​รู้สึก​เจ็บ​นิดหน่อย​

ปู้เฟยเหยียน​ดึง​น้องสาว​มุทะลุ​เอาไว้​ ใช้สายตา​เย็นชา​และ​ประหลาดใจ​จ้อง​ไป​ที่​ห​ลี่​มู่ ใน​ดวงตา​ฉายแวว​อริ​ออกมา​อย่าง​ไม่ปิดบัง​ ถึงอย่างไร​ห​ลี่​มู่ตอน​ที่อยู่​ใน​วิหาร​เซียน​ทะยาน​ ได้​ใช้ระฆัง​สะท้าน​วิญญาณ​มาปล้น​เธอ​ สร้าง​ตราบาป​ต่อ​สตรี​ แล้​วจะ​ไม่เอาคืน​ได้​อย่างไร​กัน​?

บุตร​ศักดิ์สิทธิ์​ทะเล​โลหิต​สีหน้า​นิ่งเงียบ​ มอง​ไม่ออก​ถึงความคิด​ ราวกับ​กำลัง​เตรียมการ​อะไร​อยู่​

ส่วน​จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​ก้มหน้า​หลบตา​ ทำตัว​นิ่ง​ลง​เรื่อยๆ​ อยู่​ใน​ท่าที​ของ​ข้าทาส​อย่าง​แท้จริง​ ยืน​อยู่​ด้านหลัง​บุตร​ศักดิ์สิทธิ์​ทะเล​โลหิต​ เก็บ​กลิ่นอาย​พลัง​ทั้งหมด​ ไม่ให้​ห​ลี่​มู่จำฐานะ​ของ​ตนเอง​ได้​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา