เส้นผมที่เดิมทีเป็นสีดอกเลาเปลี่ยนเป็นสีดำสนิททั้งหมด หนาดกราวน้ำตก ใบหน้าที่หล่อเหลาแฝงความน่าเกรงขามมีเครื่องหน้าสมบูรณ์แบบ ไร้ซึ่งจุดด่างพร้อยใดๆ มีเสน่ห์ที่พิเศษเฉพาะตัว ดวงตาทั้งคู่ราวกับหุบเหวลึกบ่อน้ำลึกโบราณ มองไม่เห็นก้น ไม่เห็นเงา ไม่เห็นความรู้สึก ความถูกต้องและชั่วร้ายรวมอยู่ด้วยกัน จ้องมองเหล่ามดแมลงอย่างสูงส่งไม่ยินดียินร้าย
ชุดคลุมยาวผ้าหยาบที่สวมอยู่บนร่างเขา ก็เหมือนชุดเกราะจักรพรรดิที่สูงส่งเหนือใคร
กลิ่นอายของเขาเปลี่ยนไปแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นหลี่มู่หรือผู้ฝึกตนนอกพิภพคนอื่นๆ ในพริบตาที่สายตาของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงมองมา ต่างก็เกิดความรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อยอย่างไม่อาจห้ามได้ รู้สึกว่าตนเองเป็นดั่งมดที่ถูกมังกรยักษ์จับจ้องอยู่ เพียงแค่มังกรยักษ์หายใจก็สามารถเป่าจนตนเองกลายเป็นเถ้าลอยไปได้
หลี่มู่ไม่พูดอะไร ยืนอยู่นิ่งๆ
เมื่อครู่ยามจักรพรรดิเซียนหมิงกวงปรับลมหายใจ พลังฟ้าดินดุจคลื่นน้ำ ทุกคนถูกบีบออกไปไกลหลายลี้จากลานบ้าน ตำแหน่งของพวกหลี่มู่อยู่ใกล้ด้านล่างของยอดเขานิ้วกลางแห่งเขาห้าองคุลีที่สุด แทบจะแนบชิดกับผนังหินผาสีขาวอยู่แล้ว
“ท่านอาจารย์ ในที่สุดท่านก็หายเป็นปกติแล้ว?” หวางซืออวี่เอ่ยขึ้นอย่างยินดี
สายตาของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงตกอยู่บนตัวหวางซื่ออวี่ บนใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้ม กล่าวว่า “แค่ฝืนกระตุ้นเลือดลมเท่านั้น ยังห่างจากคำว่าหายเป็นปกติอีกไกล แต่ว่าน่าจะออกจากสุสานเทพแห่งนี้ได้แล้ว”
ขอแค่ออกจากสุสานเทพก็จะหลุดพ้นจากกรงขังนี้ ความยิ่งใหญ่ของทางช้างเผือก วาสนาอันไร้ขีดจำกัด และยังมีสมบัติอีกนับไม่ถ้วน ค่อยๆ ตามหาของมารักษาก็ยังได้
ดูออกว่าสภาพจิตใจของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงนั้นไม่เลวเลย
“ยินดีด้วยผู้อาวุโส”
“ขออวยพรผู้อาวุโส”
“สามารถเป็นอีกแรงที่ช่วยให้อาวุโสออกจากสุสานเทพนี้ได้ ถือว่าเป็นเกียรติของพวกเราจริงๆ”
บรรดาผู้ฝึกตนนอกพิภพทยอยเข้าไปประจบสอพลอจักรพรรดิเซียนหมิงกวง
พวกเขาที่หยิ่งทะนงสูงส่ง ขณะเผชิญหน้ากับคนพื้นเมืองบนดาวนี้ช่างแกร่งกล้าอย่างที่สุด เต็มไปด้วยความรู้สึกว่าเหนือกว่า ทว่าพออยู่ต่อหน้าตัวตนที่ยิ่งใหญ่กว่าแข็งแรงกว่า สุดท้ายก็ยังยากจะหลีกเลี่ยงไม่เผยธาตุแท้เลวทรามของมนุษย์ออกมา และเปลี่ยนมาเป็นประจบสอพลอแทน
นี่คือลักษณะอย่างหนึ่งของสัตว์
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงพยักหน้า ค่อนข้างฮึกเหิมได้ใจ “หลุดพ้นจากกรงขัง ตัดเครื่องพันธนาการแต่ละอย่างไป ไม่เลว น้ำใจของพวกเจ้าข้ารับรู้แล้ว ข้าจะไม่อยุติธรรมกับพวกเจ้าแน่นอน ว่ามาเถอะ พวกเจ้าต้องการอะไร”
เหล่าผู้ฝึกตนนอกพิภพพากันฮือฮา
สิ่งที่พวกเขารอคอยก็คือช่วงเวลานี้
มีคนหวังอยากจะได้วิชา จักรพรรดิเซียนหมิงกวงก็ใช้อภินิหาร ส่งวิชาที่สูงส่งยิ่งเข้าไปในหัวของคนเหล่านั้นโดยตรง ผู้ฝึกตนที่ได้รับวิชาไม่มีใครไม่ทำหน้ายินดีปรีดาประหนึ่งลุ่มหลงเมามาย
มีคนหวังจะติดตามอยู่ข้างกายจักรพรรดิเซียนหมิงกวง คอยรับใช้ซ้ายขวา จักรพรรดิเซียนหมิงกวงส่ายหน้าปฏิเสธ
เขามีฐานะระดับไหน เป็นถึงจักรพรรดิเซียน ใครหน้าไหนก็ได้จะมาติดตามข้างกายได้อย่างไร ไม่ถูกคนเขาหัวเราะเอาหรือ? ท้ายสุดจึงใช้วิธีประนีประนอม ให้คำมั่นสัญญากับพวกเขาว่าจะช่วยเหลือ จะลงมือเพื่อพวกเขาครั้งหนึ่ง สิ่งนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้บรรดาผู้ฝึกตนนอกพิภพดีใจแทบคลั่งแล้ว
พูดได้ว่า เป้าหมายใหญ่ที่สุดในการเข้ามาในสุสานเทพของพวกเขาครั้งนี้เป็นจริงขึ้นมาแล้ว
สำนักค่ายกลสวรรค์ก็ได้รับคำมั่นจากจักรพรรดิเซียนหมิงกวงว่าจะลงมือเพื่อพวกเขาครั้งหนึ่งเช่นกัน
ผู้อาวุโสสูงสุดโอวหยางจื้อคารวะ เอ่ยว่า “ผู้อาวุโส สำนักค่ายกลสวรรค์ของข้าขอบังอาจ ยังมีเรื่องเล็กอีกเรื่องหนึ่ง หวังว่าผู้อาวุโสจะมอบความเป็นธรรมให้พวกเราได้”
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงอารมณ์ดีอย่างมาก พยักหน้าพูดด้วยรอยยิ้มบาง “ว่ามาเถิด ‘ลูกกลอนมันสมองมังกรแดง’ ที่พวกเจ้ามอบให้เมื่อครู่เป็นวัตถุเสริมแก่นพลังชั้นยอดที่สุดในหมู่ยาลูกกลอนทั้งหลาย มีส่วนช่วยตัวข้ามากที่สุด พวกเจ้าขอได้อีกเรื่องหนึ่ง”
โอวหยางจื้อยินดียิ่ง รีบร้อนกล่าว “ผู้อาวุโส สำนักค่ายกลสวรรค์ของข้ามีตำราวิชาที่สืบทอดมาอย่างลับๆ ชื่อว่า ‘ค่ายกลเต๋าฟ้าวิวัฒน์’ ซึ่งหายไปในดาวดวงนี้ และถูกเด็กน้อยรุ่นหลังคนหนึ่งที่โชคดีเก็บไปได้ ผู้น้อยพยายามอ้อนวอนให้เขาส่งคืน ทั้งยังยินดีจะชดเชยให้เขา แต่กลับถูกปฏิเสธ ดังนั้นจึงอยากให้ท่านมอบความเป็นธรรมแก่สำนักค่ายกลสวรรค์ของข้า ให้เขาส่งมอบตำราคืนมา”
“ขอผู้อาวุโสมอบความเป็นธรรมด้วย” เฉียนเจิ้นอวิ๋นซึ่งอยู่อีกด้านก็เล่าเรื่องที่หลี่มู่ยึดวิชาของสำนักตนไปด้วยสีหน้าสัตย์ซื่อจริงใจ “หลี่มู่คนนี้เป็นถึงสหายของเทพธิดาหวาง พวกเราก็ไม่อยากทำเกินเลย เพียงแค่ต้องการตำราวิชาลับคืนเท่านั้น”
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงมองไปยังหลี่มู่ “สหายน้อย มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?”
หลี่มู่รู้สึกว่าด้วยสติปัญญาในแววตาของจักรพรรดิเซียนหมิงกวง จะต้องมองเรื่องโป้ปดของสำนักค่ายกลสวรรค์ออกอย่างง่ายดาย ทว่ากลับหันมาย้อนถามเช่นนี้ เรื่องนี้มันแปลกๆ แต่เขายังคงส่ายศีรษะไม่ยอมรับ ตอบกลับว่า “ไม่มีเรื่องเช่นนี้แน่นอน”
เฉินเจี้ยนอวิ๋นเอ่ยด้วยสีหน้าโกรธเคือง “หลี่มู่ พวกเรายอมถอยให้เจ้าก้าวใหญ่ เจ้ายังไม่รู้จักพออีกหรือ? คืนสิ่งของให้แก่เจ้าของเป็นเรื่องชอบธรรมอยู่แล้ว พวกเราเห็นแก่เจ้าที่เป็นสหายของเทพธิดาหวาง ถอยให้ก้าวใหญ่มากแล้ว เจ้าอย่ารังแกกันนักเลย”
หลี่มู่ขี้เกียจจะพูดกับพวกปลิ้นปล้อนกลุ่มนี้แล้ว
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงมองหลี่มู่ พอตั้งท่าจะพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา