“ไม่ต้องกังวล สายของข้าตอนนี้กระจัดกระจายกันไปหมด ไม่เหลืออำนาจใดๆ แล้ว มีวิชาอะไรก็สำแดงออกมาให้หมดเถอะ มิฉะนั้นคนที่ต้องเสียใจก็คือเจ้า” ชายชราแซ่หม่าไม่มีท่าทีหวาดกลัวใดๆ
เขาก้าวออกไปก้าวหนึ่งก็เปลี่ยนอีกกระบวนท่าหมัด คำรามเสียงต่ำ ฝ่ามือ แขนและคอมีขนลิงสีทองงอกออกมา ส่องประกายแสงสีทองเหมือนเข็มเหล็ก
กระแสอากาศเป็นชั้นๆ ที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าพันล้อมรอบกายเขา จากนั้น กลิ่นอายอันแข็งแกร่งก็พุ่งออกมาทั่วทิศทาง เส้นแสงบิดม้วน มิติสั่นคลอนเหมือนกระดาษ
ชายชราแซ่หม่าออกหมัดอีกครั้ง
แต่ละหมัดๆ ความเร็วช้าเนิบ
คนอื่นๆ สามารถมองเห็นหมัดของชายชราแซ่หม่าแหวกอากาศได้อย่างชัดเจน กระแสอากาศแต่ละชั้นๆ ถูกหมัดชกจนปั่นป่วน ทั้งๆ ที่ออกหมัดเนิบช้า แต่กลับทำให้คนรู้สึกว่ารวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง
“วายุสวรรค์เมฆาวารีตามแต่จิตปรารถนา” จักรพรรดิเซียนหมิงกวงเอ่ยอีกครั้ง โคจรวิชาเซียน
สีหน้าของเขาเย็นชา “เจ้าลิงน้อย เจ้าปกป้องผู้ผิดบาปคนนี้ไม่ได้ ข้าถอยให้เจ้าสามกระบวนท่า หลังจากสามกระบวนท่าก็ไสหัวไปเสีย มิฉะนั้น อย่าโทษที่ข้าไม่ไว้หน้าฉีเทียนต้าเซิ่ง[1]”
ระหว่างพูดรอบกายเขาก็มีเมฆหมอกไหลเวียน คลุมเครือเดี๋ยวเลือนรางเดี๋ยวปรากฏ จากนั้นหลุมตราประทับหมัดขนาดมหึมาแต่ละรอบๆ ก็ปรากฏขึ้นบนหมอกเมฆเคลื่อนคล้อยกลุ่มนี้ สุดท้ายก็ถูกสลายไป
ร่างของจักรพรรดิฉินหมิงโอนเอนเล็กน้อย จากนั้นถึงจะยืนได้มั่น
ชายชราแซ่หม่าจิตต่อสู้ตื่นขึ้น เอ่ย “ผู้ที่ออกมาจากเขาฮวากั่ว แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีบุญคุณตอบแทนบุญคุณ มีความแค้นต้องล้างแค้น ไม่รู้จักว่าอะไรคือไสหัวไป…เทพวานรแปลงกาย จงแปลงร่าง!”
ท่ามกลางเสียงคำราม ร่างของเขาขยายใหญ่ขึ้น
เสื้อผ้าบนร่างของเขาขยายฉีกขาด ขนสีทองงอกอย่างรวดเร็วเหมือนหญ้า เพียงชั่วพริบตาร่างก็สูงหลายสิบจั้ง ประหนึ่งสัตว์ยักษ์ที่มาจากบรรพกาล ทั่วร่างพันล้อมด้วยกลิ่นอายเหี้ยมโหดน่าหวาดกลัว
พวกผู้ฝึกฝนนอกพิภพอย่าง ‘ดาบมาร’ จ่างซุนฉางคง เด็กหนุ่มเผ่าผู้วิเศษสีหน้าตื่นตะลึงถูกพลังเช่นนี้กดดันจนหายใจไม่ออก ต่างถอยหลังไปด้วยสีหน้าตกใจ
นี่เป็นกลิ่นอายระดับขุนพล เป็นขอบเขตเหนือพวกเขา ไม่ใช่พลังที่พวกเขาจะต้านทานได้
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงหน้าเปลี่ยนสี “เจ้าลิงปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม อย่าได้คืบเอาศอก อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้าจริงๆ นะ ต่อให้เป็นฉีเทียนต้าเซิ่ง ยังต้องถอยให้ข้าสามส่วน…”
ชายชราแซ่หม่าอารมณ์ฉุนเฉียวถึงขีดสุด ได้ยินคำพูดนี้ก็เหมือนกับถูกเหยียบหาง เอ่ยอย่างโมโห “ถุย จอมปลอม! ตอนที่ท่านอ๋องของข้าอยู่ ในห้วงดาราสมุทรอันไร้ขอบเขตนี้มีใครกล้าเป็นศัตรูกับเขาฮวากั่ว? เจ้าเป็นใคร? คู่ควรจะมาเอ่ยสมญานามของท่านอ๋องของข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างนี้หรือ? ก็แค่คนตกยุคที่เดินออกมาจากผนึกสะกดเท่านั้น ไว้หน้าเจ้า เจ้าเป็นจักรพรรดิเซียนหมิงกวง ไม่ไว้หน้าเจ้า เจ้าเป็นตัวอะไร? ถุย ก็แค่สุนัขรับใช้ใต้คมเขี้ยวสัตว์ก็เท่านั้น”
ร่างสูงใหญ่กำยำของเขาประดุจเทพสีทอง ฝ่ามือมหึมาประดุจขุนเขา ฝ่ามือหนึ่งฟาดลงมาทำเอากลางอากาศหอบม้วนเป็นคลื่นทะเลเมฆเป็นชั้นๆ ตบไปยังจักรพรรดิเซียนหมิงกวงเหมือนตบแมลงวัน
“เจ้านี่รนหาที่ตาย…แสงเรืองรองทำลายหมื่นเคราะห์กรรม ฆ่า!”
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงโกรธจัด ในที่สุดก็ไม่ทำเพียงแค่ป้องกันเท่านั้นแล้ว หมอกเมฆรอบกายหลอมรวมเป็นหอกแสงเล่มหนึ่ง แหวกฉีกท้องฟ้า โจมตีไปยังร่างของวานรยักษ์สีทองอย่างรวดเร็ว
ครืน!
ในอากาศ อักขระน่าหวาดกลัวแผ่กระจาย พลังน่าครั่นคร้ามหอบม้วน
ร่างของวานรยักษ์ขนทองโดนโจมตีจนเซ แต่ฝ่ามือหนึ่งกลับกำหอกแสงเรืองรองนั่นเอาไว้ แล้วขยี้จนแหลก จากนั้นฝ่ามือมหึมาก็กวาดออกไปตบจักรพรรดิเซียนหมิงกวง
ครืน ตูม ตูม!
จักรพรรดิหมิงกวงสำแดงกลวิชาอภินิหาร ปะทะซึ่งหน้า กลับถูกฝ่ามือนี้ของวานรยักษ์สีทองซัดกระเด็นไปหลายร้อยจั้ง ไปกระแทกเข้ากับยอดเขา หินผาทลายกราวลงมา
“ท่าทางเจ้าจะอ่อนแอกว่าที่ข้าคิดเอาไว้เสียอีก” วานรยักษ์เอ่ยภาษามนุษย์ มันยกเท้าข้างหนึ่งขึ้น แล้วเหยียบไปยังจักรพรรดิเซียนหมิงกวงทันที “วันนี้ ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่า อะไรที่เรียกว่าเขาฮวากั่ว”
“บังอาจ” จักรพรรดิเซียนหมิงกวงโมโหเดือดดาล
เขาสำแดงกลวิชา ร่างขยายใหญ่ขึ้นทันที เพียงชั่วพริบตาก็สูงหลายร้อยจั้ง จากนั้นก็ออกหมัดซัดไปยังวานรยักษ์สีทองทันที
ครืน ตูม ตูม!
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงกระเด็นลอยอีกครั้ง
“สู้วิชากายเนื้อกับสายฮวากั่วของข้า?” วานรสีทองหัวเราะ เสียงดังไปทั่วฟ้าดินราวอัสนีฟาด พลังฟ้าดินที่แผ่ระลอกทั่วท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นเมฆขาว และประดุจหิมะถล่ม ภาพทิวทัศน์งดงามและอลังการยิ่งนัก
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงถูกซัดจนสะเทือน กระเด็นลอยไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
กลวิชากายเนื้อของสายฮวากั่วเรียกได้ว่าไร้เทียมทาน จักรพรรดิเซียนหมิงกวงทั้งตกใจทั้งโมโห กลับถูกกลวิชาของชายชราแซ่หม่าสะกดเอาไว้โดยสิ้นเชิง สภาพย่ำแย่เป็นอย่างมาก
“สมควรตาย ทำข้าเสียการ”
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงคำรามอย่างโกรธแค้น ในใจเกิดความคิดนี้ แต่ก็ฝืนสะกดมันลงไป
“เจ้าแก่ เจ้ายอมแพ้หรือไม่?” เสียงของชายชราแซ่หม่าดังก้องไปในเขาห้าองคุลี
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงไม่พูดอะไร ลงมือไปอีกครั้ง
ภาพเช่นนี้เป็นศึกเทพเซียนชัดๆ
ใน ‘ค่ายกลสูงสุดสยบมาร’ และพลังกดดันเขาห้าองคุลี ก็มีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับขุนพลอย่างชายชราแซ่หม่า และจักรพรรดิเซียนหมิงกวงเท่านั้นถึงจะสามารถสำแดงกลวิชาอภินิหารได้อย่างตามใจ คลื่นพลังน่าหวาดกลัวทำให้ผู้ฝึกฝนนอกพิภพทั้งหมดต่างสั่นสะท้านอย่างอดไม่ได้ ถอยหลังไปไม่หยุด
และในตอนนี้เอง กัวอวี่ชิงพยุงหลี่มู่กลับไปแล้ว
“คุณชาย ท่านไม่เป็นไรใช่ไหมคุณชาย ยังหายใจได้หรือไม่?” หมิงเยวี่ยตบใบหน้าของหลี่มู่อย่างร้อนลน “ท่านไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหม?”
“เจ้าตบอีกสามสี่ทีข้าตายแน่แล้ว” หลี่มู่ที่แต่เดิมเตรียมจะแกล้งตายอีกสักหน่อย บาดแผลบนใบหน้าที่เพิ่งจะสมานตัวเล็กน้อยถูกตบจนปริอีกครั้ง ลืมตาขึ้นอย่างทั้งเจ็บทั้งโมโห
ชายชราแซ่หม่ามองมายังหลี่มู่ “เจ้าหนูน้อย พาสหายของเจ้าไปเสียเถิด ภายในยี่สิบสี่ชั่วยาม ข้ารับประกันความปลอดภัยของเจ้า ทว่า วันหน้าก็ต้องอาศัยตัวเจ้าเองแล้ว ห้วงดาราสมุทรกว้างใหญ่ เกรงว่าคงไม่มีที่ที่ปลอดภัยสำหรับเจ้าแล้ว เจ้าระวังตัวเถอะ”
หลี่มู่กำลังจะพูดอะไร
ในตอนนี้เอง ผืนดินสั่นไหวเล็กน้อย เหมือนปรากฏการณ์ก่อนแผ่นดินไหว
จากนั้น ทั้งเขาห้าองคุลีก็ไหวสั่นครืนครานอย่างรวดเร็ว
ชายชราแซ่หม่าหน้าเปลี่ยนสีทันใด มองไปยังยอดเขาห้าองคุลี
“เดิมข้าไม่อยากฆ่าลิงจากเขาฮวากั่ว เป็นเจ้าที่บีบข้า…” เสียงของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นลอยออกมาจากยอดเขาองคุลีที่หมอกฝุ่นลอยตลบ “ลิงโง่ ทำข้าเสียเรื่อง วันนี้ต่อให้ราชันของเจ้าอยู่ที่นี่ เจ้าก็ต้องตาย”
เขาเก็บความคิดนั้นไม่ได้อีกต่อไป สำแดงเคล็ดวิชาสุดยอดออกมา
เห็นเพียงทั้งเขาห้าองคุลีสั่นไหวรุนแรงเหมือนแผ่นดินไหว ยอดเขาห้ายอดประหนึ่งนิ้วมือทั้งห้าค่อยๆ ลอยขึ้นท่ามกลางการสั่นไหวรุนแรง
ท่ามกลางเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น หินขนาดมหึมานับไม่ถ้วนร่วงหล่นลงมาจากยอดเขาทั้งห้า หมอกฝุ่นตลบฟุ้ง หินผาที่ปกคลุมอยู่นอกยอดเขาถูกพลังไร้รูปร่างกะเทาะออก เผยให้เห็นกระดูกสีขาวที่กะพริบไปด้วยอักขระแห่งมรรคาในนั้น
จากนั้น ยอดเขาทั้งห้าก็เปลี่ยนเป็นกระดูกนิ้วมือขนาดใหญ่มหึมา มันเริ่มกางออก เหมือนมีคนกำลังกางมืออย่างนั้น กระดูกนิ้วทุกท่อนไหลเวียนไปด้วยพลังมหาศาลที่ไม่อาจบรรยายได้ อักขระเต๋าถี่ยิบหมุนวน เหมือนห้วงดาราสมุทรพริบพราย
ภาพนี้น่าตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง และน่าสะพรึงกลัวเป็นที่สุดเช่นกัน ยอดเขาห้าลูกกลายเป็นมือห้านิ้ว
“ตราสะกดมารจรัสแสง…สะกด!”
ร่างของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงปรากฏอยู่กลางท้องฟ้าสูงขึ้นไปสามสิบจั้ง
ทั่วร่างของเขากะพริบไหลวนไปด้วยแสงเจิดจ้า สีหน้าเย็นชา ผมดำปลิวสยาย เหมือนเปลวไฟสีดำกำลังลุกโหม แขนซ้ายที่มือขาดไป ที่ปากแผลมีแสงรางๆ ไหลวน
แขนข้างที่มือขาดสะบัดเบาๆ เขาองคุลีก็แปรเปลี่ยนเป็นฝ่ามือกระดูกขนาดมหึมาพลิกมือคว่ำ กดทับลงมาจากกลางฟ้า ปกคลุมไปครึ่งท้องฟ้า ครอบวานรสีทองยักษ์หน้าตาที่แท้จริงของชายชราแซ่หม่าเอาไว้ใต้ฝ่ามือ
ครืน
ฟ้าดินสั่นไหว
“การโจมตีนี้ แต่เดิมเตรียมไว้ให้อีกคน น่าเสียดายที่คนคนนั้นยังไม่ปรากฏ เจ้าลิงโง่ ตัวเจ้ากลับรนหาที่ตาย…แต่ถึงอย่างไรก็เป็นสัตว์ทั้งคู่ เช่นนั้นเจ้าก็ตายแทนมันก็แล้วกัน”
สีหน้าท่าทางของจักรพรรดิเซียนเย็นชาเหี้ยมโหด
………………………………………
[1] ฉีเทียนต้าเซิ่ง แปลว่าผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน เป็นฉายาของซุนหงอคงซึ่งตั้งโดยเง็กเซียนฮ่องเต้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา